ไลฟ์สไตล์

ตั้งแม่ชีเป็นจ้าอาวาสวัดไทยในอินเดีย

ตั้งแม่ชีเป็นจ้าอาวาสวัดไทยในอินเดีย

22 ก.พ. 2554

“วัดไทยนาลันทา”อินเดียป่วน ศาลสูงเมืองปัฏนาพิพากษาให้แม่ชีเป็นเจ้าอาวาสคนใหม่ ด้านเจ้าอาวาสคนเดิมร้อง “นิพิฏฐ์” ประสานสำนักพุทธฯขอความช่วยเหลือ ผอ.สำนักพุทธฯรับกฎหมายไทยช่วยไม่ได้ แนะเจ้าอาวาสเจรจาแม่ชีแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พระครูปริยัติธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยนาลันทา เมืองปัฏนา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม ได้เดินทางมาเปิดโครงการปฏิบัติธรรมเนื่องในวันมาฆบูชาในดินแดนพุทธภูมิ สาธารณรัฐอินอินเดีย และได้เดินทางเข้ามาที่วัดไทยนาลันทาด้วย จึงได้ขอความช่วยเหลือเนื่องจากขณะนี้ศาลสูงเมืองปัฏนา ได้มีคำพิพากษาให้แม่ชีอารีย์ ผ่องใส ซึ่งอยู่ที่วัดเดียวกันเป็นผู้บริหารจัดการวัดแทนเจ้าอาวาส จึงอยากให้ทางกระทรวงวัฒนธรรมช่วยประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว

  ทั้งนี้แม่ชีคนดังกล่าวเดินทางมาเรียนหนังสือที่อินเดียตั้งแต่สมัยพระมหาธารทอง กิตฺติคุโณ เป็นเจ้าอาวาส และหลังจากที่พระมหาธารทอง มรณภาพลงเมื่อเดือนส.ค.2550 ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งอาตมาเป็นเจ้าอาวาส ทำให้แม่ชีอารีย์ไม่พอใจเพราะบทบาทในวัดลดลง เนื่องจากช่วงพระมหาธารทองเป็นเจ้าอาวาสแม่ชีเคยช่วยงานมาตลอด จึงนำเอกสารที่ระบุว่าเป็นพินัยกรรมที่เจ้าอาวาสรูปก่อนเขียนให้ไปฟ้องศาล จนมีคำพิพากษาออกมาว่าให้แม่ชีมีสิทธิในการบริหารวัด อย่างไรก็ตามขณะนี้แม่ชีอารีย์ยังไม่มีการดำเนินการใดๆกับทางวัด

 เจ้าอาวาสวัดไทยนาลันทา กล่าวต่อไปว่า ทางนายนิพิฏฐ์ได้รับเรื่องดังกล่าว และมอบให้กรมการศาสนาประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ในการให้ความช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้จะนำปัญหาดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมพระธรรมทูตทั่วโลกซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 24 ก.พ. ที่สาธารณรัฐอินเดีย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในคำสั่งศาลสูงเมืองปัฏนา ที่แจ้งไปยังวัดไทยนาลันทานั้นระบุว่า ศาลได้พิจารณาจากเอกสารต่างๆ และบัญชีของวัด ตามที่แม่ชีอารีย์ ยื่นฟ้องต่อศาล จึงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2553 ให้พื้นที่วัดเป็นของแม่ชีอารีย์ และมีสิทธิ์ในการบริหารวัดทั้งหมด แต่ศาลยังเปิดโอกาสให้ทางพระสงฆ์ยื่นเอกสารเข้ามาชี้แจง แต่จนถึงขณะนี้หลักฐานที่ทางพระสงฆ์ยื่นไปยังศาลนั้นยังมีไม่เพียงพอ

 ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า กรณีวัดไทยนาลันทาที่ศาลมีคำสั่งให้ แม่ชี มีอำนาจเต็มในการบริหารวัด อาจจะเกิดได้จากแม่ชีรูปนั้น เป็นประธานมูลนิธิที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งวัด เนื่องจากในต่างประเทศการตั้งวัดจะจดทะเบียนในนามมูลนิธิ และส่วนใหญ่วัดจะใช้ฆราวาสเป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เจ้าอาวาสไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เหมือนกับวัดไทยนาลันทา สาธารณรัฐอินเดีย ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่างๆมากมาย ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว กฎมหาเถรสมาคม(มส.)หรือกฎหมายของคณะสงฆ์ไทย ไม่สามารถเข้าไปใช้ในต่างประเทศได้ วัดที่อยู่ในต่างประเทศก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ

 นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ได้เสนอแนวทางแก้ไขให้แก่วัดที่อยู่ในต่างประเทศ โดยให้เจ้าอาวาสเป็นประธานมูลนิธิ และให้พระลูกวัดร่วมเป็นกรรมการ กับฆราวาส ซึ่งหลายวัดในสหรัฐอเมริกาได้ แก้ปัญหาตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เสนอก็ทำให้ปัญหาต่างๆลดลง ในขณะเดียวกัน การที่แม่ชีได้รับอำนาจในการบริหารวัด ทางเจ้าอาวาสก็ต้องมีการเจรจากัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นในวัด อย่างไรก็ตาม ตนจะสอบถามเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป