
เตรียมแจกหนังสือหลวงตาบัว5แสนเล่ม
คนแห่ไหว้หลวงตามหาบัว ขณะที่อาสาสมัครร่วมบรรจุหนังสือที่ระลึกกว่า 5 แสนเล่มและซีดีเตรียมมอบให้พระและประชาชนที่เข้าร่วมงานพระราชทานเพลิง ส่วนหนังสือที่ระลึกวันพระราชขทานเพลิงจะรวบรวมพิมพ์แจกในวันที่ 12 ส.ค. 54 ซึ่งเป็นวันเกิดหลวงตาบัว กระทรวงสาธารณสุขเตรีย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ศรัทธาญาติโยมหลายหมื่นคน เดินทางมากราบสรีระสังขารพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน บริเวณศาลาในวัดเกสรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะถึงวัน เคลื่อนสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว มาประดิษฐ์ไว้ที่จิตกาธาน (เมรุลอย) และจะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์
ในขณะที่การขึ้นกราบสรีระสังขารของหลวงตามหาบัว ยังคงมีญาติโยมต่อแถว 4 แถว ยาวออกมาถึงหน้าประตูวัด โดยยังมีการการนำภาพของหลวงตา หนังสือที่ระลึก และล็อคเก็ตที่มีภาพหลวงตาทั้ง 2 ด้านมาแจก ทุกคนที่เข้าสักการะองค์หลวงตาโดยในวันนี้มีลูกศิษย์นำหนังสือ “หลวงตาวัดบ้านตาด รวมเรื่องเล่า...สิ่งที่เห็น” พิมพ์ถวายมาแจกกว่า 50,000 เล่ม ทำให้มีผู้ไปเข้าคิวรับจำนวนมาก
และที่อาคารเอนกประสงค์ ร.ร.อุดรธรรมมานุสรณ์ บ.ตาด อ.เมือง คณะครู นักเรียน และนักศึกษาจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ.อุดรธานี ร่วมกันบรรจุหนังสือ และซีดี. ลงกล่องที่ระลึก แจกในงานพระราชทานเพลิงวันเสาร์ที่ 5 มีนาคมนี้ หนังสือ 17 เล่ม ประกอบด้วย สู้ไม่ถอย , หลวงตาผู้สืบสานอริยวงศ์ , นิพพานคือนิพพาน ,หยดน้ำบนใบบัว , อริยสัจ 4 , หลวงตาพระมหาบัว , ประวัติวัดป่าบ้านตาด , สมณะพระผู้ข้ามวัฏฏะ , จิตพระอรหันต์ , ธรรมแห่งชัยชนะ , มหาสมัยสูตร , ชาติสุดท้าย , เมตตาธรรมค้ำชาติไทย , พระผู้เป็นนิรันดร์ , พระปาลิ , ไตรรัตน์ และคลังหลวงกับเศรษฐกิจพอเพียง และ ซีดี.4 ชุด
การบรรจุหนังสือแบ่งออกเป็น ชุดกล่องใหญ่ 1 หนังสือ 16 เล่ม พร้อมซีดี 4 ชุด บังสุกุลถวายพระเถระผู้ใหญ่ 1,000 กล่อง มอบห้องสมุด 500 กล่อง , ชุดกล่องใหญ่ 2 มีหนังสือ 10 เล่ม ซีดี 2 ชุด มอบ 150 กล่อง มอบให้ วีไอพี. , ชุดกล่องเล็ก 1 หนังสือ 6 เล่ม ซีดี.4 ชุด 15,000 กล่อง โดยเพิ่มเติมฉบับภาษาอังกฤษให้พระฝรั่ง 300 กล่อง ถวายพระมาร่วมงาน , ชุดกล่องเล็ก 2 หนังสือ 6 เล่ม ซีดี.หยดน้ำบนใบบัว 2,000 กล่อง มอบให้แขกในศาลานอก และกล่องเล็ก หนังสือ 6 เล่ม ซีดี 4 ชุด 15,000 ชุด มอบให้บุคคลทั่วไป รวมหนังสือมากกว่า 5 แสนเล่ม
หนังสือส่วนใหญ่มีทั้งหนังสือ เนื้อหาของวัดป่าบ้านตาด และของบุคคลภายนอกรวมรวม ทั้งที่เคยพิมพ์มาแล้ว นำมาพิมพ์ใหม่แล้วเพิ่มเนื้อหา พินัยกรรมหลวงตาพระมหาบัว อาทิ หยดน้ำบนในบัว จัดพิมพ์มาแล้ว 15 ครั้ง โดยครั้งนี้ไม่มีหนังสือ ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และปฏิปทา หนังสือที่หลวงตาพระมหาบัว เขียนเอง 2 ฉบับแรก ที่ได้รับความนิยมมาก ขณะที่ยังมีหนังสือเขียนขึ้นมาใหม่ อาทิ ชาติสุดท้าย , หลวงตานิพพาน และสมณะพระผู้ข้ามวัฏฏะ
สำหรับหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิง แก่สรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว จัดทำโดยคณะกรรมการจัดงาน อยู่ในระหว่างการจัดพิมพ์ เป็นหนังสือขนาด เอ 4 กระดาษปอนด์มัน 4 สี 460 หน้า ปกแข็ง พิมพ์จำนวน 1 แสนเล่ม ราคาเล่มละ 139 บาท จะแจกจ่ายในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 ตรงกับวันเกิดของหลวงตาพระมหาบัว
