ถูกฟ้องบัตรเสริม | คมชัดลึก

 และทำเรื่องยกเลิกบัตรเสริมดังกล่าว โดยโทรไปถามบริษัทบัตรเครดิต ซึ่งทางนั้นยืนยันว่า ได้ยกเลิกไปแล้วเมื่อปี 2549
 แต่เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา หนูได้รับหมายศาลให้ไปขึ้นศาล คดีบัตรเครดิต เป็นจำเลยที่ 2 ในจำนวนทั้งหมด 4 คน (จำเลยที่ 1 เป็นบัตรหลัก ที่เหลือเป็นบัตรเสริม) ต้องชดใช้เงินจำนวน 64,458.20 บาท
 อยากทราบว่า หนูควรทำอย่างไรดี เพราะยกเลิกบัตรเครดิตเสริมแล้ว ทำไมจึงมีภาระผูกพันทางสัญญากับบริษัทบัตรเครดิตอยู่ และถ้าต้องไปขึ้นศาล หนูจะต้องมีทนายหรือต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง และคดีแพ่งแบบนี้ จะมีปัญหาในการรับราชการหรือไม่ เพราะหนูกำลังจะได้รับราชการประมาณเดือนกุมภาพันธ์นี้
 บุญญาพร
 ตอบ
 ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า การที่บอกว่า ยกเลิกบัตรแล้วนั้น เป็นเพียงการพูดอย่างเดียวไม่หนักแน่น หรือมีหลักฐาน ดังนั้น การที่จะยกเลิกบัตรเครดิต คือ ต้องหักบัตร แล้วส่งบัตรคืนกลับไปให้บริษัทนั้นๆ ดู หรือมีเอกสารที่เป็นการยืนยันว่า ได้ยกเลิกการใช้บัตรแล้ว เพื่อให้เขาได้รับทราบ ถ้าเป็นอย่างนี้จะหนักแน่น และสามารถใช้อ้างอิงได้เวลามีปัญหา
 กรณีของคุณ จึงยากที่จะบอกว่า ได้บอกยกเลิกกับทางธนาคารไปแล้ว เนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยัน จึงยังเป็นภาระผูกพันกับธนาคาร เนื่องจากขณะที่คุณทำบัตรนั้น คุณได้เซ็นสัญญากับธนาคารไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
 ถ้าต้องไปขึ้นศาล ก็ลองคุยกับทนายดู โดยอาจจะหาทนายก็ได้ เพื่อให้ช่วยดูรายละเอียดของการใช้บัตรให้ เพราะขณะที่ใช้บัตรจะมีเอกสารโชว์ว่า ใช้จากบัตรหลัก หรือบัตรเสริม ถ้าใช้จากบัตรเสริมใช่ชื่อคุณหรือไม่ ถ้าเอกสารยืนยันว่า ไม่ใช่มาจากบัตรเสริมของคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้ หลังจากนั้น ก็แจ้งกับศาลไปเลยว่า คุณไม่ได้ใช้บัตรนี้มานานแล้ว
 ส่วนเรื่องของคดีแพ่งนั้น เท่าที่เคยทราบมาไม่เกี่ยวกับการรับราชการ แต่ถ้าเป็นคดีอาญาอาจมีผลต่อการเข้ารับราชการ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกฎ ระเบียบของหน่วยงานนั้นๆ ด้วยว่า เป็นอย่างไร เพราะ กฎและข้อบังคับของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
 ลุงแจ่ม