ไลฟ์สไตล์

สทศ.วิเคราะห์โอเน็ต3ปีวิชาหลักคะแนนไม่ถึง50%

สทศ.วิเคราะห์โอเน็ต3ปีวิชาหลักคะแนนไม่ถึง50%

07 เม.ย. 2554

สทศ.วิเคราะห์โอเน็ตป.6-ม.3-ม.6ช่วง3ปีวิชาหลักคะแนนไม่ถึง50% วิชาคณิต-ภาษาอังฤษตกต่ำสุด จี้ร.ร.เร่งพัฒนา เผยประกาศผลแกท/แพตคะแนนใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เปิดให้ยื่นขอดูกระดาษคำตอบ 8-10 เม.ย.นี้

 เมื่อวันที่  7  เม.ย.2554  รศ.ดร.สัมพันธ์      พันธุ์พฤกษ์      ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน(โอเน็ต) ชั้นป.6 ม.3 และม.6  ประจำปีการศึกษา 2553 (เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ) และผลการทดสอบความถนัดทั่วไป(แกท)และผลการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ(แพท)ครั้งที่ 1 /2554 (เดือนมีนาคม 2554 )ที่สทศ.ว่า  ผลสอบโอเน็ตระดับชั้นป.6 มีเด็กเข้าสอบกว่า   828,000 คน มีคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 20.99-54.31 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนนแยกเป็นวิชาสุขศึกษามีค่าเฉลี่ย 54.32 คะแนน  วิชาการงานอาชีพฯ  52.52 สังคมศึกษาฯ 47.07 คะแนน  ศิลปะ 41.10 คะแนน คณิตศาสตร์ 34.85  คะแนน  ภาษาไทย  31.22  คะแนน   และภาษาอังกฤษ 20.99 คะแนน 

  นักเรียนส่วนใหญ่ได้คะแนนวิชาสุขศึกษา 50.01-60 คะแนน วิทยาศาสตร์และการงานอาชีพ 40.01-50 คะแนน สังคมศึกษา 30.01 -40  คะแนน ภาษาไทย คณิตศาสตร์และศิลปะ 20.01-30 คะแนน  ภาษาอังกฤษ 0.01-10 คะแนน   และค่าคะแนนสูงสุดของทุกวิชามีจำนวนนักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละวิชาได้แก่ ภาษาไทย 95 คะแนน 11 คน สังคมศึกษาฯ 100 คะแนน 305 คน ภาษาอังกฤษ 100 คะแนน 3,048 คน คณิตศาสตร์ 100 คะแนน 335 คน วิทยาศาสตร์ 100 คะแนน 224 คน  สุขศึกษาและพลศึกษา 100 คะแนน  572 คน ศิลปะ 100 คะแนน 14,596  คน   การงานอาชีพและเทคโนโลยี 100 คะแนน 1,570 คน

 ผลเปรียบเทียบผลสอบโอเน็ตชั้นป.6 ระดับประเทศ 3  ปีได้แก่ ปีการศึกษา 2551  มีเด็กเข้าสอบกว่า  953,000 คนซึ่งจัดสอบเพียง 3 วิชาได้แก่ ภาษาไทย คะแนนเฉลี่ย 42.02 คะแนน คณิตศาสตร์ 43.76 คะแนนและวิทยาศาสตร์ 51.68 คะแนน ปีการศึกษา 2552 มีผู้เข้าสอบกว่า 898,000 คนในวิชาภาษาไทยมีค่าเฉลี่ย 38.58 คะแนน  สังคมศึกษา 33.90 คะแนน ภาษาอังกฤษ 31.75 คะแนน คณิตศาสตร์ 35.88 คะแนน วิทยาศาสตร์ 38.67 คะแนน สุขศึกษา 64.76 คะแนน ศิลปะ 42.49 คะแนน และการงานอาชีพ 51.69 คะแนน