สธ.เตรียมพร้อมรับคนแห่ร่วมงานหลวงตาบัว
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 มี.ค. ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล สาธารณสุข จ.อุดรธานี และคณะตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่วัดป่าบ้านตาด เพื่อดูความพร้อมการให้บริการดูแลสุขภาพประชาชน ที่จะเดินทางไปร่วมพิธีพราชทานเพลิง สรีระสังขาร พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในวันที่ 5 มีนาคม นี้
ดร.พรรณสิริฯ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 มีนาคม 2554 คาดว่าจะมีคลื่นมหาชนจากทั่วประเทศเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระสรีรังคารหลวงตามหาบัวฯ ประมาณ 5 แสนคน กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนเตรียมความพร้อมดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล การสุขาภิบาลอาหาร น้ำดื่ม ส้วม และขยะ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ โดยได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มีการระดมทีมแพทย์ พยาบาลกว่า 500 คน
“โดยมีแพทย์จาก รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม รพ.หนองบัวลำภู รพ.อุดรธานี รพ.กรุงเทพ รพ.ขอนแก่น รพ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย รพ.ชุมชน และรพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งหมดใน จ.อุดรธานี โดยตั้งจุดบริการรักษาพยาบาลจุดใหญ่ 9 จุด และมีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ หน่วยย่อยอีกประมาณ 100 หน่วย เพื่อเข้าไปดูแลทั้งประชาชนและพระภิกษุสงฆ์บริเวณรอบวัด มีรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมเครื่องมือแพทย์ครบครันรวมทั้งหมด 20 คัน และได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้อีก 3 ลำ เพื่อใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศหากจำเป็นเร่งด่วน”
ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า เนื่องจากมีคนจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง ที่โรงเรียนบ้านตาด อยู่ห่างจากวัดป่าบ้านตาด 1,500 เมตร ภายในโรงพยาบาลจะมีศูนย์บัญชาการกู้ชีพฉุกเฉิน มีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน 4 หน่วย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูง มีเตียงรองรับผู้ป่วย 10 เตียง มีแพทย์ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้รพ.ศูนย์อุดรธานีเป็นโรงพยาบาลหลักในการรับส่งต่อผู้ป่วยเข้ารักษาตัว ให้การรักษาฟรีทั้งหมด จนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2554 ขณะนี้หน่วยแพทย์ทั้งหมดได้เปิดบริการแล้ว ยืนยันทุกหน่วยมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนที่เจ็บป่วยสามารถเข้าใช้บริการได้ตลอดเวลา
นายแพทย์สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นพ.สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้วางแผนดูแลความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม โดยได้จัดประชุมผู้ปรุงอาหารในโรงทานประมาณ 1,000 คน เพื่อให้ดูแลความสะอาดอาหารได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และดูแลกำจัดขยะ น้ำเสีย และความสะอาดส้วม ซึ่งขณะนี้ทางวัดได้สร้างส้วมเพิ่มเติมอีก 3 เท่าตัว โดยได้นำสารอีเอ็มไปใช้ เพื่อย่อยสลายของเสียได้ดีขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็น ผลการตรวจน้ำดื่มที่ใช้ภายในวัด พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
