
พระอริยบุคคลยังมีอยู่
หลวงตาหหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) ได้ "ส่งคืนสังขาร" ให้แก่ธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ไปหมดสิ้นแล้ว ท่ามกลางกระแสประชาชนจำนวนมากไปร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของหลวงตา
ได้ทราบจากกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ประชาชนสามหมื่นคนเป็นลมแดดจากการไปร่วมงานดังกล่าว และมีรายงานผู้ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจนไปไม่ถึงงานก็มีอยู่ด้วยเป็นธรรมดา แสดงว่าผู้คนยังคงมีความศรัทธา "พระป่า" เป็นจำนวนมิใช่น้อย
หลวงตามหาบัว เป็นพระป่าที่มีปฏิภาณไหวพริบในการแสดงธรรม และมีความกล้าหาญชาญชัยในการประกาศ "อริยคุณ" หรือมรรคผลนิพพาน ที่ท่านเชื่อว่าท่านได้บรรลุแล้วอย่างไม่ประหวั่นพรั่นพรึง กระทั่งการประกาศว่า ท่านจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้วนั้น ก็หมายความว่าท่านประกาศว่าได้บรรลุคุณธรรมเบื้องสูงแล้วนั่นเอง
แม้จะมีหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการประกาศมรรคผลนิพพาน แต่ในทางพระพุทธศาสนาก็ไม่ปิดกั้น การแสดงตนเพื่อพิสูจน์ความจริงตามความเป็นจริงว่า "มรรคผลไม่พ้นสมัย" สมดังคำตรัสของพระพุทธเจ้าที่ว่า "ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โลกนี้จะไม่ว่างจากพระอรหันต์" ไม่ต้องกล่าวไปถึงพระอนาคามี พระสกทาคามี และพระโสดาบัน ซึ่งเป็นพระอริยบุคคลในระดับรองลงมาจากพระอรหันต์ตามลำดับ
หลวงตามหาบัว จะบรรลุถึงความเป็นอริยบุคคลมากน้อยแค่ไหนอย่างไรบ้างนั้น ไม่มีใครจะประจักษ์ความเป็นจริงได้ ยิ่งกว่าหลวงตามหาบัว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังดังก้องอยู่ในความรู้สึกของเราท่านทั้งหลายก็คือว่า ยังมีผู้กล้าหาญประกาศมรรคผลนิพพานกันอยู่ นั่นแสดงว่าเรื่องมรรคผลนิพพานยังเป็นเรื่องที่สามารถพูดถึงได้กับคนในสมัยนี้ และคนจำนวนหนึ่งก็ยังมีความปรารถนามรรคผลนิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต จึงมีการปฏิบัติธรรมกันในที่ต่างๆ ทั่วไป แล้วแต่ว่าใครจะถูกจริตกับการปฏิบัติธรรมตามแนวทางใด โดยที่การปฏิบัติเพื่อไปสู่มรรคผลนิพพานนั้นยังมีอยู่ตามคำสอนในพระไตรปิฎก หากไม่ผูกติดอยู่กับลมปากของครูบาอาจารย์เจ้าสำนัก จนไม่นำพาต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า
เรื่องมรรคผลนิพพานยังหวานฉ่ำ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมยังฉ่ำหวาน
ตราบยังมีผู้ปฏิบัติชอบเชี่ยวชาญ รสนิพพานยังหวานฉ่ำกว่ารสใด
ท่านจันทร์ www.prajan.com