
การบรรยาย บ้าน + อพาร์ตเมนต์ไม่บาน (2)
สวัสดีครับแฟนๆ ชาว คนรักบ้าน ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจกับ คนรักบ้านชาว ญี่ปุ่น ที่ต้องสูญเสียบ้านแสนรักและชีวิตของคนที่รักไปพร้อมกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ อันเกิดจาก แผ่นดินไหวขนาด 8.9 ริกเตอร์ และคลื่นยักษ์ สึนามิ ที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เหตุการณ
นอกจากนั้น ยังได้เกิดโศกนาฏกรรมช็อกโลกซ้ำเติมขึ้นอีกครั้ง อันเป็นผลมาจากการระเบิดของ เตาปฏิกรณ์ปรมาณูหมายเลข 1 ของ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ฟุกุชิมะ” ตั้งอยู่ในเมือง “โอกูมะ” จังหวัด “ฟุกุชิมะ” ซึ่ง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ดังกล่าวมีขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 25 ของโลกเลยทีเดียวครับ ภัยพิบัติจากธรรมชาติในครั้งนี้ทำให้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ได้มีการเผยแพร่ภาพอันน่าสะพรึงกลัวของกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาให้ได้เห็นกันไปทั่วโลก ซึ่ง โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์แห่ง นี้อยู่ห่างจากกรุง “โตเกียว” เมืองหลวงของ “ญี่ปุ่น”เพียง 250 กิโลเมตร
โดยทั่วไปแล้ว สารกัมมันตรังสี จะก่อให้เกิด กัมมันตภาพรังสี อยู่ 3 ประเภทคือ รังสีแอลฟา, รังสีเบตา และ รังสีแกมมา ซึ่งรังสีแต่ละประเภทมีอำนาจในการทะลุทะลวงที่รุนแรงแตกต่างกันและส่งผลกระทบต่อมวลมนุษย์รุนแรงแตกต่างกัน โดยเริ่มจากเกิดอาการคลื่นเหียนอาเจียน อ่อนเพลียจนถึงกับเสียชีวิตไปในทันทีในกรณีรับปริมาณรังสีเข้าไปเต็มที่ หรือเสียชีวิตใน 1 สัปดาห์ แต่สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวคือการที่ไม่ตายในทันทีทันใดต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เพราะเมื่อรับรังสีเหล่านี้เข้าไปแล้วก็จะเป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในร่างกาย ทำให้อาจแปรสภาพกลายเป็นเซลล์มะเร็งประเภทต่างๆ เช่น มะเร็งในเม็ดเลือด มะเร็งในปอด และอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาพิษจาก กัมมันตภาพรังสี เหล่านี้
เป็นผลให้รัฐบาล “ญี่ปุ่น” ไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องตัดสินใจประกาศ สภาวะฉุกเฉิน หลังจาก เตาปฏิกรณ์ปรมาณู ไม่สามารถรักษา “ระบบหล่อเย็น” ให้ทำงานเป็นปกติได้จนเกิดการระเบิดขึ้น เพราะ “ระบบหล่อเย็น” ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันคือการระดมฉีดน้ำทะเลกลับไปใน เตาปฏิกรณ์ เพื่อให้ระดับน้ำหล่อเย็นกลับคืนสู่ภาวะปกติ
จากผลดังกล่าวมีการอพยพประชากรชาว “ญี่ปุ่น” กว่า 2 แสนคน ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่รอบ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในรัศมี 20 กิโลเมตร ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน แต่ที่ผมกังวลอย่างที่สุดคือ หากเกิดเหตุการณ์ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หลอมละลาย หรือเกิดการรั่วไหลของ กัมมันตภาพรังสี อาจทำให้มวลอากาศและไอน้ำในบรรยากาศปนเปื้อนไปด้วย ฝุ่นกัมมันตภาพรังสี ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะถูกกระแสลมธรรมชาติพัดพาไปปกคลุมทางตะวันออกของ มหาสมุทรแปซิฟิก ลามไปถึง “ออสเตรเลีย” หากโชคร้ายอาจจะกระจายไปถึงชายฝั่งภาคตะวันตกของ “สหรัฐอเมริกา” ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 8,000 กิโลเมตร
แต่จะว่ากันไปตามจริงแล้วเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “เชอร์โนบิล” ที่ตั้งอยู่ใน จังหวัด “เคียฟ” ทางตอนเหนือของ รัฐ “ยูเครน” ใกล้ ชายแดน “เบลารุส” ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของ “สหภาพโซเวียต” นับได้ว่าเป็น อุบัติภัยทางนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุด ครั้งหนึ่ง โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตในทันที 31 คน และต่อมาก็มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสูงถึง 9.3 หมื่นคน และโรคอื่นๆ อันเป็นผลมาจากฝุ่นกัมมันตภาพรังสีอีกนับแสนคน ผมก็ได้แต่ภาวนาว่ากงล้อแห่งประวัติศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัวนี้คงไม่ซ้ำรอยอีก
จากเหตุและปัจจัยต่างๆ จึงเป็น “หน้าที่ทางจริยธรรม” ของผมในฐานะ “สุนัขเฝ้าบ้าน” ที่จะต้องให้เตือนสติแฟนๆ ชาว “คนรักบ้าน” ให้ “รู้เขารู้เรา” และยังต้อง “รู้เท่าทัน” จะทำการสิ่งใดก็ต้องเตรียมการเปิดทางถอยไว้เสมอ เพราะ โลกในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง รวมทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ ประเด็นทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ “กระบวนการจัดการในช่วงวิกฤติ” (Crisis Management) ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการบรรยายครั้งสำคัญที่ผมจะจัดขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายนนี้ ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ห้องมิตติ้งรูม 3 ในหัวข้อ “บ้าน+อพาร์ตเมนต์ ไม่บานที่สวยที่สุดและประหยัดที่สุดในซอย” ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น.