   และปีการศึกษา 2553  มีเด็กเข้าสอบกว่า 805,000 คนในวิชาภาษาไทยมีค่าเฉลี่ย 31.22   คะแนน  สังคมศึกษา 47.07  คะแนน ภาษาอังกฤษ 20.99  คะแนน คณิตศาสตร์ 34.85  คะแนน วิทยาศาสตร์ 41.56   คะแนน สุขศึกษา 54.31  คะแนน ศิลปะ  41.10 คะแนน และการงานอาชีพ  52.52 คะแนน

 ผอ.สทศ. กล่าวอีกว่า ส่วนผลสอบโอเน็ตระดับชั้นม.3 ในปีการศึกษา 2553 มีผู้เข้าสอบกว่า   810,000 คน มีคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 16.19-71.97 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนนแยกเป็นวิชาสุขศึกษามีค่าเฉลี่ย 71.97 คะแนน วิชาการงานอาชีพ 47.07 คะแนน ภาษาไทย 42.80 คะแนน สังคมศึกษา 40.85 คะแนน วิทยาศาสตร์ 29.17 คะแนน ศิลปะ 28.48 คะแนน คณิตศาสตร์ 24.18 คะแนน และภาษาอังกฤษ 16.19 คะแนน

 นักเรียนส่วนใหญ่ได้คะแนนวิชาสุขศึกษา  70.01-80.00 คะแนน ภาษาไทย สังคมศึกษาและการงานอาชีพระหว่าง 40.01-50 คะแนน วิทยาศาสตร์ 30.01-40 คะแนน ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และศิลปะ  10.01-20.00 คะแนน    และค่าคะแนนสูงสุดของทุกวิชามีจำนวนนักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละวิชาได้แก่ ภาษาไทย 96  คะแนน  2  คน สังคมศึกษาฯ 100 คะแนน 80    คน ภาษาอังกฤษ 100 คะแนน 613  คน คณิตศาสตร์ 100 คะแนน  272 คน วิทยาศาสตร์ 100 คะแนน  196   คน  สุขศึกษาและพลศึกษา 100 คะแนน 53,182    คน ศิลปะ 100 คะแนน  156  คน   การงานอาชีพและเทคโนโลยี 100 คะแนน  818  คน

 ผลเปรียบเทียบผลสอบโอเน็ตชั้นม.3 ระดับประเทศ 3  ปีได้แก่ ปีการศึกษา 2551  มีเด็กเข้าสอบกว่า  797 ,000 คนซึ่งจัดสอบเพียง 5  วิชาหลักได้แก่ ภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย 41.09 คะแนน สังคมศึกษา 41.42 คะแนน ภาษาอังกฤษ 32.42 คะแนน คณิตศาสตร์ 32.66 คะแนนและวิทยาศาสตร์ 39.44 คะแนน ปีการศึกษา 2552 มีเด็กเข้าสอบกว่า 790,000 คนในวิชาภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย  35.35 คะแนน สังคมศึกษา 39.70  คะแนน ภาษาอังกฤษ  22.54คะแนน คณิตศาสตร์ 26.05  คะแนนและวิทยาศาสตร์  29.16   คะแนน   สุขศึกษา 56.70คะแนน ศิลปะ 32.95 คะแนน และการงานอาชีพ 33.86 คะแนน

  และปีการศึกษา 2553 มีเด็กเข้าสอบกว่า 804,000 คนในวิชาภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย 42.80  คะแนน สังคมศึกษา  40.85  คะแนน ภาษาอังกฤษ  คะแนน16.19  คณิตศาสตร์ 24.18  คะแนนและวิทยาศาสตร์ 29.17  คะแนน   สุขศึกษา 71.97  คะแนน ศิลปะ  28.48 คะแนน และการงานอาชีพ 47.07   คะแนน

