ไลฟ์สไตล์

แขกรับเชิญ-นาตาลี เกลโบวา

แขกรับเชิญ-นาตาลี เกลโบวา

07 มี.ค. 2554

"ฉันเชื่อในพรหมลิขิต และฉันก็เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผล และฉันก็รับได้กับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น" เกริ่น

หลังจากชัดเจนแล้วว่าความรักระหว่างนักเทนนิสชื่อดัง "บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ และ "ฟ้า" นาตาลี เกลโบวา มิสยูนิเวิร์สปี 2005 ไม่เหมือนเดิม และต้องเลิกร้างกันในที่สุด แต่อนาคตของทั้งคู่ ยังเป็นเรื่องที่น่าติดตาม
 "แมงโก้ ทีวี" โดย มานิสา พงษ์พรต ผู้สื่อข่าวสาวคนเก่ง ได้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ "นาตาลี" ที่ชั้น 29 อาคารจีเอ็มเอ็ม ย่านอโศก ตามมาดูกันซิว่าชีวิตฟ้าหลังฝนของผู้หญิงคนนี้จะเป็นอย่างไร
 
0 ก่อนอื่นก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้คุณนาตาลีนะคะ สำหรับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น แล้วก็ขออวยพรให้คุณนาตาลีมีความสุขกับทุกอย่างที่กำลังจะทำอยู่ตอนนี้ค่ะ
 ขอบคุณค่ะ

0 ตอนนี้คุณกำลังทำธุรกิจ หรือทำอะไรบ้างคะในเมืองไทย

 ฉันยุ่งตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะฉันเป็นคนชอบทำอะไรตลอด ตอนนี้ทำอะไรหลายอย่างมากนอกเหนือจากงานโมเดลลิ่งที่ทำอยู่ตลอดหลังจากได้รับตำแหน่ง ตอนนี้ฉันทำงานอยู่กับอีลิทโมเดล เมเนจเมนท์ที่ประเทศไทย จากตรงนั้นก็ทำให้งานเข้ามาเรื่อยๆ อย่างแฟชั่นโชว์ นิตยสารทุกอย่างที่เกี่ยวกับแฟชั่นซึ่งฉันชอบมาก แล้วก็รู้สึกว่าได้เปลี่ยนตัวเองจากนางงาม มาเป็นนางแบบซึ่งก็สนุกดี

0 แล้วนอกจากนั้นคุณทำอะไรอีกคะ
 อย่างอื่นที่ฉันกำลังสนใจอยู่ตอนนี้คืออยากผลิตรายการทีวี คือฉันอยากคิดเนื้อหารายการเอง ทำรายการของฉันเอง ฉันมีโปรเจกท์หลายอย่าง และหวังว่าน่าได้เริ่มปีนี้ ซึ่งอยากให้ออนแอร์หลายที่ไม่เฉพาะที่เมืองไทย หวังว่าน่าจะทั่วเอเชีย

0 แล้วรายการของคุณจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรคะ
 ฉันสนใจเรื่องสุขภาพ ความงาม การออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์ทั่วๆ ไป และการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี...รายการของฉันคงมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

0 จนถึงตอนนี้คุณอยู่เมืองไทยมากี่ปีแล้วคะ
 อยู่มา 4 ปีครึ่งแล้วนะ และฉันก็เริ่มธุรกิจหลายอย่าง ลองทำผลิตภัณฑ์หลายอย่าง แล้วก็ทำงานร่วมกับคุณภราดรด้วย เป็นโปรเจกท์ที่เราคิดร่วมกันก่อนหน้านี้ ก่อนที่เราจะตัดสินใจแยกกันด้วยซ้ำ พอเลิกกันแล้วก็ตัดสินใจที่จะยังทำงานด้วยกันอยู่ คือเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี อย่างที่คุณรู้ว่าคุณภราดรทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของผู้ชายคือบริษัท เมจิกไอริส

0 แล้วก็มีผลิตภัณฑ์ล่าสุดเกี่ยวกับกางเกงชั้นในผู้ชายด้วยใช่ไหม
 ใช่ค่ะ นั่นเป็นโปรเจกท์ล่าสุดของเขา แต่ที่เราทำด้วยกันจะเป็นผลิตภัณฑ์ ของคุณภราดรเป็นเมจิกไอริส และที่ฉันกำลังจะมีคือ Majic Pink by Natalie คือจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง ก็จะมีส่วนผสมพิเศษอย่างสมุนไพรที่ช่วยเรื่องฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยให้รู้สึกดี ดูดี

0 ก็จะเป็นบริษัทเดียวกันแต่แยกเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับชายกับหญิงใช่ไหม
 ใช่ค่ะ

0 แล้วตอนนี้คุณเป็นหุ้นส่วนในบริษัทนี้หรือยัง
 ฉันไม่ได้เป็นหุ้นส่วน มันเป็นบริษัทของคุณภราดร เขาให้ฉันเซ็นสัญญาร่วมโปรเจกท์ด้วยค่ะ