ในการบรรยายครั้งสำคัญนี้จะมีเนื้อหาที่หลากหลายมากครับ โดยเนื้อหาหลักจะประกอบด้วย การนำเสนอรูปแบบและกระบวนการก่อสร้าง “บ้านไม่บาน” ในชุด “เรือนขวัญจิตต์” ในราคาประหยัดสุดๆ เริ่มต้นเพียง 1 แสนบาทบวกบวก และผมจะนำเสนอรูปแบบ “บ้านไม่บาน” สำหรับ “คนเมือง” ที่เรียกกันว่า “โฮมออฟฟิศไม่บาน” โดยที่ผมออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ สามารถใช้เป็นที่พักอาศัย, เป็นสำนักงาน, เป็นสถานที่ประกอบกิจการค้าขาย อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงเป็น “อพาร์ตเม้นท์” หรือ “เกสต์เฮ้าส์” ขนาดกำลังดี 6-8 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำและระเบียงกว้างในตัวทุกห้อง
นอกจากนี้ ในการบรรยายครั้งสำคัญนี้ ผมจะนำเสนอรูปแบบ “อพาร์ตเมนต์ไม่บาน” ในราคาค่าก่อสร้างเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาทบวกบวก (ไปจนถึง 30 ล้านบาทบวกบวก) อีกทั้งนำเสนอรูปแบบที่หลากหลายของ บูทิคอพาร์ตเมนต์ไม่บาน, บูทิคโฮเทลไม่บาน, บูทิครีสอร์ทไม่บาน และ บูทิคคอนโดมิเนียมไม่บาน ที่นอกจากจะสวยที่สุดในซอยแล้วยังมีราคาค่าก่อสร้างประหยัดสุด ๆ (ราคาค่าก่อสร้างโดยเฉลี่ยเริ่มต้นเพียง 8,500-9,500 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น)
การบรรยายในครั้งนี้ผมจะนำเสนอทั้ง “วิสัยทัศน์” (Visionary ) และ “กระบวนทัศน์” (Missionary) รวมทั้งการวิเคราะห์เจาะลึกถึงข้อเด่นข้อด้อยของบรรดาโครงการน้อยใหญ่กว่า 40 โครงการ ที่ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วม แฟนๆ ชาวคนรักบ้าน ที่สนใจสามารถติดต่อสำรอง จองที่นั่งได้โดยด่วนที่ 0-2245-1399 และ 0-2644-1478 เพราะรับจำนวนจำกัดจริงๆ ครับ สำหรับทุกท่านที่เข้าร่วมฟังการบรรยายจะได้รับแจกวีซีดีในชุด “บ้านไม่บาน” และ “อพาร์ตเมนต์ไม่บาน” เพื่อนำไปต่อยอดทางความคิด มาเถิดครับมาร่วมกันศึกษาแสวงหาความรู้ในกระบวนการออกแบบและก่อสร้าง “อาคารบ้านเรือนไม่บาน” ที่ “ประโยชน์สูงและประหยัดสุด” รวมทั้ง “สวยที่สุดในซอย” กันครับ
ไม่แน่นะครับอาจจะเป็นอีกหนึ่ง “ทางเลือกอันเป็นทางรอด” ของพวกเราชาว “คนรักบ้าน” เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันทุกอย่างดูเหมือนจะยากเกินคาดเดาจริงๆ นอกจากนั้นท่านใดมีปัญหาค้างคาใจในทุกแง่มุมเกี่ยวกับ บ้านไม่บาน, อพาร์ตเมนต์ไม่บาน, คอนโดมิเนียม, โรงแรม+รีสอร์ทไม่บาน ฯลฯ ตลอดจนการก่อสร้างก็สามารถนำมาปรึกษาหารือกันได้ในช่วงหลังจากการบรรยายครั้งนี้ครับ
สำหรับ “คนรักบ้าน” ที่ใฝ่รู้ทุก ๆ ท่านก็เชิญมาพบกับผมตัวเป็น ๆ ในการบรรยายครั้งสำคัญนี้ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน แล้วผมจะรอพบกับทุกท่านครับ