“ใบไม้สีทอง”โอท็อปเมืองยะลา พรรณไม้มงคลแห่งขุนเขาบูโด | คมชัดลึก

  อับดุลมาลิก หรือ ดุลย์ ประธานกลุ่มบ้านใบไม้ ดีกรีบัณฑิตภาคการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง บอกว่า ด้วยทราบถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นของต้นไม้สีทอง หรือชื่อพื้นถิ่น "ย่านดาโอ๊ะ" จึงได้ติดตามศึกษาธรรมชาติของพรรณไม้นี้มาตลอด และเห็นจริงถึงความสวยงามที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ขณะเดียวกันก็เกิดแนวคิดจะส่งเสริมให้พรรณไม้นี้เป็นที่รู้จักของผู้คนควบคู่กันไป ที่สำคัญมองว่าสามารถสร้างอาชีพให้ชาวบ้านให้ท้องถิ่นได้ ปี 2547 ดุลย์จึงร่วมผองเพื่อนซึ่งเป็นผู้ชายล้วนตั้งกลุ่มขึ้น

 "รวมเพื่อนๆ ได้ 17 คน พร้อมได้ระดมทุนจากสมาชิกในกลุ่มได้ทั้งหมด 3 หมื่นบาท เพื่อนำเงินมาลงทุนซื้ออุปกรณ์เข้ากรอบ เครื่องตัดกรอบรูป ตลอดจนสร้างโรงงานผลิตเล็กๆ ซึ่งทุกคนต่างให้ความร่วมแรงร่วมใจดีมาก เป้าหมายของกลุ่มแรกก็คือ นำใบไม้สีทองที่ว่านี้ มาเข้ากรอบรูปเพื่อจำหน่ายเป็นสินค้าที่ระลึกประจำจังหวัด" อับดุลมาลิก บอกถึงเป้าหมาย

 อีกทั้งยอมรับว่า เนื่องเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่า ใบไม้สีทองเป็นพืชราชาแห่งป่า ซึ่งสมัยก่อนหากใครที่เดินทางเข้าป่ามักนิยมพกเหน็บไว้บริเวณเอวเพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและภัยอันตรายต่างๆ จึงเป็นอีกเหตุผลนอกเหนือจากความสวยงามของใบที่โดดเด่น ทำให้เกิดไอเดียที่จะนำใบไม้ชนิดนี้มาเข้ากรอบในหลากสไตล์หลายขนาด เพื่อไว้สำหรับลูกค้าที่ต้องการเก็บเป็นของที่ระลึก ตลอดจนการนำไปประดับบ้านเรือนเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

 โดยหลักการทำงานสมาชิกกลุ่มนั้น อับดุลมาลิกบอกยึดหลักความถนัดของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ส่วนการคีเอทีฟงาน รวมทั้งการออกแบบชิ้นงาน จะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด เช่นเดียวกับด้านการตลาดที่ส่วนใหญ่ กลุ่มจะขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ต่อเมื่อปี 2550 ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) และชิ้นงานได้รับรางวัลโอท็อป 5 ดาวของจังหวัด จึงมีโอกาสออกร้านตามงานเทศกาลต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งงานโอท็อปที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เป็นประจำทุกปี

 "ที่เป็นโอกาสของกลุ่มอีกทางคือ การออกงานโรดโชว์ในต่างประเทศ ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน เซี่ยงไฮ้ และเนเธอร์แลนด์ ผลพวงก็คือ งานของเราได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวต่างชาติให้ความสนใจกันมาก สนนราคาตั้งแต่ 50-20,000 บาท เดือนหนึ่งกลุ่มสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายเฉลี่ยเดือนละ 4-5 แสนบาท" ประธานกลุ่มแจง

 สำหรับแผนการตลาดในอนาคต อับดุลมาลิก บอกว่า ได้ส่งตัวแทนไปเจรจากับผู้ประกอบการในประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ ที่มีความสนใจจะนำชิ้นงานนี้ไปจำหน่าย ซึ่งเชื่อมั่นจะได้ผลตอบรับที่ดี สืบเนื่องจากชาวต่างชาติเชื่อในความเป็นสิริมงคลของใบไม้สีทองนี้

