
พบเจดีย์หัก-วัดร้าว-พิพิธภัณฑ์แตกเพียบ
พบเจดีย์พระธาตุหัก-วัดร้าว-อาคารพิพิธภัณฑ์แตกเพียบ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่พม่า กรมศิลป์เร่งตรวจสอบเพื่อเสนอของบประมาณในการบุรณะเร่งด่วน ด้านอธิบดีกรมศิลป์ผวาหากจำเป็นสั่งปิดโบราณสถานทันที เตรียมลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย 26 มี.ค. เล็งหารือ "รมว.วธ." ของบ
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นางสาวอัญชลี สินธุสอน หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน กรมศิลปากร กล่าวภายหลังจากการลงพื้นที่ พร้อมด้วย นายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศพม่า ในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่ามีโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายแล้ว 4 แห่ง
ได้แก่ 1. วัดพระธาตุเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ยอดของพระธาตุโค่นหักลงมาใส่เจดีย์บริวาร รวมทั้งองค์ระฆังมีรอยแตกร้าว และมีชิ้นส่วนบางส่วนแตกหัก 2. วัดป่าสัก สำรวจพบรอยร้าวบริเวณบัลลังก์ส่วนเรือนธาตุ ส่วนยอดหักลงมาเล็กน้อย
3. วัดพระธาตุจอมกิติ พบองค์เรือนธาตุแตกร้าว ตัวฉัตรเอียง 4. วัดพระธาตุภูเข้า บริเวณ 3 เหลี่ยมทองคำ มณทปประธานแตกร้าวทั้งหลัง นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า ที่จังหวัดน่าน วัดภูมินทร์ ก็มีรอยแตกร้าว อย่างไรก็ตาม จะต้องรอการประเมินความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่และผู้ช่วยเหลือกรมศิลปากร เนื่องจากขณะนิ้ ยังไม่ได้มีการตรวจสอบโครงสร้าง ภายในของโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดว่ามีจุดใดบ้างที่ได้รับความเสียหายมาก จากนั้น จะมีการเสนอของบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะต่อไป ทั้งนี้ ตนได้รายงานผลการตรวจสอบให้นางโสมสุดา ลียวณิช อธิบดีกรมศิลปากร รับทราบแล้ว
ด้านนางโสมสุดา ลียะวนิช อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการรายงานของสำนักศิลปากรที่ 8 จ.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางลงตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่ามีโบราณสถานหลายแห่งใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ที่วัดพระธาตุจอมกิตติ ฉัตรชำรุดและเอนออกจากองค์ ประมาณ 15 - 20 องศา ขณะนี้ทางสำนักศิลปากรที่ 8 สั่งดำเนินการซ่อมแซมทันที ขณะที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวง พบปล้องไฉนขนาด 2 ใน 3 หักลงมาถูกเจดีย์บริวารแตก 1 องค์ ที่วัดพระธาตุภูเข้า พบมณฑปร้าวและผนังแยกออก และที่วัดป่าสัก พบยอดขนาดประมาณ 1 ศอกหักตกลงมา
ขณะเดียวกันยังได้รับรายงานผนังในวิหารวัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน มีรอยร้าว และที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน พบผนังและเพดานมีแนวแตกแยก โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดพื้นที่ นำสิ่งของที่อยู่บนชั้นสูงลงมาวางไว้กับพื้น รวมถึงให้เฝ้าระวังรวมถึงตรวจตราความปลอดภัยในส่วนของระบบอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการสั่นสะเทือน และสั่งการให้ปิดโบราณสถานในกรณีจำเป็น จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นางโสมสุดา กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ตนและนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะเข้าตรวจสอบพื้นที่อีกครั้งใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับรายงานความเสียหายมาก ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะต้องหารือกับ รมว.วธ.กรณีการขอเบิกงบฉุกเฉินสำหรับการบูรณะเพิ่มเติมจากสำนักงบประมาณ เนื่องจากที่ผ่านมางบฉุกเฉินของกรมศิลปากรถูกใช้ไปกับการบูรณะโบราณสถานที่เสียหายในเหตุอุทกภัยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้คงต้องสั่งการให้เพิ่มความแข็งแกร่งในการบูรณะให้มากยิ่งขึ้น หลังพบว่าพื้นที่เสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นส่วนที่เคยเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวมาแล้ว
"บริเวณส่วนยอดฉัตรของพระธาตุจอมกิตติ ที่เพิ่งได้รับการบูรณะ หลังจากถูกแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่ประเทศลาว เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา มาคราวนี้ก็ได้รับผลกระทบอีก จากเหตุแผ่นดินไหวที่พม่า เช่นเดียวกับปล้องไฉนที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวงที่หักลงมาก็เป็นของใหม่ที่บูรณะไว้ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือต้องรีบค้ำยันไว้ก่อน และหากเป็นไปได้ก็จะต้องตรวจสอบความเสียหาย เพื่อประเมินดูว่าจะใช้งบการบูรณะเท่าไหร่ โดยต่อไปนี้จะต้องซ่อมเพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำอีกหลังจากนี้ด้วย ขณะเดียวกันยังได้สั่งการไปยังสำนักศิลปากรทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่เสี่ยงต่อการได้รับแรงสั่นสะเทือน ให้มีการเตรียมพร้อมเฝ้าระวังเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน" นางโสมสุดา กล่าว