
แฟชั่นชุดนศ.54แนวโบฮีเมียนตามกระแสมีสไตล์-ถูกระเบียบ
เสื้อขาว กระโปรงดำ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ยังคงความเป็นยูนิฟอร์มชุดนักศึกษาที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ใช่ว่าวัยรุ่น วัยนิสิต นักศึกษา จะเพิ่มเติมสีสัน เทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ สไตล์ใครสไตล์มัน อิมพอร์ตมาจากแดนกินจิ และแดนซากุระเจ้าเก่าที่ยังครองใจนิสิตนักศึกษา อ
“ทับทิม" หทัยชนก สายดวงแก้ว นิสิตจากรั้วจามจุรี ชั้นปีที่ 4 และ "จิ๊บ" ประภัสสร เลิศพรชัยกุล นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าถึงแฟชั่นชุดนิสิตปี 2554 ว่า การแต่งกายชุดนักศึกษาตอนนี้ไม่ใช่เพียงตามแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังตามกระแสของแต่ละคณะ และขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยด้วย กระแสฮิตๆ ปี2554 เสื้อน่าจะพอดีตัว ไม่รัด ติดกระดุมตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย ติดเข็มให้เรียบร้อย
เทรนด์ติดตัวการ์ตูน หรือสัญลักษณ์อื่นที่เคยฮิตนั้น ปีหน้าคงตกเทรนด์ไปแล้ว ส่วนกระโปรงนิยมทรงเอเหนือเข่าประมาณหนึ่งคืบ หรือยาวมาตรฐานประมาณ 14 นิ้ว ไม่ใส่สั้น ไม่แคบจนเดินไม่ได้ นิยมใส่เสื้อคลุมกันโทนสีอ่อนๆ เช่น ชมพู ฟ้าอ่อน เหลืองอ่อน สีสบายตา เพราะนอกจากเป็นกระแสแฟชั่นแล้ว ยังทำให้ไม่หนาวมากเมื่อเวลาเรียน เนื่องจากตอนนี้นห้องเรียนส่วนใหญ่ติดแอร์
กระเป๋าเน้นใบใหญ่ สวมใส่รองเท้าสานสีสัน หรือสีอ่อน แต่งหน้าแบบธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด เครื่องประดับขึ้นอยู่กับความชอบ สไตล์ของแต่ละคน “ทับทิม” บอกว่า การแต่งกายของนิสิตจะถูกระเบียบมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกฎระเบียบ และก็มาจากสายตา คำวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ที่มีมุมมองการแต่งกายของนิสิต ทำให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญในการแต่งกายถูกระเบียบ ไม่นุ่งสั้น รัดติ้ว ไม่แต่งหน้าจัด เพราะนอกจากจะถูกมองว่าเอาท์มากๆ ยังเป็นการไม่ให้เกียรติสถาบันของตนเองด้วย
"เฟิน" จุฑามาศ วัฒนปริญญา นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) รัตนโกสินทร์บพิตรพิมุขจักรวรรดิ เล่าว่า ปีหน้าใครที่แต่งชุดนักศึกษาล่อแหลม ประเภทเสื้อรัดจนหายใจไม่ออก กระโปรงยาวเพียงคืบ เอาท์สุดๆ ส่วนเทรนด์ที่กำลังจะมาน่าจะเป็นเสื้อพอดีตัว กระโปรงพลีทยาว เดินสะดวก แต่งคล้ายๆ กับแนวโบฮีเมียน หรือกระโปรงทรงเอเลยเข่ามาประมาณหนึ่งคืบ กระเป๋าแล้วแต่ความชอบ สไตล์ของตัวเอง ส่วนรองเท้าคงไม่เน้นสีสัน ฉูดฉาด เพราะอาจไม่เข้ากับชุดนักศึกษา และแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ใครที่แต่งหน้าจัด แล้วยังมองไม่เหมือนนักศึกษาอีกด้วย
