ไลฟ์สไตล์

ยึดบ้านเอื้ออาทร ไม่บอกล่วงหน้า

ยึดบ้านเอื้ออาทร ไม่บอกล่วงหน้า

11 ม.ค. 2554

ดิฉันเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ซื้อบ้านเอื้ออาทรแก้วประดับ ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. และเซ็นสัญญากับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550

 ผ่อนชำระค่างวดเดือนละ 2,200 บาท ทุกเดือนมาตลอด เมื่อเดือนสิงหาคม 2553 ได้ค้างส่ง 1 เดือน และชำระในเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน โดยต่อเนื่อง
 ต่อมาเมื่อเดือนธันวาคม 2553 ดิฉันไปชำระค่างวดปกติ แต่ธนาคารไม่รับชำระ แจ้งว่า การเคหะแห่งชาติได้มาซื้อบ้านคืนจากธนาคารไปแล้ว ต้องไปติดต่อสำนักงานการเคหะแห่งชาติเอง
 พอติดต่อไปที่สำนักงานเคหะ สช.ฉลองกรุง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องไปทำสัญญากู้ใหม่ ระหว่างทำเรื่องสัญญาต้องชำระค่าปรับกับการเคหะทุกวันเป็นจำนวนเงินวันละ 100 บาท ประมาณ 5-6 เดือน ถึงจะทำสัญญาได้ ดิฉันคิดว่าค่าปรับที่ทางเคหะเรียกเก็บเป็นเงินกินเปล่า กว่าดิฉันจะทำสัญญาผ่าน ต้องชำระเงินค่าปรับ 18,000 บาท บางคนต้องรอเวลาธนาคารอนุมัติสินเชื่อ ต้องเสียเงินกินเปล่าเป็นเวลา 1 ปี
 บ้านเอื้ออาทร เป็นบ้านคนจน การเคหะกับธนาคารร่วมมือกันเอาเปรียบชาวบ้านจนๆ โดยแอบซื้อขายกันเอง ไม่แจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้าแบบนี้หรือ?
 กว่าจะทำสัญญาซื้อบ้านเอื้ออาทรจากทางเคหะแห่งชาติได้ ดิฉันต้องเคลียร์เครดิตเก่าๆ เพื่อให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ บางคนต้องเสียเงินเป็นแสนปิดเครดิต ยอมเป็นหนี้นอกระบบ เพื่อจะได้มาซึ่งบ้านเอื้ออาทร
 การค้างชำระค่างวดแค่งวดเดียว ไม่ใช่ละเลย หากเพียงแต่บางเดือนขัดสน และคิดว่าเดือนเดียวคงไม่เป็นไร การเคหะไม่ได้ออกมาให้ความรู้ข่าวสารกับชาวบ้านเลย หนังสือเตือน หรือโทรศัพท์เตือน ก็ไม่มี ทางธนาคารก็ไม่แจ้งเตือน
 ชาวบ้านค่าแรงวันละ 203 บาท ถูกค่าปรับวันละ 100 บาท เหลือไว้กินวันละ 103 บาท จะอยู่ได้อย่างไร ขนาดผ่อนชำระเดือนละ 2,200 บาท ยังต้องค้างส่ง 1 เดือน แล้วนี่เคหะจะปรับเดือนละ 3,000 บาท ไม่เห็นใจชาวบ้านตาดำๆ บ้างหรือ
แก้ว หนองจอก
ตอบ  
 กองประชาสัมพันธ์ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ชี้แจงว่า ลูกค้าได้ขายสิทธิให้แก่บุคคลอื่น และมีการผิดสัญญาการส่งค่างวดกับสถาบันการเงิน การเคหะแห่งชาติจึงซื้อคืนอาคารจากสถาบันการเงินนั้น ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติมีหนังสือแจ้งเตือนให้ลูกค้าชำระค่างวดเป็นระยะแล้ว ส่วนค่าปรับระหว่างรอยื่นเรื่องขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินวันละ 100 บาทนั้น เป็นการคิดค่าปรับตามที่หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมบ้านเอื้ออาทร
 หากลูกค้ามีความประสงค์จะกลับมาเป็นลูกค้าใหม่อีกครั้ง จะต้องชำระหนี้ค้างซื้อคืนให้แก่การเคหะแห่งชาติ พร้อมทั้งเขียนคำร้องเพื่อยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินอีกครั้ง และระหว่างที่สถาบันการเงินยังไม่อนุมัติสินเชื่อ ลูกค้าจะต้องชำระค่าปรับตามที่สัญญากำหนดจนกว่าสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อ
 การเคหะแห่งชาติไม่ได้อยากยึดบ้านคืน หากอยากได้บ้านคืน ไปติดต่อได้ที่สำนักงานเคหะชุมชนฉลองกรุง
ลุงแจ่ม