
"ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง"ตำรับเดิมขนานแท้แฟรนไชส์น้องใหม่สไตล์เวียดนาม
ภายหลังจากประสบผลสำเร็จอย่างงดงามกับธุรกิจแฟรนไชส์ไก่ย่างชื่อดัง "เขาสวนกวาง" ล่าสุด "ชัยพร ศรีวิโรจน์" เจ้าของร้าน "สุดทางรัก" ย่านถนนเฉลิมพระเกียรติ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ หันมาจับธุรกิจใหม่ด้วยการเปิดตัวแฟรนไชส์น้องใหม่ล่าสุด
"ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง" สูตรดั้งเดิมตามสไตล์เวียดนาม แต่เป็นไส้กุนเชียงและไก่ยอ รสชาติอร่อยเหมาะเป็นอาหารเช้าสำหรับผู้ที่เร่งรีบอย่างคนที่อยู่ในสังคมเมือง มั่นใจภายใน 6 เดือนสามารถขยายแฟรนไชส์กว่า 50 แห่ง
พูดถึงข้าวจี่บางคนมักจะคุ้นเคยกับข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมๆ ชุบด้วยไข่ โรยด้วยเกลือ เสียบด้วยไม้แล้วนำไปจี่หรือย่างบนเตาถ่าน แต่สำหรับข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง ชัยพร บอกว่า ข้าวจี่ตัวนี้หมายถึงบั่นหมี่ ในภาษาเวียดนาม หรือขนมปังที่ดัดแปลงจากขนมฝรั่งเศสมีลักษณะเรียวยาวคล้ายลูกรักบี้ ในประเทศเวียดนามใช้ยัดไส้ด้วยกุนเชียงและหมูยอ เป็นอาหารหลักของชาวเวียดนามรวมถึงชาว สปป.ลาว ปัจจุบันกลายเป็นเมนูยอดฮิตในภาคอีสานโดยเฉพาะชาวอุดรธานี ขอนแก่น อุบล หนองคาย และนครพนมมีขายอย่างกว้างขวาง
"ที่จริงขนมปังฝรั่งเศสมีขนาดใหญ่ และแข็งเพราะทำจากจากข้าวโอ๊ต ครั้งที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครองประเทศเวียดนาม ชาวฝรั่งเศสได้นำขนมปังเข้ามาเป็นเสบียง พอคนเวียดนามเห็นกรรมวิธีทำแล้วคงมาประยุกต์ใหม่ โดยการนำเอาวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่าย จำพวกแป้งข้าวเหนียวมาทำแทนแป้งข้าวโอ๊ต จึงกลายมาเป็นบั่นหมี่ ที่ไม่แข็งแต่จะเหนียวนุ่ม เป็นรูปทรงใหม่คล้ายลูกรักบี้ เวลาจะรับประทานจะนำบั่นหมี่มาผ่าตรงกลางแล้วยัดไส้ด้วยหมูยอ กุนเชียง ตับบด ราดด้วยซอสปรุงรส คล้ายกับแฮมเบอร์เกอร์ แต่ที่แตกต่างคือเมื่อยัดไส้แล้วนำไปย่างบนเตาให้กรอบนอกนุ่มใน ทำให้รสชาติอร่อย หอม กินแบบง่ายเป็นอาหารหลักของชาวเวียดนาม ต่อมานำไปสู่ สปป.ลาว และเข้าสู่ประเทศไทยในแถบลุ่มน้ำโขงอย่าง จ.มุกดาหาร นครพนม อุดร ขอนแก่น หนองาย จนถึงขอนแก่น ซึ่งมักนิยมกินคู่กับไข่กระทะ หรือไม่ก็กาแฟ” ชัยพร กล่าว
เจ้าของร้านสุดทางรักบอกอีกว่า แม้ข้าวจี่ประเภทนี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภาคอีสาน แต่ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างจะหาซื้อได้ยาก ต้องไปหาตามร้านอาหารเวียดนาม ทั้งที่ความจริงเขามองว่าอาหารชนิดนี้เหมาะกับวิถีชีวิตของคนกรุงเทฯ ที่ค่อนข้างใช้ชีวิตที่รีบเร่ง จึงมองว่าตลาดของอาหารประเภทนี้น่าจะไปได้สวย เพราะเหมาะกับคนกรุงเทพฯ กินอร่อย อยู่ท้อง และมีคุณค่าทางอาหารด้วย
อย่างไรก็ตาม เท่าที่เดินทางดูตลาดในช่วงที่ผ่านมา ชัยพรบอกว่า ยังไม่มีใครนำมาทำเป็นธุรกิจจริงๆ จังๆ จากส่วนใหญ่จะขายกันควบคู่กับร้านกาแฟ หรือร้านไข่กระทะ และจากที่เขามีประสบการณ์ทำแฟรนไชส์ไก่ย่างเขาสวนกวางมา ทำให้มองเห็นว่าน่าจะทำตลาดได้ เพราะลูกค้าที่จะซื้อแฟรนไชส์จะไม่ยุ่งยาก ใช้พื้นที่ไม่ต้องมาก เหมาะที่จะขายในตอนเช้า เพราะอาหารชนิดนี้นิยมเป็นอาหารเช้าที่กินกับกาแฟ หรือน้ำเต้าหู้ ฉะนั้นหากใครมีที่ขายกาแฟ ที่ขายน้ำเต้าฮู้ หมูปิ้ง หรือปาท่องโกอยู่แล้ว สามารถน้ำเอาแป้งจี่หรือข้าวจี่ไปวางขายได้เลย
“ข้าวจี่ของผมเรื่องความอร่อยและคุณภาพไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเป็นสูตรต้นตำรับของชาวเวียดนามอย่างแท้จริง กินที่อุดรธานี ขอนแก่น หรือนครพนม รสชาติอย่างไร ก็เป็นรสชาติเดียวกัน ของผมเน้นที่ความสะอาด มีคุณภาพ กุนเชียงไก่ยอผมทำเอง ฉะนั้นแแฟรนไชส์ตัวนี้ผมมั่นใจว่าไปได้สวย และน่าจะประสบความสำเร็จได้เป็นอย่าง เพราะนอกจากผมจะมีประสบการณ์ในเรื่องแฟรนไชส์มาแล้ว และข้าวจี่ตัวนี้ยังมีจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแปลกใหม่ วิธีทำก็ง่าย ต้นทุนก็ไม่แพง ตรงนี้ผมการันตีว่าแฟรนไชส์ตัวนี้สามารถคืนทุนได้รวดเร็ว” เจ้าของร้านสุดทางรัก กล่าว
ชัยพรบอกด้วยว่า หลังจากที่มีการเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้สนใจจำนวนมาก ล่าสุดมีผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์มีอยู่ 6 รายด้วยกัน เช่นที่มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ย่านสีลม บุคคโล อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ย่านหัวหมาก กรุงเทพฯ โดยผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์ลงทุนครั้งแรกเพียง 9,999 บาท มีคีออส หรือชั้นวางของ 1 ชุด เตาอบ ขวดใส่ซอสพริก และซอสมะเขื่อเทศอย่างละ 1 ขวด หลังจากที่ซื้อแล้ว ร้านสุดทางรักจะส่งข้าวจี่ให้หากซื้อ 100 ชิ้นขึ้นไปจะส่งให้ในราคาชิ้นละ 7 บาท ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์สามารถขายต่อในราคาชิ้น 12 บาท หากเป็นต่างจังหวัดลูกค้าต้องออกค่าใช้จ่ายเอง
“ตอนที่ผมออกบูธในงานวันเกษตรก้าวหน้าที่ธนาคารกรุงเทพฯ สำนักงานใหญ่สีลม ที่ผ่านมาข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง ของผม ขายเกลี้ยงภายใน 5 นาที ผู้ที่ซื้อข้าวจี่ไปสามารถเก็บในตู้เย็นได้ถึง 5 วัน ตรงนี้ผมจึงมั่นใจว่าภายใน 6 เดือนผมสามารถขายแฟรนไชส์ได้ไม่ต่ำกว่า 50 สาขา” ชัยพรกล่าว อย่างมั่นใจ
นับเป็นธุรกิจแฟรนไชส์น้องใหม่ล่าสุดที่เป็นอีกหนึ่งเลือกสำหรับที่ต้องการจะประกอบอาชีพใหม่ในขณะนี้ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ชัยพร ศรีวิโรจน์ (คุณป้อม) โทร.08-1544-5195
ง่ายๆ กับการทำข้าวจี่สไตล์เวียดนาม
สำหรับการทำข้าวจี่ มีวิธีทำง่ายดังนี้
1.หากทำข้าวจี่ที่เป็นลูกรักบี้ไม่ได้ ให้ไปซื้อตามท้องตลาด โดยเฉพาะในภาคอีสานจะมีขายที่สำเร็จรูปแล้ว
2.เตรียมกุนเชียงไก่และไก่ยอ
3.เมื่อได้ข้าวจี่มาผ่าตรงกลาง หรือด้านบนก็ได้ จากนั้นทาด้วยเนยใส่ไส้ซึ่งประกอบด้วยกุนเชียง และไก่ยออย่างละ 1 ชั้น
4.ใส่ไส้เสร็จแล้วหากต้องการบริโภค ให้นำเข้าเตาอบความร้อน 250 องศาฟาเรนไฮต์ นาน 3 นาที หรือไม่ก็นำไปเวฟในตู้อบไมโครเวฟใช้เวลาแค่ 1 นาที บางคนชอบปิ้งก็ได้
5.เมื่อได้เวลาออกมาใส่เครื่องเคียง มีซอสมะเขื่อเทศ ซอสพริก หรือบางคนชอบมัสตาร์ดก็ได้ จากนั้นนำไปบริโภคได้เลย
ดลมนัส กาเจ