
จับสึกเณร2รูปแต่งหญิงแด๊นซ์กระจาย
สอบพบ 4 เณรแต่งหญิงวาบหวิวแดนซ์กระจายจริง ทางวัดบรบือสรารามจับสึก 2 รูปแล้ว พร้อมแจ้งความดำเนินคดี เหตุทำลายชื่อเสียง ดูหมิ่นศาสนา ผอ.พศ.โอดหาทางแก้ปัญหายาก เพราะผู้บวชบางคนมองไม่ออกว่ามีพฤติกรรมเบี่ยงเบน
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2554 ที่กระทรวงวัฒนธรรม นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการโพสต์พฤติกรรมของกลุ่มที่อ้างว่าเป็นสามเณรวันแห่งหนึ่งในจ.มหาสารคามเต้นรำเผยแพร่เว็บไซต์ยูทูปว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างแน่ชัด อย่าไปเข้าใจว่าคนที่ห่มผ้าเหลืองคือพระสามเณรไปทั้งหมด เพราะบางคนแค่ห่มเหลือง ถือศีลไม่ครบ 227 ข้อ อีกทั้งวัดทั่วประเทศก็มีมากถึงกว่า 3 หมื่นวัด เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้มงวดกวดขันให้พระเณรอยู่ในพระวินัย
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นนี้สะท้อนถึงการใช้สื่อใหม่ไปใช้ในทางไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม น่าจะมีการติดตามตรวจสอบหรือจัดตั้งเวทีขึ้นมาติดตามกลไกในมิติของการพัฒนา ไม่ใช่การควบคุม ทำให้เกิดการเรียนรู้ เช่น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จะต้องออกมาศึกษาปรากฎการณ์ดังกล่าวไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางไม่เหมาะสม
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคามว่า หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวพบว่าเป็นเณร 4 รูปที่บวชในวัดวัดบรบือสรารามตั้งแต่เดือนพ.ค.-มิ.ย.ปี 2553 ได้ร่วมกระทำพฤติกรรมดังกล่าวจริงแล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้ แต่สามเณร 2 ใน 4 รูปนั้นมีนิสัยเกเรไม่ยอมจำวัด ไปจำวัดที่อื่น บางครั้งแต่งชุดฆารวาสไปเที่ยว สามเณร 2 รูปที่เหลือเลยไปบอกเจ้าอาวาส สามเณร 2 รูปที่กระทำความผิดเลยแก้แค้นเณร 2 รูปที่เหลือ โดยนำคลิปดังกล่าวมาโพสต์บนเว็บไซต์ ขณะนี้ตวจสอบเบื้องต้น สามเณร 2 รูปที่นำคลิ๊ปไปโพสต์ 1 รูปอยู่ที่อ.โกสุมพิสัย ส่วนอีก 1 รูปยังอาศัยอยู่ที่วัด
ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สามเณร 2 รูปแรกทางวัดกำลังพิจารณาลงโทษเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นสามเณร โทษหนักสุดให้สึก ส่วนอีก 2 รูปที่นำวีดีโอไปโพสต์นั้น ทางวัดได้ให้สึกพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดี เพราะทำให้วัดเสียชื่อเสียง และเป็นการดูหมิ่นศาสนาเรียบร้อยแล้ว กรณีดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญต่อพระพุทธศาสนา ต่อไปจะต้องมีการพิจารณาคุณสมบัติหรือสกรีนผู้ที่จะมาบวชเณร พระใหม่ให้มากกว่านี้ ทั้งพระอุปัฌาช์ พ่อแม่ผู้ปกครอง แต่บางครั้งก็ดูยากนะ เพราะคนที่มีบุคลิกเช่นนี้เวลามาบวชจะดูไม่ออกว่าเป็น จะดูนิ่งๆ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่บางคนแต่งงานมีลูกแล้ว ยังไปคบผู้ชายด้วยกันเลย อีกอย่าง สามเณร หรือพระใหม่เหล่านี้คือวัยรุ่น คือเด็ก มีความคึกคะนองตามวัย ยังไม่ปล่อยวาง
"หากเรื่องนี้ได้ข้อสรุปในภาพรวมทั้งหมดผมจะเสนอต่อพระผู้ใหญ่ กรรมการมหาเถรสมาคมรับทราบข้อเท็จจริง เพื่อเสนอหาแนวทางแก้ไข เบื้องต้นพศ.จะออก 2 มาตรการป้องกัน คือ 1. ต้องสกรีนคุณสมบัติผู้มาบวชอย่างถี่ถ้วน 2. เมื่อบวชเข้าไปแล้ว จะต้องมีพระพี่เลี้ยงคอยดูแลความประพฤติอย่างใกล้ชิด”ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าาว
ครูวัดบรบือแจ้งความจับมือแพร่คลิป
อย่างไรก็ตามน.ส.สกุลรัตน์ อิสสระวงศ์ อายุ 28 ปี อาจารย์ประจำโรงเรียนวัดหัวหนองสังฆประชาสรรค์ ได้รับมอบอำนาจจาก พระครูปัญญานันทคุณ เจ้าอาวาสวัดบรบือสราราม ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.กริชเทพ วรรณประไพ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บรบือ ให้ดำเนินคดีกับ นายพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว อ.บรบือ ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิป และนายนนนันท์ กลางเกตุ อายุ 21 ปี ชาวบ้านหนองแสง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ผู้นำคลิปที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบ และระบุว่าเป็นสามเณรวัดบรบือสราราม เป็นเหตุให้ทางวัดได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
พระปัญญานันทคุณ เจ้าอาวาสวัดบรบือสราราม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.สกุลรัตน์ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือแล้ว สำหรับโรงเรียนวัดหัวหนองสังฆประชาสรรค์ เปิดทำการเรียนการสอน ระดับ ม.1-ม.6 ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งพระและสามเณร กว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยทางโรงเรียนมีอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน ที่พัก และมีรถรับส่งฟรี
พระปัญญานันทคุณ กล่าวว่า นักเรียนพระภิกษุสามเณรที่มีพฤติกรรมที่ส่อไปทางเบี่ยงเบนทางเพศ หากมีความประพฤติเรียบร้อย อยู่ในพระธรรมวินัยก็ไม่ถือว่าผิด เพราะทางโรงเรียนก็ได้อบรมสั่งสอนและดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องเก่า ซึ่งสามเณรทั้งหมดทางวัดได้ทำการสึกไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 ส่วนสามเณรที่ยังอยู่ในสมณะเพศอีก 1 รูป ทางวัดจะได้แจ้งไปยังวัดต้นสังกัดให้ทำการสึกต่อไป
ด้านนายชัยพจน์ คชโคตร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดดังกล่าว พบพระปัญญานันทคุณ เจ้าอาวาสวัดบรบือสราราม โดยเจ้าอาวาสได้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา ในคลิปเป็นสามเณร 2 รูป นุ่งผ้าคล้ายสบง เต้นโชว์ ลักษณะไม่เหมาะสม ซึ่งหลังจากที่ทางวัดทราบเรื่อง ก็ได้นำตัวสามเณรทั้งหมดมาสอบสวน ซึ่งสามเณรก็ยอมรับว่าได้กระทำจริง ทางวัดจึงได้ให้พ้นสภาพจากการเป็นนักเรียน ต่อมาทราบว่าได้สึกออกไปหมดแล้ว ยกเว้นสามเณร 1 รูป ซึ่งขณะนี้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.บรบือ โดยทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคาม ได้แนะนำให้เจ้าอาวาส ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือ เพื่อเอาผิดกับผู้แพร่เผยคลิปดังกล่าว
ตร.ชลบุรีรวบพระปลอมออกบิณฑบาต
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 ม.ค. พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.คมสรณ์ มาบำรุง รองผกก.สภ.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.โสฬส เอี่ยมสอาด สวป.สภ.เมืองชลบุรี ร.ต.อ.โชคชัย โทคำมา รอง สวป.สภ.เมืองชลบุรี แถลงข่าวจับกุมตัวพระอาทิตย์ ซอนซี อายุ 20 ปี พระลูกวัดวัดผาสุข ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี อยู่บ้านเลขที่ 114/27 ม.7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายอนุวัฒน์ นาชกิตติศักดิ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ต.พนัสนิคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และสามเณรสมพงษ์ อินทะ พระลูกวัดวัดผาสุข ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยตำรวจได้รับแจ้งว่ามีพระปลอมออกมาบิณฑบาตในตลาดวัดกลาง อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม และสงสัยจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน โดยพระอาทิตย์ สารภาพว่าเป็นพระปลอม จึงได้ตั้งข้อหาแต่งกายเลียบแบบพระ หลังจากนั้นจึงได้นำตัวพระอาทิตย์ และสามเณรสมพงษ์ไปตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง สอบสวนรับสารภาพว่าเพิ่งเสพยาบ้าก่อนที่จะออกมาบิณฑบาตจึงได้ต้องข้อหาเสพยาเสพติด
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ว่าจ้างนายเฉลิม หนูเสริม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 ม.3 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี ขับรถยนต์ อีซูซู สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน 2ท- 9556 ชลบุรี วันละ 300 บาท มาออกบิณฑบาตทุกวัน จึงเข้าตรวจค้นภายในรถพบปืนขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก กระสุน 20 นัด จึงได้ควบคุมตัวนายเฉลิมมาดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพามาในที่สาธารณะ