0 ตั้งแต่ 4 ปีครึ่งที่คุณมาอยู่เมืองไทยนี่ภาษาไทยคุณเป็นยังไงบ้างคะ
 จริงๆ แล้วมันไม่ค่อยจะพัฒนาเท่าไหร่ เพราะฉันไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทย ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษค่ะ

0 ตอนแรกที่คุณมาเริ่มทำธุรกิจ ทำไมคุณถึงเลือกเมืองไทย ทำไมไม่เป็นที่อื่นที่อาจจะมีตลาดใหญ่กว่า ลูกค้าเยอะ หรือมีเศรษฐกิจที่ดีกว่านี้
 ตอนแรกที่ฉันมาเมืองไทยก็ไม่ได้จะมาทำธุรกิจ แต่ฉันได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สที่นี่ และได้ร่วมงานกับบริษัทสิงห์และต้องอยู่เมืองไทย 1 ปี แล้วก็ได้เจอกับคุณภราดร ก็คบกันจนแต่งงาน นั่นเป็นจุดแรกที่คิดจะมาอยู่เมืองไทย ซึ่งก็เลยคิดที่จะหาอะไรทำอย่างทำธุรกิจอะไรพวกนี้

0 แล้วคุณคิดว่าเวลาที่คนสองคนเจอกันแล้วมีวัฒนธรรมที่ต่างกัน มันจะกระทบความสัมพันธ์ไหม
 ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะฉันไม่ค่อยรู้จักคู่ไหนที่เป็นแบบนั้น

0 ฉันหมายถึงตัวคุณน่ะ
 อ๋อ สำหรับฉันเหรอ มันเป็นเรื่องของความสนใจที่ต่างกันมากกว่าเรื่องของวัฒนธรรมนะ

0 ความสนใจต่างกันนี่คือมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน
 ใช่ๆ สไตล์ต่างกัน สนใจอะไรต่างกัน กิจกรรมไม่เหมือนกัน เพื่อนก็ต่างกัน
0  เวลาที่มันมีอะไรแย่ๆ หรือที่คิดไม่ถึงเกิดขึ้น คุณอยากกลับบ้านบ้างหรือเปล่า
 ฉันกลับบ้านปีละ 2 ครั้ง

0 กลับครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
 กลับตอนคริสต์มาส อยากมีเวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับพ่อแม่

0  ตอนนี้คุณยังมีครอบครัวอยู่ที่รัสเซียไหม
  ไม่ค่อยมีแล้ว มีแต่คุณยายที่ยังอยู่ที่รัสเซีย แล้วก็มีพวกเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อใครที่นั่นแล้วค่ะ

0 การที่คุณทำธุรกิจกับคุณภราดร ซึ่งแต่ก่อนเราเห็นคุณออกงานเป็นแพ็กคู่ แต่ตอนนี้ต้องมาฉายเดี่ยว คิดว่ามันจะกระทบต่อธุรกิจบ้างไหม
 จริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะมีอะไรแย่ๆ ไหม เพราะว่าตอนนี้ฉันได้รับการตอบรับที่ดีมากเลย ก็เลยค่อนข้างคิดในแง่ดีว่ามันน่าจะต้องไปได้ดี และตัวฉันเองก็มีโอกาสเยอะในการทำงานที่นี่ ก็เลยคิดว่าจะอยู่ด้วยกันหรือไม่อยู่ด้วยกันธุรกิจก็น่าจะไปได้ดีค่ะ

0 คุณเรียนรู้อะไรจากวัฒนธรรมไทยบ้าง หลังจากอยู่เมืองไทยมา 4 ปีกว่า
 โอ้โห วัฒนธรรมไทยสวยงามมากเลย แล้วฉันก็ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมไทย
0
 มันเปลี่ยนตัวคุณบ้างไหม
  เปลี่ยนมากเลย.. ฉันรู้สึกเลยว่ากลายเป็นคนอดทนขึ้น ยอมรับอะไรมากขึ้น

0 แหม ฟังดูเหมือนเป็นอะไรแบบพุทธศาสนาเลยนะ
  ใช่ๆ นั่นสิ แล้วฉันก็คิดว่าศาสนาพุทธมีผลต่อคนไทยและวัฒนธรรมด้วยนะ แล้วฉันก็ชอบคนที่มีปรัชญาแบบนั้นด้วย

0 คุณได้เรียนรู้อะไรจากชีวิตคู่ มองชีวิตคู่เปลี่ยนไปไหม
 คือจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเรื่องของความสัมพันธ์ คนชอบคิดว่าแต่งงานแล้วจะต่างจากตอนคบกัน แต่ฉันคิดว่ามันก็เหมือนๆ กัน เหมือนตอนที่คบกันเป็นแฟนกันนั่นแหละ จริงๆ มันก็เศร้าที่ต้องจบลง แต่ขณะเดียวกันมันก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน แต่คนเราก็ยังอยู่ได้และยังเดินต่อไปได้

