
ปีทองชาวสวนกุหลาบตัดดอกขายราคาพุ่งหลายเท่าตัวรับ"วาเลนไทน์"
ในช่วงนี้ดูเหมือนว่า จะเป็นปีทองของภาคค้าเกษตร จะเห็นว่าขณะนี้สินค้าเกษตรต่างพาเหรดปรับราคาสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ส้มสายน้ำผึ้ง ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ แม้แต่มะพร้าวที่แทบจะไม่มีราคา แต่ปีนี้ราคาพุ่งสูงหลายเท่าตัว
ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากขึ้นได้บ้าง ไม่เว้นแม้แต่ "ดอกกุหลาบ" ที่ปกติในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ราคาจะปรับขึ้นอยู่แล้ว แต่ในปีนี้ราคาสูงกว่าทุกปี สาเหตุจากปัจจัยสภาพของภูมิอากาศที่แปรปรวน ทำให้ผลผลิตออกมาน้อย ขณะที่ดอกกุหลาบที่มาจากเมืองจีนได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องเพราะด้อยคุณภาพนั่นเอง ทั้งที่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาดอกกุหลาบราคาตกต่ำ หลังจากที่ดอกกุหลาบจากจีนทะลักเข้ามาใหม่ๆ ถึงขนาดเกษตรกรส่วนหนึ่งหันไปปลูกพืชอื่น
จากการสำรวจแหล่งปลูกกุหลาบในภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นที่ จ.ตาก ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดที่มีการปลูกกุหลาบมากที่สุดในประเทศ พบว่าแต่ละแห่งปริมาณดอกกุหลาบลดน้อยลง ขณะที่ความต้องการในช่วงวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์นั้นสูง ส่งผลให้ราคาดอกกุหลาบพุ่งขึ้น ทั้ง นายมาลัย โตเลี้ยง ประธานชมรมผู้ปลูกกุหลาบและไม้ผล อ.พบพระ จ.ตาก เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อขายดอกกุหลาบก่อนเทศกาลวันวาเลนไทน์คึกคักเป็นอย่างมากส่งผลให้ดอกกุหลาบสีขาวและสีแดง ราคาหน้าสวนปรับขึ้นเป็นดอกละ 6-8 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติที่ราคาเฉลี่ยดอกละ 0.20-0.40 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นราคาที่ดีมาก ต่างจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันราคาเฉลี่ยดอกละ 5 บาท โดยผลผลิตกว่า 80% จะส่งที่ปากคลองตลาดและตลาดสี่มุมเมือง ส่วนอีก 20% ที่เหลือจะส่งขายในพื้นที่ภาคเหนือ
"ปีนี้ผลผลิตกุหลาบเหลือวันละ 7-8 แสนดอกเท่านั้น ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ให้ผลผลิตวันละกว่า 1 ล้านดอก สาเหตุหลักเกิดจากปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากสภาวะโลกร้อนทำให้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล" นายมาลัย กล่าว
ด้าน นายอุทิศ อนุวัฒน์ ประธานกลุ่มผู้ปลูกกุหลาบเชียงใหม่และเจ้าของสวนกุหลาบแห่งหนึ่งใน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ดอกกุหลาบเกรดเอมีความยาวก้าน 60 ซม. ราคาหน้าสวนขณะนี้อยู่ที่ดอกละ 25 บาท ปรับขึ้นจากปี 2553 ที่จำหน่ายราคาเพียงดอกละ 15 บาท ส่วนเกรดรองลงมาก็พบว่ามีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน โดยเกรดบีขนาดก้านยาว 50 ซม.ราคาดอกละ 20 บาท เกรดซี ขนาดก้านยาว 40 ซม.ราคาดอกละ 15 บาท ส่วนขนาดเล็กขนาดก้านยาว 30-35 ซม.ดอกละ 8-10 บาท ทั้งที่ปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากการตีตลาดจากกุหลาบนำเข้าจากประเทศจีนที่มีราคาถูกกว่า แต่ปีนี้คนไม่นิยมกุหลาบจีน เพราะคุณภาพสู้ไทยไม่ได้
"ขณะนี้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าปลีกจำหน่ายดอกไม้ ร้านจัดดอกไม้ มีออเดอร์ดอกกุหลาบตลอดทั้งสัปดาห์ เข้าใจว่าคนจะนำเข้าไปสต็อกไว้จำหน่ายในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ขณะที่ลูกค้าประจำก็จะเพิ่มมากกว่าปกติ ส่งผลให้ดอกกุหลาบแทบจะไม่มีจำหน่ายให้ลูกค้าขาจร สวนผมปลูกกว่า 1 หมื่นต้น ให้ผลผลิตวันละกว่า 3,000 ดอกแต่ออเดอร์มีไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 ดอก กว้านซื้อจากสวนอื่นรวมทั้งจาก อ.พบพระ จ.ตากด้วย" เขา กล่าว
