ไลฟ์สไตล์

“ชินวรณ์”เล็งแยกบัญชีเงินเดือนครู

“ชินวรณ์”เล็งแยกบัญชีเงินเดือนครู

03 ก.พ. 2554

“ชินวรณ์” เล็งแยกบัญชีเงินเดือนครู ออกจากบัญชีเงินเดือนข้าราชการพลเรือน อ้างครูต้องใช้ผลงานวิชาการประเมิน ครูเตรียมเฮ อาจได้ปรับเงินเดือน 2 เด้ง

 (3ก.พ.)  ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 15.30 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินเดือน วิทยฐานะ ครูและบุคลากรทางการศึกษา แถลงภายหลังการประชุมว่าขณะนี้ทางกมธ.ฯ พยายามที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จ เบื้องต้นในการประชุมสัปดาห์หน้าจะได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.), สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) มาให้ข้อมูลในประเด็นที่ทางกมธ.ติดใจ อาทิ

การแยกบัญชีเงินเดือนครูออกจากข้าราชการทั่วไปที่ทาง ก.พ.เป็นผู้กำหนด โดยให้แยกเป็นเอกเทศ จะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวเคยผลักดันมาตั้งแต่สมัยที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะเห็นความสำคัญว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นหน่วยงานที่ต้องพิจารณาปรับเงินเดือนตามผลงานทางวิชาการ ซึ่งแตกต่างจากข้าราชการพลเรือนทั่วไป, กรอบการจัดอัตราเงินเดือน เป็นต้น ซึ่งภายหลังการซักถามแล้ว กมธ.ก็จะเร่งพิจารณาเป็นรายมาตรา

 ด้านนางผ่องศรี ธราภูมิ ส.ส.ลพบุรี ฐานะโฆษกกมธ.ดังกล่าว เปิดเผยอีกว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนครูฯ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะประกาศขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการในระบบ เบื้องต้นหากร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการขึ้นเงินเดือนจำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ก.พ.ประกาศขึ้นเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์ครูและบุคลากรทางการศึกษาก็จะได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนโดยยึดจากฐานการปรับ 8 เปอร์เซ็นต์

 นางผ่องศรี กล่าวถึงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกว่าได้ให้อำนาจของคณะรัฐมนตรีประกาศขึ้นเงินเดือนครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา หากมีการปรับขึ้นเงินเดือนไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้จะไม่มีผลย้อนหลัง เพราะหากร่าง พ.รงบ.ดังกล่าวบังคับใช้ต้องใช้งบประมาณรวม 7 พันล้านบาท