ส่วนที่ขาดไม่ได้ ปีหน้าต้องมีผ้าพันคอสีหวานๆ สีอ่อนๆ น้องใหม่เฟรชชี่ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย อยากให้แต่งกายให้เหมาะสมกับระเบียบของมหาวิทยาลัย บุคลิก และความชอบของตนเอง ส่วนใครที่แต่งกายนักศึกษาแต่จัดเต็ม ไม่สนความเหมาะสม อยากให้ปรับเปลี่ยนความคิด เพราะชุดนักศึกษาเป็นชุดที่มีเกียรติ
เช่นเดียวกับ "เกด" เกตุนรินทร์ ตั้งศิโรรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขานิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) เล่าว่า ชอบแต่งกายแบบโบฮีเมียน เสื้อพอดีตัว และกระโปรงยาวๆ ซึ่งชุดนักศึกษาก็เป็นอะไรที่ดัดแปลงได้ โดยอาจใส่พลีทยาวๆ ใสเข็มขัดของมหาวิทยาลัย ติดกระดุมของมหาวิทยาลัย ใส่รองเท้าสานที่เน้นสีสันฉูดฉาด ถ้าเข้าหน้าหนาวก็อาจมีเสื้อคลุมสีตามความชอบ สไตล์ของตนเอง แต่งหน้าธรรมชาติ ผมยาวตรงจะเข้ามาแทนที่ผมสั้นหน้าม้า
ส่วนการนุ่งสั้น รัดติ้ว เชื่อว่ายังมีกลุ่มนักศึกษาที่แต่งตัวแบบนี้อยู่ เพราะการแต่งชุดนักศึกษา จะใส่พลีทสั้น ยาว กระโทรงทรงเอ หรือเสื้อรัด พอดีตัว ล้วนขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละกลุ่ม และสถาบันการศึกษาด้วย เพราะบางทีก็ไม่ได้เข้มงวดมาก อย่างไรก็ตาม อยากให้น้องๆ ที่กำลังเข้ามหาวิทยาลัยแต่งกายให้ถูกระเบียบ ขณะที่รุ่นพี่ควรแต่งกายให้เหมาะสม เพื่อเป็นแบบอย่าง และคอยตักเตือนรุ่นน้องหากไม่เหมาะสม
ตบท้ายด้วย "น้องโบตั๋น" ณัฐชฎา กาญจนไพหาร นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ยอมรับว่าการแต่งกายนักศึกษาเอกชน มหาวิทยาลัยค่อนข้างให้อิสระ แต่ยังคงรูปแบบของนักศึกษา เสื้อขาว กระโปรง-กางเกงดำ ส่วนเป็นเทรนด์ไหน กระแสใด ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละกลุ่มและสไตล์ของตัวเองมากกว่า อย่างเธอชอบใส่กระโปรงพลีท จึงนำแฟชั่นมาประยุกต์ โดยใส่กระโปรงพลีทเหนือเข่า ไม่สั้นมาก แต่จะใส่แบบเอวสูง ใส่เสื้อพอดีตัว และใส่เข็มขัดของมหาวิทยาลัย หรือบางคนอาจใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศ เมื่อไม่มีสอบอาจเอาเสื้อออกนอกกระโปรง กางเกง ก็แล้วแต่บุคคล
ขณะที่กระเป๋า รองเท้าขึ้นอยู่กับความชอบ ปี 2554 เทรนด์ชุดนักศึกษาน่าจะเป็นกระโปรงพลีทยาวถึงตาตุ่ม หรือเหนือเข่า เสื้อไม่รัด แต่งหน้าธรรมชาติ เน้นโทนสีคลาสสิก อย่าง ดำ น้ำตาล ทรงผมคงเป็นผมยาว ดัดลอน และทำสีน้ำตาล สีทองประกายชมพู ซึ่งทำให้ดูสดใสมากขึ้น อยากให้นักศึกษาทุกคนแต่งกายให้ถูกกาลเทศะ ให้เกียรติสถาบันของตนเอง เพราะการแต่งกายไม่เรียบร้อยไม่ได้ส่งผลต่อสถาบัน แต่ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวเองด้วย
เมื่อผ่านพ้นวันคอซอง เป็นเรื่องธรรมดา ที่ความอัดอั้นอยากจะกระโจนออกนอกกรอบตามกระแส เสื้อ ผ้า หน้า ผม ให้ตรงกับสไตล์ของตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไร การแต่งกายถูกระเบียบ เน้นความเป็นธรรมชาติแบบฉบับนิสิตนักศึกษา งด ละ เลิกนุ่งสั้น รัดติ้ว ดูจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่บอกได้คำเดียวว่า ฮอตมากๆ ในปี 2554 นี้
0 ชุลีพร อร่ามเนตร 0