 "เปรียบเทียบการลงทุนอาชีพอื่นๆ แน่นอนว่าการเข้ากรอบใบไม้สีทองเป็นอาชีพที่มีต้นทุนต่ำมาก แต่สามารถสร้างรายได้และมีกำไรสูง จนส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกในกลุ่มดีขึ้นตามไปด้วย ส่วนผมรู้สึกภูมิใจที่สร้างอาชีพด้วยตัวเอง ทั้งยังทำให้เพื่อนบ้านมีรายได้ ที่สำคัญนับเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากไม่ต้องเดินทางออกนอกชุมชนเช่นอาชีพอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” อับดุลมาลิก กล่าว

 ทว่า การทำอาชีพนี้ก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งอับดุลมาลิกฝากไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาสนับสนุนงบประมาณการจัดซื้อเครื่องมือที่ทันสมัย อย่างยิ่งขั้นตอนการตัดไม้แปรรูปทำกรอบ เพราะหากตลาดต่างประเทศให้การตอบรับมากขึ้น แน่นอนว่ากลุ่มต้องเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งหากมีเครื่องมือที่ทันสมัย ครบถ้วนกระบวนการ เชื่อจะสามารถผลิตชิ้นงานได้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน

 สำหรับวิธีคัดเลือกวัตถุดิบก่อนนำมาเข้ากรอบนั้น อับดุลมาลิก เล่าให้ฟังว่า ธรรมชาติของต้นไม้ชนิดนี้ ในหนึ่งฤดูกาลจะมีสีสันที่แตกต่างกันคือ มีถึง 4 สี ดังนั้น จึงต้องทราบธรรมชาติของไม้ชนิดนี้ในการผลัดเปลี่ยนสีใบได้ถูกเวลา

 เริ่มจากสีเขียว จากนั้นเริ่มแปรสภาพเป็นสีนาก (2 เดือน ช่วงพฤษภาคมเป็นต้นไป) ต่อด้วยกลายเป็นสีทอง (ช่วงระยะเวลา 2 เดือน) ก่อนผันเป็นสีเงินช่วงฤดูใบไม้ร่วง และกลับสู่วัฏจักรสีเขียวอีกครั้ง

  "ที่มีมากที่สุดคือสีทอง คือจะมีลักษณะเป็นกำมะหยี่ทองออกม่วง หรือกำมะหยี่สนิมทองปกคลุมทั้งใบ ซึ่งในแต่ละต้นจะไม่เป็นทุกใบจะเป็นเฉพาะบางส่วนเท่านั้น"

 เมื่อเราได้ใบไม้สีทองมาแล้ว เราก็นำมาอบโดยใช้วิธีการของภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เราได้คิดค้นหาวิธีเพื่อให้ได้การเก็บรักษาให้คงอยู่ในสภาพเดิมหลังเก็บจากต้น กระทั่งได้สูตรสำเร็จที่สามารถเก็บรักษาได้ยาวนานหลายปี และเมื่อนำมาเข้ากรอบก็ส่งให้ชิ้นงานนี้สวยโดดเด่นได้อย่างลงตัว

 สำหรับผู้สนใจในผลิตภัณฑ์และต้องการเรียนรู้การเข้ากรอบใบไม้สีทอง หรือมีข้อสงสัยต่างๆ อับดุลมาลิกบอกให้ติดต่อไปได้ที่กลุ่มบ้านใบไม้ ตั้งอยู่ที่ 58 หมู่ 1 ต.บาโงย อ.รามัน จ.ยะลา โทรศัพท์ 08-9888-2127, 08-2304-9196 สมาชิกกลุ่มทุกคนยินดีให้รายละเอียดโดยไม่ปิดบังแต่ประการใด

"ธานี กุลแพทย์"