“ประชาชนที่ตั้งใจจะไปร่วมพิธี ขอให้ดูแลสุขภาพตนเองให้พร้อม หากมีโรคประจำตัวให้นำยาติดตัวไปด้วย หลังจากที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว หากอยู่ใกล้หน่วยแพทย์จะเป็นการดี ไม่ควรนำเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเข้าไปในงานเนื่องจากอาจป่วยได้ง่าย และควรงดสูบบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพื้นที่มีประชาชนอยู่อย่างแออัด และขอให้ประชาชนพกน้ำดื่มขวดเล็ก เพื่อดื่มดับกระหายเนื่องจากอากาศจะร้อนมาก และพกอาหารที่บูดเสียยาก เช่น ข้าวเหนียว เนื้อทอด หมูทอด ขนมปังกรอบ ติดตัวเพื่อรับประทาน หากมีหน้ากากอนามัยก็ให้พกติดตัวด้วยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง” นายแพทย์สัญชัย กล่าว
พระครูอรรถกิจเผยสาเหตุที่ต้องใช้ไม้จิกเผาศพ
พระครูอรรถกิจ นันทคุณ หรือพระอาจารย์นภดล นนทโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยถึงกรณีที่จะต้องใช้ไม้จิก หรือไม้เต็งมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาศพ หลวงตามหาบัวว่า มันเป็นภูมิปัญาดั้งเดิมของคนไทยเรา โดยเฉพาะคนไทยอีสาน เวลาเราเผาผู้ใหญ่ของเราไม่ว่าจะเป็นโยมหรือพระก็ตาม เมื่อเราจะตั้งใจเก็บกระดูก บางทีคนแก่เราเก็บกระดูก ถ้าเราใช้ไม้จิกจะได้ฟืนที่แรงและแกร่ง ผลผลิตคือกระดูกที่เราเผาด้วยไม้จิกจะขาวสวย ถ้าเผื่อไม้อื่น อย่างไม้จันทน์จะดำ ถ้าอยากได้กระดูกบรรพบุรุษเราต้องใช้ไม้จิก เป็นภูมิปัญญา ถ้าหากเป็นพระ ครูบาอาจารย์ที่รู้จัก ท่านคาดว่าอัฐิของครูบาอาจารย์ที่จะกลายเป็นพระธาตุก็ยิ่งเน้นตรงนี้ หลวงตาไม่ได้เน้นสำหรับท่าน แต่ท่านได้ให้องค์ความรู้ที่จัดการสำหรับพระองค์อื่น ๆ เช่นหลวงปู่แนน ท่านเคยเจาะจงเอาไว้เลย เอาไม้จิกไปเผานะ เพราะบางครูบาอาจารย์ทางหลวงตาเป็นเหมือนเจ้าภาพ ยกศพให้หลวงตาบัวจัดแจงและย้ำเอาไม้จิกไปเผานะที่ชัดๆ และสองรูปคือ ท่านอ.สุวัฒน์ กับหลวงปู่แนน ทางพระวัดนี้ก็จำภูมิปัญญาอันนี้เอาไว้และมาจัดถวายให้หลวงตาแต่หลวงตาท่านไม่ได้สั่งเอาไว้สำหรับตัวท่านเอง
กลับดี เพราะไม้จิกไม่ใช่ไม้หายากอะไร และไม่ได้มีค่าอะไร แต่แกร่งและหนัก ใช้เป็นไม้แข็ง ภาษาไทยไม้จิกคือไม้เต็ง คู่กับไม้รัง ป่าก็อยู่ในป่าเต็งรัง ไม้ไม่ใหญ่พบได้ทั่วไป แต่ว่ามันหนัก และแกร่งเท่านั้นเอง หากเป็นฟืนก็จะได้ฟืนที่ดี เผาถ่านก็ดี เรียกว่าเป็นธรรมชาติที่สุด เลยไม่ต้องใช้ไม้จันทน์ แต่ถ้ามีคนเอามาก็เอามา แต่ไม่ได้ใช้กับการเผาร่างของหลวงตา
"ถ้าสรีระของหลวงตาบัวไม่ไหม้ในวันเผา ก็ปาฎิหารย์เลย ถ้าไม่ไหม้คือไม่ไหม้ แล้วแต่ปาฏิหารย์ เคยได้ยินเหมือนกันกรณีการเผาแล้วไม่ไหม้ แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าเกิดกับหลวงตาก็เกิดก็เกิด มีแต่ว่าใส่ไม้มากเกินไป จนกระดูกจะโปร่ง และ ป่นหมดเลย แล้วไฟก็ลุกแรงมาก ลูกไฟติดขนาด 10 - 50 เมตรก็มี กระเด็นไปไหม้จีวรพระที่รายล้อมอยู่ก็เคยมี แต่เรื่องเผาแล้วไม่ไหม้นานๆ ถึงจะเจอ ล่าสุดก็มีเหมือนกันเป็นพระแต่จำไม่ได้ว่าใคร"พระครูอรรถกิจ กล่าว