 รศ.ดร.สัมพันธ์  กล่าวต่อไปว่า   ส่วนผลสอบโอเน็ตระดับชั้นม.6 มีเด็กเข้าสอบกว่า 350,000 คนมีคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 14.99-62.86 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนนแยกเป็นวิชาสุขศึกษาคะแนนเฉลี่ย 62.86 คะแนน สังคมศึกษา 46.51 คะแนน  การงานอาชีพ 43.69 คะแนน และภาษาไทย  42.61 คะแนน   นักเรียนส่วนใหญ่ได้คะแนนวิชาสุขศึกษา 60.01-70 คะแนน สังคมศึกษาและการงานอาชีพ 40.01-50 คะแนน ภาษาไทยและศิลปะ 30.01-40 คะแนน วิทยาศาสตร์ 20.01-30 คะแนน ภาษาอังกฤษ 10.01 -20 คะแนน คณิตศาสตร์ 0.01-10 คะแนน

   และค่าคะแนนสูงสุดในวิชาภาษาไทย 92 คะแนน 1 คน สังคมศึกษา 87 คะแนน 1 คน ภาษาอังกฤษ 100 คะแนน 1 คน คณิตศาสตร์ 100 คะแนน 92 คน วิทยาศาสตร์ 92 คะแนน 1 คน สุขศึกษา 92.50 คะแนน 5 คน ศิลปะ 67 คะแนน 2 คน การงานอาชีพ 82 คะแนน 4 คน

 ผลเปรียบเทียบผลสอบโอเน็ตชั้นม.6 ระดับประเทศ 3  ปีได้แก่ ปีการศึกษา 2551  มีเด็กเข้าสอบกว่า  330,000 คนได้แก่ ภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย  46.50 คะแนน สังคมศึกษา 34.72  คะแนน ภาษาอังกฤษ 30.68  คะแนน คณิตศาสตร์  36.08 คะแนน วิทยาศาสตร์ 33.70  คะแนน  สุขศึกษา 56.79 คะแนน ศิลปะ 43.22  คะแนน การงานอาชีพ 40.02   คะแนน 
 
 ปีการศึกษา 2552 มีเด็กเข้าสอบประมาณ 350,000 คนในวิชาภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย 46.47   คะแนน  สังคมศึกษา 36  คะแนน ภาษาอังกฤษ 23.98 คะแนน คณิตศาสตร์ 28.56  คะแนน  วิทยาศาสตร์  29.05  คะแนน   สุขศึกษา 45.37  คะแนน ศิลปะ 37.75 คะแนน และการงานอาชีพ32.98   คะแนน และปีการศึกษา 2553  มีเด็กเข้าสอบประมาณ  350,000 คนในวิชาภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย 42.61    คะแนน  สังคมศึกษา 46.51 คะแนน ภาษาอังกฤษ19.22   คะแนน คณิตศาสตร์14.99   คะแนน  วิทยาศาสตร์ 30.90   คะแนน   สุขศึกษา 62.86 คะแนน ศิลปะ32.62   คะแนน และการงานอาชีพ43.69  คะแนน

 รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวอีกว่า   นอกจากนี้   สทศ.ได้ประกาศผลการสอบแกท(GAT)/แพต(PAT)ครั้งที่ 1/ 2554 เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ของสทศ. www.niets.or.th เรียบร้อยแล้ว และเปรียบเทียบผลสอบแกท/แพทในเดือนมีนาคม 2554 กับผลสอบครั้งที่  3 /2553 เดือนตุลาคม 2553  แยกเป็นวิชา GAT ความถนัดทั่วไป ปี 2554 มีผู้เข้าสอบ 95,764  คน  คะแนนเต็ม 300 คะแนน คะแนนเฉลี่ย  171.89 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 297.50 คะแนน  ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 139.38 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 300 คะแนน