ขณะที่ นายพจนา นาควัชระ เลขานุการกลุ่มผู้ปลูกกุหลาบ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตดอกกุหลาบโดยภาพรวมอาจจะไม่ค่อยสวยงามมากมัก ถือได้ว่าเป็นดอกกุหลาบที่มีสภาพทรุดโทรมมากที่สุดเท่าที่เคยมีการปลูกมาในรอบหลายสิบปี เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน อากาศร้อน ฝนตกไม่ตามฤดู ส่งผลให้กุหลาบบนพื้นราบที่ปกติเคยให้ผลผลิตที่มีคุณภาพกลับไม่ได้คุณภาพเหมือนในอดีต
ส่วน น.ส.ยุพิน นาคขำ เจ้าของร้านยุพินดอกไม้สดรายใหญ่ที่สุดในตลาดดอกไม้ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อดอกไม้ก่อนเทศกาลวันวาเลนไทน์คึกคักมาก ตอนนี้ก็มีเด็กนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น เดินมาสำรวจตลาด ราคาและสอบถามเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีออเดอร์ล่วงหน้าให้ส่งช่อดอกไม้ในวันแห่งความรักกว่า 30-40 ช่อแล้ว หาคำนวณจากเวลาเดียวกันถือว่ามากกว่าปีที่แล้ว โดยราคาที่ขายกัน 500-2,000 บาท ปีที่แล้วที่จะสั่งในราคาเพียง 300-500 บาท
"ราคาดอกกุหลาบเริ่มปรับ 2 เท่าตัวตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตอนนี้ขายหน้าร้านดอกละ 50 บาท รับซื้อจากหน้าสวนดอกละ 30 บาท เกรดรองลงมาก็ปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน" น.ส.ยุพิน กล่าว
"กุหลาบจิ๋ว"หลากสีออเดอร์พุ่ง5หมื่นต้น
การเปิดตัวของกุหลาบจิ๋ว "Baby Rose" ของฟาร์มดิออร์คิดส์เฮ้าส์ เมื่อปลายปี 2553 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความโดดเด่นนอกจากต้นจิ๋วสูงไม่เกิน 3-5 นิ้ว ขณะที่ดอกใหญ่ที่สุดไม่เกินปลายหัวนิ้วโป้งแล้ว ยังอยู่ที่สีสันสวยงามกว่า 15 สีจาก 15 สายพันธุ์ ทั้งสีม่วง ชมพู โอลด์โรส เหลือง และสีอิฐ โดยปกติจะมีให้เห็นเฉพาะกุหลาบจิ๋วสีแดงจัดเท่านั้น
รศ.ดร.วรรณา สนั่นพานิชกุล เจ้าของฟาร์มดิออร์คิดเฮ้าส์ ตั้งที่หมู่ 4 ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่มีการเปิดตัวจนถึงตอนนี้ระยะเวลาเพียง 2 เดือน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และที่กรุงเทพฯ จนผลิตต้นกุหลาบจิ๋วส่งไม่ทันกับความต้องการ จนถึงขณะนี้ได้จำหน่ายต้นกุหลาบจิ๋วไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นต้น ราคาหน้าฟาร์มต้นละ 29-35 บาทลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านขายต้นไม้เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ
จากการสำรวจที่ตลาดคำเที่ยง ตลาดค้าต้นไม้ขนาดใหญ่ของ จ.เชียงใหม่ พบว่าราคาขายปลีกอยู่ที่ต้นละ 50 บาท โดยช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ คาดว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ที่ต้นกุหลาบจิ๋วได้รับความนิยมเนื่องจากปลูกง่ายอายุยืนอยู่ได้มากกว่า 1 ปี
สำหรับการขยายพันธุ์จะใช้วิธีเพาะเนื้อเยื่อแม้ว่าจะไม่ใช่วิธีใหม่ พืชหลายชนิดโดยเฉพาะกล้วยไม้มักจะเพาะพันธุ์ด้วยวิธีนี้ แต่ในวงการกุหลาบถือเป็นวิวัฒนาการใหม่ที่เกิดขึ้น โดยขั้นตอนจะนำกิ่งกุหลาบจากพันธุ์ปกติที่ต้องการปลูกทั้ง 15 สายพันธุ์มาตัดเป็นกิ่งเล็กๆ จากนั้นนำมาปักเลี้ยงลงบนวุ้นอาหารภายในขวดเพาะเลี้ยง ใช้เวลา 12-15 เดือน กิ่งที่เลี้ยงไว้จะงอกเป็นต้นเล็กๆ
หลังจากนั้น จะนำเข้าห้องแล็บอนุบาลเลี้ยงต่อในขวด ก่อนแยกต้นเลี้ยงให้โตโดยปลูกในกระถางเล็กขนาด 3 นิ้ว จากนั้นจะตัดแต่งกิ่งใช้เวลา 15-20 วัน ต้นกุหลาบจิ๋วก็จะงอกแตกกิ่งใหม่ หลังจากนั้นอีก 2 เดือนจะออกดอกและสามารถนำออกไปจำหน่ายได้
รัทยา ไชยลังกา