ท่องแดนธรรม-วัดท่าไม้วัดที่พระครูสมุห์อุเทน"บรรจงสร้าง" | คมชัดลึก

 ตั้งแต่พระครูสมุห์อุเทน รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ท่านได้พัฒนาวัดได้อย่างรวดเร็ว รอบๆวัดปลูกต้นไม้เบญจพันธุ์ รวมทั้งที่ว่างอื่นๆ อาคารเสนาสนะต่างๆ มีอุโบสถ ศาลากเนกประสงค์ชั้นเดี่ยว กุฏิสงฆ์ เรือนถือศีล ศาลาท่าน้ำ ถังเก็บน้ำฝน บ่อปูนน้ำบาดาล ห้องน้ำ หอกรอง หอระฆัง เรือนกรรมฐาน และห้องพัสดุภัณฑ์ ทำให้มีญาติโยมมากมายหลั่งไหลเข้ามาที่วัด

 ถาวรวัตถุที่สำคัญภายในวัดท่าไม้ ณ ปัจจุบัน ประกอบด้วย

 ๑.พระอุโบสถ มีพระพุทธชินราชจำลองหน้าตัก ๖๙ นิ้ว เป็นพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งมีพระเชียงแสน พระสุโขทัย และพระอู่ทอง ร่วมประดิษฐานในพระอุโบสถด้วย

 ๒.ศาลาการเปรียญ มีพระพุทธหิรัญราช เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ปางประทานพร เป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ

 ๓.ศาลาชินบัญชร เป็นสถานที่รองรับพุทธศาสนิกชนในการปฏิบัติธรรมรักษาศีลเจริญสติปัฏฐานสี่   

 ๔.ศาลาบูรพาจารย์ เป็นศาลาที่ประดิษฐานพระเกจิดังในเมืองไทย ซึ่งทางวัดท่าไม้ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ๔ รูป ประกอบด้วย หลวงปู่ทวด วัดช้างให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)  พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง ติสสโร) เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำท่าจีน และหลวงพ่อยี

 ๕.ศาลาเทวาพิทักษ์ เป็นที่ประดิษฐานพระราหูเป็นศาลาประกอบพิธีกรรมการสวดดาวนพเคราะห์ย้ายรวมถึงใช้เป็นศาลาเอนกประสงค์ต่างๆ

 ๖.ศาลาพระธรรมจักรแก้ว

 ๗.ศาลาเจ้าแม่กวนอิม เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเชื้อสายจีนได้กราบสักการบูชา

 ๘.ศาลาพระแม่สิริมหามายา

 พระครูสมุห์อุเทน ได้ให้ควรามหมายของคำว่า "วัด" ไว้อย่างน่าคิดว่า วัดคือสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนเข้าถือวัตร ปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญวิปัสสนากรรมฐาน รวมถึงใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ชุมชนและสังคม นอกจากนี้วัดเป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ผู้เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้พำนักพักพิงอาศัยเพื่อปฏิบัติศาสนภารกิจ

 ด้วยเหตุสองปัจจัยนี้ วัดจึงเป็นสถานที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน สองฝ่าย คือฝ่ายผู้ให้และฝ่ายผู้รับ ซึ่งจะสลับกันทำหน้าที่ ซึ่งภายในวัดจะมีพระอุโบสถหรือโบสถ์ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ทำภารกิจต่างๆ ของบุคคลทั้งสองฝ่ายหรือที่เราๆ เข้าใจกันว่าในโบสถ์เท่านั้น วัดหรืออารามทุกที่จะต้องมีโบสถ์ถึงเรียกว่าวัด ถ้าไม่มีโบสถ์อาจเป็นได้แค่สำนักสงฆ์ หรือธรรมสถาน เท่านั้น เพราะเหตุนี้โบสถ์จังเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดภายในวัดนั้นๆ

สร้างธรรมสถานสร้าวงโบสถ์
 
 ปัจจุบันมีพุทธศาสนิกชนได้เข้ามาถือวัตร ปฏิบัติ รักษาศีลเป็นจำนวนมาก พระครูสมุห์อุเทน  จึงสร้างธรรมสถานวิโมกสิวาลัย บนเนื้อที่๗๐ ไร่ ตั้งอยู่ใน ต.ห้วยผาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จัดสร้างขึ้น เหตุผลเพราะวัดท่าไม้มีสถานที่ไม่เพียงพอที่จะรองรับพุทธศาสนิกชนที่จะมาเข้ามาถือวัตร ปฏิบัติธรรม และรักษาศีล ปัจจุบันธรรมสถานวิโมกสิวาลัย มีความสงบ วิเวกเหมาะสมที่จะเป็นที่ปฏิบัติธรรม โดยใช้ระยะเวลาเพียงปีเศษเท่านั้น
 
 โครงการหนึ่งที่พระครูสมุห์อุเทนกำลังดำเนินก่อสร้าง คือ พระอุโบสถมหาปรินิพพาน ทั้งนี้ในวันเสาร์ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๔ (เสาร์ ๕  เดือน ๕) วัดท่าไม้ จะอัญเชิญพระมหาปรินิพาน ที่แกะสลักจากหินทราย มีน้ำหนักมากกว่า ๘๐ ตัน เพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถมหาปรินิพพาน จึงได้จัดพิธีฉลองสมโภช รวมทั้งทำพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมากร พระพุทธชินราชจำลอง หน้าตักกว้าง ๑๒๐ นิ้ว เวลา ๑๖.๒๙ น.เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถหลังใหม่

 เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นสร้างพระอุโบสถมหาปรินิพพาน เช่น พระขุนแผนพิมพ์ทรงมหาอำนาจ หลวงปู่ทวดธุดงควัตร แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญหลวงปู่รุ่งรุ่นสร้างพระอุโบสถ เหรียญพระพิฆเณศ เหรียญพระอิศวร เหรียญฤาษี เหรียญหนุมาน เหรียญพระพิฆเณศ เหรียญพระพรหม เหรียญครุฑ เหรียญหลวงปู่รุ่งรุ่นสร้างพระอุโบสถ เป็นต้น

 พุทธบริษัทท่านใดมีใจศรัทธาประสงค์จะร่วมมหาบุญ พระครูสมุห์อุเทน สามารถร่วมเป็นเจ้าภาพหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดในการสร้างพระอุโบสถมหาปรินิพพาน ได้ที่วัดท่าไม้โทร.๐-๓๔๔๗-๒๔๔๑, ๐-๓๔๘๔-๓๖๐๓ และ ๐๘-๙๔๑๔-๒๒๙๓ หรือที่ " www.wattamai.com"