 GAT ตอน 1  ปี 2554 ผู้เข้าสอบ 95,767 คน  คะแนนเต็ม 150 คะแนน  คะแนนเฉลี่ย 117.05 คะแนน  ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 150 คะแนน   ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 90.06 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 150 คะแนน    GAT ตอน 2 ปี 2554  ผู้เข้าสอบ 95,764  คน  คะแนนเต็ม 150 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 54.84  คะแนน  ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 147.50  คะแนน ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 49.32 คะแนน  ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 150 คะแนน

   PAT  1  ความถนัดทางคณิตศาสตร์  53,809 คน  คะแนนเต็ม 300 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 64.22  คะแนน ต่ำสุด 17 คะแนน สูงสุด 274 คะแนน  ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 48.34 คะแนน   ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 264  คะแนน   PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์  57,979  คน    คะแนนเต็ม 300 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 93.75 คะแนน ต่ำสุด 3 คะแนน สูงสุด 223 คะแนน  ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย  101.50  คะแนน ต่ำสุด  11   คะแนน สูงสุด 268.50    คะแนน

 PAT 3  ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์  13,877 คน   คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย 101.95  คะแนน ต่ำสุด 33 คะแนน สูงสุด 270 คะแนน ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 121.25  คะแนน  ต่ำสุด 33 คะแนน สูงสุด 282   คะแนน    PAT 4  ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ 4,151 คน   คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย 159.83  คะแนน ต่ำสุด 9 คะแนน สูงสุด 270 คะแนน ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 121.06    คะแนน  ต่ำสุด 24    คะแนน สูงสุด  270  คะแนน  

  PAT 5  ความถนัดทางวิชาชีพครู  26,971 คน     คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย 144.1  คะแนน ต่ำสุด 16  คะแนน สูงสุด 228  คะแนน   ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย130.91  คะแนน  ต่ำสุด  0 คะแนน สูงสุด 232 คะแนน   PAT 6  ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์  4,362 คน    คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย 113.26   คะแนน ต่ำสุด 37.50  คะแนน สูงสุด 186 คะแนน   ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 133.05 คะแนน  ต่ำสุด 5คะแนน สูงสุด 227.50    คะแนน  

  PAT 7.1  ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส   2,186 คน   คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย  93.63  คะแนน ต่ำสุด 30    คะแนน สูงสุด  261 คะแนน ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย  94.48คะแนน  ต่ำสุด39  คะแนน สูงสุด  270 คะแนน   PAT 7.2  ความถนัดทางภาษาเยอรมัน 790 คน     คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย 96.07  คะแนน ต่ำสุด  39  คะแนน สูงสุด 261คะแนน  ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 95.26 คะแนน  ต่ำสุด 36 คะแนน สูงสุด 264 คะแนน  
  
   PAT 7.3  ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น  1,764 คน     คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย 103.7   คะแนน ต่ำสุด 30 คะแนน สูงสุด 282   คะแนน   ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 107.68  คะแนน  ต่ำสุด  39 คะแนน สูงสุด  282   คะแนน     PAT 7.4  ความถนัดทางภาษาจีน 2,401 คน    คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย  92.97 คะแนน ต่ำสุด 39  คะแนน สูงสุด 282  คะแนน   ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 91.12 คะแนน  ต่ำสุด27  คะแนน สูงสุด 279 คะแนน  

 PAT 7.5  ความถนัดทางภาษาอาหรับ   137 คน  คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย   91.93  คะแนน ต่ำสุด  54  คะแนน สูงสุด 234   คะแนนปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 88.52 คะแนน  ต่ำสุด 33 คะแนน สูงสุด 258 คะแนน   PAT 7.6  ความถนัดทางภาษาบาลี  363 คน  คะแนนเต็ม 300  คะแนน คะแนนเฉลี่ย   98.74  คะแนน  ต่ำสุด  48  คะแนน สูงสุด 177   คะแนน ปี 2553 คะแนนเฉลี่ย 94.84   คะแนน  ต่ำสุด  42  คะแนน สูงสุด  273 คะแนน  
 
   รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวอีกว่า  สำหรับช่วงคะแนนที่ผู้เข้าสอบGAT /PAT ทำได้มากที่สุดแยกเป็น GAT ปี 2554  จำนวน 25,899 คนอยู่ระหว่าง 180-210  คะแนน คิดเป็น 27.04% ของผู้เข้าสอบทั้งหมด  ปี  2553 จำนวน 46,299 คน 180.01-210 คะแนน คิดเป็น 20.55% ของผู้เข้าทั้งหมด  GAT ตอน 1 ปี 2554  จำนวน 59,087 คน 30.01-90 คะแนน คิดเป็น 61.70 % ปี 2553 จำนวน 97,497 คน 120.01-150 คะแนน คิดเป็น 43.28 %  GAT ตอน 2 ปี 2554 จำนวน 59,087 คน 30.01-60 คะแนน คิดเป็น 61.70 %

 PAT1 ปี 2554 จำนวน 26,109 คน 60.01-90 คะแนน  คิดเป็น 48.52%   ปี 2553 จำนวน 81,612 คน 30.01-60 คะแนน คิดเป็น  58.09% PAT 2 ปี 2554 จำนวน 27,064 คน 60.01-90  คะแนน คิดเป็น 46.68 % ปี 2553 จำนวน  69,648 คน 90.01-120 คะแนน คิดเป็น 51.31% PAT3  ปี 2554 จำนวน 4,797  คน 60.01-90 คะแนน  คิดเป็น  34.57 %      ปี 2553  จำนวน 10,843 คน 90.01-120 คะแนน  คิดเป็น 34.37 %   PAT4 ปี 2554   จำนวน  1,395 คน  150.01-180   คะแนน  คิดเป็น 33.61  %   ปี 2553 จำนวน 3,784  คน  90.01-120   คะแนน   คิดเป็น 30.55  % PAT5 ปี 2554 จำนวน 12,246   คน  120.01-150  คะแนน  คิดเป็น 45.40%  ปี 2553  จำนวน  39,342  คน   120.01-150  คะแนน  คิดเป็น 37.91  %     PAT6 ปี 2554 จำนวน 2,480 คน 90.01-120  คะแนน  คิดเป็น 56.85  %   ปี 2553 จำนวน  7,479 คน  คะแนน  120.01-150 คิดเป็น 48.53 %  

 PAT 7.1 ปี 2554  จำนวน 1,210   คน  60.01-90  คะแนน  คิดเป็น 55.35  %   ปี 2553 จำนวน  2,167 คน  60.01-90 คะแนน  คิดเป็น 54.75 %  

  PAT7.2 ปี 2554  จำนวน  456    คน  60.01-90  คะแนน  คิดเป็น 57.72   %   ปี 2553 จำนวน 594   คน 60.01-90 คะแนน  คิดเป็น 58.93  %    PAT7.3  ปี 2554  จำนวน 849   คน   60.01-90    คะแนน  คิดเป็น  48.13 %  ปี 2553 จำนวน 1,682  คน 60.01-90  คะแนน  คิดเป็น 48.61  %  

  PAT 7.4 ปี 2554  จำนวน  1,290 คน   60.01-90   คะแนน  คิดเป็น 53.73  %   ปี 2553 จำนวน 2,953คน   60.01-90  คะแนน  คิดเป็น  53.73%   PAT7.5  ปี 2554 จำนวน   81 คน     60.01-90  คะแนน  คิดเป็น 59.12  %    ปี 2553 จำนวน 392  คน 60.01-90    คะแนน  คิดเป็น  58.86%    PAT 7.6 ปี 2554 จำนวน 183  คน  90.01-120 คะแนน  คิดเป็น 50.41  %    ปี 2553 จำนวน 304  คน  60.01-90 คะแนน  คิดเป็น 49.19 %  

