เปิดโลกการศึกษามุสลิม - เรื่องเก่าเล่าใหม่ตอน 2อิสลามคือลมหายใจของมุสลิมปัตตานี
หลังจากคอลัมน์เปิดโลกการศึกษามุสลิม ได้นำเสนอตอนแรกว่าด้วยเรื่องพี่น้องมุสลิมปัตตานี เพื่อสร้างความกระจ่างระหว่างกัน วันนี้ขอนำแฟนๆ เข้าสู่อดีตวันวานของพี่น้องมุสลิมปัตตานี ระหว่าง อดีต ปัจจุบัน อนาคต คน ศาสนา และสังคม
ปัตตานี มีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องภาษา ศาสนา และขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของอิสลาม เป็นที่มาของศาสนาอิสลามและผู้รู้ในประเทศไทย แม้ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ ไม่ว่าจะในโซนอินโดจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน และโลกอาหรับทั่วไป เพราะเรื่องภาษาและเรื่องกฎหมายศาสนาที่ตรงกัน บวกกับปัตตานีคือสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยบรรยากาศความเป็นมุสลิม แม้จะมีอีกหลายพันไม่ใช่ก็ตาม
สภาพสังคมคนบ้านๆ บ้านยกเสาสูง หลังเล็กๆ หลังคามุงจากหรือสังกะสีแล้วแต่ฐานะ ผู้ชายการแต่งชุดด้วยผ้าโสร่ง เสื้อตือโละบลังงอ หรือยูเบาะห์ (ชุดลึก) หรือเสื้อเชิ้ต กุฟฟีเยาะห์ (หมวก) ผ้าซาราบัน ซึ่งวางอยู่บนศีรษะหรือไหล่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนไปละหมาดในมัสยิด ผู้หญิงเด่นด้วยฮิญาบ (ผ้าคลุมศีรษะ) ตลอดเวลา การแต่งกายเรียบง่ายด้วยผ้าถุง หรือชุดสวยงามในวันสำคัญทางศาสนา แต่ถ้าไปละหมาดจะมีชุดประจำสำหรับผู้หญิงและใช้สีขาวเหมือนกันหมดบ่งบอกถึงความสะอาดเย็นตาในการที่เข้าเฝ้าอัลลอฮ์วันละ 5 เวลาเป็นประจำทุกวัน
งานหลักคือกรีดยางพารา เป็นครูสอนศาสนาหรือไม่ก็สามัญ และมีเวลาว่างอยู่กับครอบครัว ในสังคมเพื่อนบ้าน และการทำกิจกรรมร่วมกันแล้วแต่ความสำคัญของงานนั้นๆ การไปร่วมงานทุกงาน ส่วนใหญ่จะมีการแยกระหว่างผู้หญิง ผู้ชาย หรือแม้แต่ในการจัดงานแต่งงาน หรืองานรื่นเริงต่างๆ ท่ามกลางสังคมศาสนาที่เรียบง่าย บริสุทธิ์ ทุกเวลาจะมีเสียงเรียกเตือนเพื่อให้นึกถึงอัลลอฮ์นั่นคือ เสียงอาซาน เพื่อไปร่วมละหมาดหรือละหมาดที่บ้านแล้วแต่ใครจะสามารถไปได้
เด็กๆ ทุกคนที่เติบโตขึ้นมาจะได้ยิน ได้เห็น ได้ฟังแต่ในเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา กอปรกับการเป็นอยู่ของพ่อแม่พี่น้องที่มีแต่ความเรียบง่ายสังคมของปัตตานีน่าอยู่และมีการเคารพให้เกียรติกันระหว่างหญิงชายในหน้าที่ที่รับผิดชอบ เพราะกฎหมายอิสลามคือสิ่งที่ปลูกฝังมาตั้งแต่ก่อนที่คู่บ่าวสาวจะวางแผนดำเนินการหาคู่ชีวิตด้วยซ้ำไป
พี่น้องปัตตานีจะรักและเคารพในศาสนาอิสลามของพวกเขา โดยเฉพาะผู้รู้คือผู้ที่เปรียบเสมือนสะพานที่จะทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งมีค่าในสายตาพระเจ้าและสังคม พี่น้องปัตตานีรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตัวเอง การอยู่อย่างสงบสุขในปัจจุบัน เพราะพ่อหลวงทรงให้ความเป็นธรรมให้ความรักอย่างทั่วถึงไม่ว่าศาสนาใด ทำให้พี่น้องปัตตานีรู้สึกสงบสุขอยู่กันมาด้วยดีและมีความสุข
วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสังคมพี่น้องของเรา มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมุสลิมที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ปัจจุบันถึงไม่ต้องอาบน้ำตอนฝัง และทำไมอาจารย์หรือครูต้องถูกดำเนินคดี หรือทำไมต้องแบ่งแยกดินแดน เพราะความคิดที่สวนทางกันเท่านั้นเอง เหตุการณ์น่าจะสงบได้ถ้าต่างฝ่ายต่างทำความเข้าใจในแกนของปัญหาและการแก้ปัญหาที่เปิดกว้างอย่างสมานฉันท์
เมื่อคืนผมดูรายการวู้ดดี้ ตอนสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ทรงพูดถึงประโยคที่ว่า “ตอนกรุงศรีโดนเผาโดยพม่าก็ทรงเสียใจแล้ว ตอนนี้ทรงเสียใจยิ่งกว่าที่คนไทยเผาเมืองไทยเอง” ผมไม่รู้ว่าใครคิดอะไรกันบ้าง แต่ผมอยากให้พวกเราทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดในประเทศไทยหรือคนไทยในต่างแดนคิดและไตรตรองกับคำพูดของพ่อหลวงอีกครั้ง เพราะสังคมปัจจุบันนี้มีเรื่องผลประโยชน์ทำให้สังคมสับสนหาคนที่ดีไม่ได้แม้คนดีจะเยอะแยะก็ตาม คนดีนั้นมีมาก แต่หายากคนที่ดี