0 แต่ฉันเชื่ออยู่อย่างหนึ่งนะคะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้มักจะอยู่เป็นคู่เสมอล่ะ และฉันก็คิดว่าวันหนึ่งคุณจะมีชีวิตคู่อีกแน่นอน ว่าแต่ว่าตอนนี้คุณมีคนพิเศษคุยด้วยอยู่ไหม
 ยังก่อน คือตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีใคร ไม่อยากรีบ อยากมีเวลาอยู่กับตัวเอง ให้เวลาตัวเอง ใช้ชีวิตสาวโสดไปสักพักน่ะค่ะ ฉันว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด

0 อะไรคือข้อดีของการอยู่คนเดียว
  คุณก็จะมีเวลาในการที่จะเรียนรู้ตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง มีเวลาอ่านหนังสือที่ทิ้งมานาน ดูหนังที่อยากดู ให้เวลากับคนที่คุณรักอย่างเพื่อน ครอบครัว ที่สำคัญคุณจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้น

0 ฉันมีคำถามหนึ่งซึ่งสำคัญมาก และหนุ่มๆ โดยเฉพาะคนไทยเขาอยากรู้ว่าถ้าจะต้องจีบสาวต่างชาติจะต้องทำอย่างไรบ้าง มีอะไรจะแนะนำไหม
 ฉันว่าคำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือคุณต้องเป็นตัวเอง อย่างคุณภราดรนี่เขาเป็นตัวเองมากๆ ฉันก็เลยรักเขา เพราะเขาเป็นคนเปิดเผย แล้วก็ซื่อสัตย์ ใจกว้างและอ่อนโยน และการเป็นตัวของตัวเองก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะเป็นได้

0 ถ้าเรามองย้อนกลับไป ถ้าคุณและคุณภราดรมีลูกด้วยกันแล้ว คิดว่ามันจะทำให้คุณจะเลิกกันยากขึ้นไหม
 บอกไม่ได้หรอกค่ะ มันพูดยาก เพราะชีวิตมันก็เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน ไม่มีใครบอกได้หรอก คนที่แต่งงานกันแล้วและมีลูกเขาอาจจะมีความพยายามที่จะประคับประคองชีวิตคู่มากกว่านี้ แต่ก็โชคดีที่ฉันไม่ได้มีลูกเพราะถึงยังไงเราก็ต้องแยกทางกัน ฉันเชื่อในพรหมลิขิต และฉันก็เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผล และฉันก็รับได้กับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น

0 แล้วมีอะไรที่คุณอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำอีกไหม
 ฉันอยากจะทำงานการกุศลให้มากขึ้น ที่จริงในอดีตฉันก็ทำงานการกุศลมาเยอะแล้ว ฉันถึงขนาดตั้งองค์กรขึ้นมากับเพื่อน ชื่อว่า "Party For Charity" และมีการจัดงานซึ่งมีธีมต่างๆ กันไป และมอบเงินที่ได้ให้แก่องค์กรต่างๆ ในแต่ละครั้ง ซึ่งฉันจะยังคงทำมันต่อไป แล้วฉันก็อยากจะมีส่วนร่วมในงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง หมาและแมวข้างถนนในกรุงเทพฯ ฉันทำงานให้แก่องค์กรที่ดีมากชื่อว่า SCAD ซึ่งช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งตามข้างถนน ฉันต้องการจะทำงานพวกนี้ต่อไป รวมถึงองค์กรการกุศลอื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ ฉันต้องการจะเข้าไปมีส่วนร่วมในจุดนั้น และบางทีในอนาคต ฉันอาจจะเปิดมูลนิธิของตัวเองก็เป็นได้

0 มีอย่างอื่นอีกไหม ที่คุณทำอยู่ที่อื่นด้วย
  มีค่ะ มีคนติดต่อมาจากทั่วโลกเลยล่ะ ซึ่งก็ดีเพราะฉันชอบเดินทาง

0 แต่คุณคงรับหมดไม่ไหวหรอกนะ
 ก็ไหวนะ โดยเฉพาะตอนนี้ยิ่งมีอิสระที่จะไปไหนก็ได้แล้ว ก็อยากจะรับงานที่น่าสนใจหรือไปในที่ที่ยังไม่เคยไป มันเป็นโอกาสที่ฉันรออยู่


0 ที่ผ่านมาที่คุณบอกว่าคุณกับภราดรไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย ตอนนั้นคุณทำอะไรเหรอ
 ฉันเดินทางบ่อย ภราดรก็เดินทางบ่อย บางทีก็ไปงานโมเดลลิ่ง หรืองานอีเวนท์ ไปเป็นแขกพิเศษบ้าง ไปหลายประเทศ บางทีก็ไปเจอเพื่อน เจอครอบครัวอะไรแบบนี้

0 เอาล่ะ ยังไงก็ตามคุณก็ยังดูยุ่งและมีอะไรที่จะต้องทำเพียบเลย แต่ที่แน่ๆ เราสามารถติดตามผลงานของคุณในฐานะนางแบบของอีลิทโมเดลด้วยใช่ไหมคะ งั้นเราก็ขออวยพรให้คุณนาตาลีโชคดีกับธุรกิจและสิ่งต่างๆ ที่จะทำต่อไปนะคะ

  ขอบคุณมาก
0 ขอบคุณมากค่ะสำหรับวันนี้