 ผอ.สทศ. กล่าวด้วยว่า   การประกาศผลสอบแกท แพตเรียบร้อยดี และได้นำข้อสอบและเฉลยคำตอบโอเน็ต แกท-แพตลงในเวบไซต์สทศ.แล้ว  ซึ่งวันนี้ตั้งแต่เวลา 07.30 น.มีผู้เข้ามาดูผลสอบแกท-แพตแล้ว  50,130 คน  ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาร้องเรียนผลคะแนน   จะเปิดให้ยื่นคำร้องขอดูกระดาษคำตอบแกท-แพตวันที่ 8-10 เมษายนนี้  เวลา 8.30 - 16.30 น.และจะเปิดให้ดูกระดาษคำตอบในวันที่ 22 -23 เมษายนนี้  แม้แอดมิชชั่นส์กลางรับสมัครวันที่ 11-20 เม.ย.         ซึ่งต้องใช้คะแนนแกท แพตด้วยนั้นเชื่อว่าคงไม่มีปัญหาเรื่องผลคะแนนสอบแกท แพตในภายหลังจนส่งผลกระทบต่อการรับสมัครแอดมิชชั่นส์ เพราะสทศ.ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจทานคำตอบแกท แพตเป็นอย่างดีแล้ว"  ผอ.สทศ. กล่าว

  "ผลวิเคราะห์ผลสอบโอเน็ตชั้นป.6 ม.3และม.3 ในช่วงปีการศึกษา 2551-2553 โดยภาพรวมพบว่า วิชาหลักๆทั้งภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์คะแนนยังไม่ถึง50% ช่วง 3 ปีมีวิชาวิทยาศาสตร์ที่คะแนนดีขึ้น ส่วนวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ตกต่ำที่สุดโดยจากการวิเคราะห์ข้อสอบโอเน็ตระดับชั้นป.6 ม.3และม.6 ของสทศ.พบว่าข้อสอบส่วนใหญ่มีความยากระดับปานกลาง ข้อสอบใช้ได้ แต่เด็กอาจจะไม่คุ้นกับข้อสอบที่เน้นคิดวิเคราะห์ซึ่งตอบแบบเดาสุ่มไม่ได้ เช่น  โอเน็ตวิชาคณิตศาสตร์ชั้นป.6  ออกข้อสอบแบบเติมคำเป็นส่วนใหญ่    ส่วนผลวิเคราะห์แกท/แพตช่วง  2 ปีนั้นมีคะแนนใกล้เคียงกัน     "รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว

 ผอ.สทศ. กล่าวต่อไปว่า จะส่งผลการสอบโอเน็ตทั้ง 3 ระดับไปให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และโรงเรียนต่างๆเพื่อให้นำผลนี้ไปใช้ในการแนะแนวเด็กเรียนต่อระดับชั้นม.ปลาย อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา  และโรงเรียน ครูควรนำผลนี้ไปใช้วางแผนปรับปรุงการเรียนการสอนให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์มากขึ้นโดยนำตัวอย่างข้อสอบของสทศ.ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนเพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับข้อสอบแบบคิดวิเคราะห์ 

 "วิชาที่ครูต้องเร่งพัฒนานักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นเรียนคือวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ซึ่งคะแนนตกต่ำลงมากทั้งนักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน ผู้ปกครองและชุมชนต้องร่วมมือกันโดยมีการบูรณาการหลักสูตร การสอน สื่อและการวัดประเมินผลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและตั้งเป้าหมายให้คะแนนโอเน็ตเพิ่มขึ้นตามความพร้อมของโรงเรียน  เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้ตามเป้าหมายปฏิรูปการศึกษารอบสองที่ตั้งเป้าหมายให้นักเรียนมีผลคะแนนโอเน็ต 5 วิชาหลักให้ได้มากกว่า 50% ภายในปี 2561ใน 7 ปีข้างหน้าเพื่อก้าวไปสู่คุณภาพระดับสากล" รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว