ไลฟ์สไตล์

๖ เหตุแห่งวิวาท

๖ เหตุแห่งวิวาท

06 เม.ย. 2554

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงถึงมูลเหตุแห่งการวิวาท บาดหมาง กลายเป็นความแตกแยกสามัคคีในหมู่คณะแก่พระภิกษุสงฆ์ว่า มี ๖ ประการใหญ่ (มีปรากฏใน ที.ปาฏิ.๑๑/๓๑๘) มีความโดยย่อว่า

  "เป็นผู้มักโกรธ มักผูกโกรธ เป็นผู้ลบหลู่ ตีตัวเสมอ เป็นผู้มักริษยา มีความตระหนี่ เป็นผู้โอ้อวด มีมารยา เป็นผู้มีความปรารถนาลามก มีความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม และเป็นผู้ยึดมั่นในความเห็นของตน คือ ไม่ยืนอยู่บนหลักธรรม คือ ไม่มั่นคงในหลักธรรมอันพระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว มักถือรั้น คลายได้ยากอีก"

 อธิบายว่า
 ๑.ความเป็นผู้มักโกรธ และมักผูกโกรธนั้น บางคนแสดงออกให้เห็นอาการกิริยาและทางวาจาได้ง่าย แต่บางรายผูกโกรธคุกรุ่นลึกอยู่ในใจ ผูกพยาบาทมาดร้าย มุ่งแต่จะคิดทำลายล้างผลาญให้ผู้อื่นที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับตน ให้ถึงความพินาศในทรัพย์สิน ในเกียรติคุณความดี ตลอดถึงร่างกายและแม้ให้ถึงชีวิต ก็คอยแต่ครุ่นคิด ผูกพยาบาทมาดร้ายอยู่ร่ำไป ก่อให้เกิดโทษ/ความทุกข์เดือดร้อนแก่ทั้งตนเองและผู้อื่นได้มาก

 ๒.ความเป็นผู้ลบหลู่คุณความดีของผู้อื่น และความเป็นผู้ตีตัวเสมอด้วยมานะทิฏฐิ หลงตัวหลงตนว่า เสมอกับเขา หรือว่าสูงกว่าเขา แล้วย่อมแสดงกิริยาอาการและวาจาที่แข็งกร้าว ไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กัน ไม่รู้จักประนีประนอมยอมความกัน เหล่านี้ก่อให้เกิดความแตกแยกสามัคคีกันหนักขึ้น จนหาความสงบสุขมิได้

 ๓.ความเป็นผู้มักริษยาหรืออิจฉา เห็นผู้อื่นได้ดีมีสุข ก็ทนไม่ได้ และมักคิด-พูด-ทำร้ายเขา ด้วยประการต่างๆ เช่น ใส่ไคล้ ให้ร้าย ป้ายสี ทำลายเกียรติคุณความดีของผู้อื่นด้วยความอิจฉาริษยา มุ่งแต่จะกระทำให้เขาพินาศเสียหายจากสุขสมบัติ หรือคุณสมบัติที่เขามีอยู่

 ๔.ความเป็นผู้โอ้อวด มีมารยา คือ เป็นคนเจ้าเล่ห์ ตนเองแม้มีดีเด่นแต่เพียงเล็กน้อย หรือไม่มีอะไรดีเด่น แม้ไม่มีใครถาม ก็ชอบแต่จะโอ้อวดความดีเด่นของตน ส่วนความดีเด่นของผู้อื่นแม้มีมาก ก็พยายามปกปิดหรือบิดเบือนมิให้สังคมทราบคุณความดีของเขาตามความเป็นจริง   

 ๕.ความเป็นผู้มีความปรารถนาลามก ได้แก่ ความเป็นผู้มักโลภจัด เห็นแก่ตัวจัด ตัณหาราคะจัด มักหม่นมุ่นในกาม/ไม่สำรวมในกาม เป็นผู้ทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูงเกินฐานะ-เกินความรู้ความสามารถ และเกียรติคุณความดี ตามที่เป็นจริงของตัว

 ๖.ความเป็นผู้ยึดมั่นอยู่แต่ในความคิดเห็นของตน ไม่ยอมฟังเหตุผลอันชอบธรรมจากผู้ใด ไม่ยืนอยู่บนหลักธรรม คือ เป็นผู้ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ไม่มั่นคง ไม่จริงใจอยู่ในหลักศีลธรรม มักปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยอคติ ไม่เที่ยงธรรมตามหลักกฎหมาย

"พระราชญาณวิสิฐ (หลวงป๋า)"