
อนาคตของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทไทยที่นำการออกแบบมาสร้างความแตกต่าง
เสน่ห์ของทำเลสุวรรณภูมิที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง เป็นมรดกจากสวรรค์ที่คนไทยคือ กลุ่มคนที่โชคดีที่สุดที่ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินทองแห่งนี้ ทั้งความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากร สภาพอากาศที่มีสภาวะ
“น่าสบาย” ที่สุด สภาพสังคม “คน” คือ เสน่ห์ที่ใครๆ ในโลกนี้ประทับใจความเป็นคนไทย มีความรัก โอบอ้อมอารี ยิ้มง่าย และใจดี ค่าครองชีพประหยัดที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง อาหารการกินที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง ถ้าเทียบกับหลายๆ ที่ทั่วโลก
แนวโน้มพฤติกรรมของคนในยุคหน้าจะมีโอกาสเดินทางกันมากขึ้น มีโอกาสขยับขยายการตั้งถิ่นฐาน สภาวะอากาศที่แปรปรวน ร้อนก็ร้อนจัด หนาวก็หนาวจัด ทำให้คนในโลก เดินทางหนีความไม่สมดุลของบรรยากาศโลก ประเทศไทย คือ ทางเลือกของนักเดินทางที่หนีหนาว โดยเฉพาะไม่กี่ปีมานี้ อากาศหนาวของบางประเทศกินเวลายาวนานมาก จนคนประเทศเหล่านั้นเดินทางมาพักผ่อนระยะยาวในประเทศอุ่น ยาวนานมากขึ้น ประเทศไทยคือจุดพักผ่อนที่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นเลือกมากที่สุด ปรากฏการณ์นี้จึงทำให้ประเทศไทยได้เปรียบต่อทุกชาติในภูมิภาค
การท่องเที่ยวไทยจะบูมและขยายตัวมากเข้าไปอีก ธุรกิจที่ครอบคลุมการท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงส์อย่างมากมาย โรงแรม รีสอร์ท ตอบโจทย์การลงทุนยุคนี้มากที่สุด แต่จะต้องมีปัจจัยสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆ ในการตัดสินใจเลือกพักค้างแรม คือ บรรยากาศ และรูปแบบการดีไซน์
เมื่อเรามององค์ประกอบข้อดีต่างๆ เหล่านั้นแล้วจะสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทจะมีโอกาสโตได้อีกเยอะ อีกทั้งการยอมรับว่า การให้บริการต้อนรับของคนไทยถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลกก็ว่าได้ แต่ปัจจัยที่น่าสนใจในการทำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทในประเทศไทย คือ ชัยภูมิที่เหมาะสม เช่น
ผลกระทบภัยธรรมชาติไม่รุนแรงมาก
เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างจีนและอินเดียได้ดี
มีสถิติว่าต่างชาติต้องการมาตั้งรกรากอยู่เมืองไทยมาก โดยเฉพาะประเทศเขตหนาว เช่น รัสเซีย สแกนดิเนเวีย และญี่ปุ่น
ค่าครองชีพต่ำมาก
อาหารราคาประหยัด ไลฟ์สไตล์เยี่ยมหลากหลาย
สภาพอากาศที่ดี
ระบบที่เอื้อต่อการทำธุรกิจง่ายกว่าหลายประเทศ
กระบวนการสร้างสรรค์โครงการโรงแรม รีสอร์ทขนาดเล็ก การเตรียมความพร้อมของผู้ลงทุนโครงการ ดังนี้
1.วิสัยทัศน์ของผู้ลงทุน
สามารถมองเห็นโอกาสของโครงการได้ก่อนล่วงหน้า และมีความหวังที่จะทำสิ่งดีให้สำเร็จ
2.เสน่ห์ของผู้ลงทุนที่มีบุคลิก
บางครั้งจุดเด่นและเสน่ห์ของตัวเองสามารถสร้างจุดขายของโครงการได้ โดยเฉพาะโรงแรมเจ้าของต้องเป็นผู้มีบุคลิกการต้อนรับ
3.การสำรวจหาที่ดินที่เหมาะสม หรือหาข้อดี ข้อเสียของที่ตั้งโครงการ
เราสามารถวิเคราะห์ก่อนด้วยตัวเอง สำรวจข้อดีข้อเสียรอบทิศทาง โดยรอบถนนหนทาง ระยะเลี้ยวรถ ระยะถนน ขนาดถนน ขนาดที่ดิน ลักษณะที่ดิน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับผังเมือง
4.ความเข้าใจเรื่องสภาพแวดล้อม และวัฒนธรรม
ศึกษาลักษณะเฉพาะของสังคมประเพณี วัฒนธรรมของแต่ละชนชาติ โดยเฉพาะที่โครงการตั้งอยู่อย่างเหมาะสม และลึกซึ้งเพื่อนำมากำหนดแนวความคิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยมีความสัมพันธ์กับที่ตั้งโครงการ
5.ความเข้าใจเรื่องพฤติกรรมลูกค้า
ควรสำรวจหากลุ่มลูกค้าเฉพาะของโครงการ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการออกแบบอย่างเหมาะสม และลงลึกถึงในรายละเอียดของพฤติกรรมเพื่อกำหนดแนวความคิด การวางผังให้เหมาะสมที่สุด ไปจนถึงการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในโครงการ
6.งบประมาณที่เหมาะสม ทุนและการคืนทุน และความพร้อมของผู้ลงทุน
คำนวณเบื้องต้นเพื่อหาต้นทุนทั้งหมดละเอียดได้ยิ่งดีครับ ตั้งแต่ต้นทุน ค่าที่ดิน ต้นทุนก่อสร้างตกแต่ง เป็นราคาต่อตารางเมตร ต้นทุนค่าบริการวิชาชีพออกแบบต่างๆ ต้นทุนการบริหารงานเบื้องต้น ต้นทุนการตลาด และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ
7.กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ศึกษากฎหมายผังเมือง กฎหมายควบคุมอาคารพระราชบัญญัติและกฎกระทรวงต่างๆ กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงแรมหรือประเภทที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อนำมาประกอบการทำโครงการที่ถูกต้อง
8.ไอเดียและการเลือกนักออกแบบ คุณสมบัติของนักออกแบบที่เหมาะกับโครงการ
ศึกษาประสบการณ์แนวความคิด วิธีคิด ทัศนคติ และความถนัดเพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำโครงการที่มีคุณภาพร่วมกันกับผู้ลงทุน
9.ศึกษาความรู้เรื่องพื้นฐาน การบริหารโครงการและการให้บริการอย่างมืออาชีพ
ผู้ที่ทำโครงการมาแล้วจะไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทำโครงการ โดยเริ่มมาจากธุรกิจสายอื่นควรจะต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย เพื่อจะได้มองภาพรวมโครงการทะลุทะลวง อาจจะด้วยการเข้าอบรมในหลักสูตรระยะสั้นต่างๆ ไปจนถึงการศึกษาด้วยตนเอง ที่สำคัญถ้าเป็นคนเปิดใจก็จะพบกับความสำเร็จครับ
ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกโครงการนะครับ ปีนี้น่าจะเป็นปีทองที่สุดปีหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนครับ ท่านสามารถเข้าร่วมฟังการบรรยายและเวิร์กช็อป ในงานสัมมนา หัวข้อ “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” ตอน “สร้างสรรค์ธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ทแนวใหม่แห่งอนาคต” ในระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี ติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2984-0091-2 หรือ 08-6331-7433 แล้วพบกันครับ
อ.เอกพงษ์ ตรีตรง
www.ideal1group.com



