
10ไม้มงคล-ปลูกเสริมบารมี
ในการต้อนรับปี "กระต่าย" พ.ศ.2554 ซึ่งเป็นปีที่ "คม ชัด ลึก" ครบ 10 ปี (16 ต.ค.) คอลัมน์ "ท่องโลกเกษตร" จึงเสนอไม้มงคลนาม 10 ชนิด
ที่จริงไม้มงคลที่เชื่อกันมีหลายชนิด แต่ที่คนโบราณเชื่อจริงว่าเป็นไม้มงคล 9 ชนิด ได้แก่ ราชพฤกษ์, กัลปพฤกษ์, ทองหลางลาย, ไผ่สีสุก, กันเกรา, ทรงบาดาล, สัก, พะยูง และขนุน ส่วนอีกชนิดหนึ่งไม่ได้อยู่ในไม้มงคลหลัก 9 ชนิด ส่วนอีกชนิดหนึ่งที่จะแนะนำคือ "ไม้มงคล 8 ทิศ"
1."ราชพฤกษ์" ปลูกวันเสาร์เป็นสิริมงคลยิ่ง
ราชพฤกษ์ เป็นไม้ยืนต้น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula L.อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE-CAESAL PINIOIEAE คนมักรู้ในามต้น "คูน" ลำต้นสูงราว 10-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาน้ำตาล
ใบ เป็นประกอบแบบขนนกมีใบย่อยขึ้นออกเป็นคู่ๆ ราว 3-8 คู่ ยาว 8-15 ซม. ส่วน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อยาว 25-40 ซม. มีดอกย่อยสีเหลืองสวยงามมาก โดยจะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ส่วนผล ออกเป็นฝักทรงกระบอก ยาว 25-60 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.5 ซม.
คนไทยโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยและเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย เจ้าของบ้านจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย
การปลูกควรเป็นวันเสาร์ ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยให้ผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือและเป็นผู้ประกอบคุณงามความดีเป็นคนปลูก ยิ่งจะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
2."กัลปพฤกษ์"นำสู่ความสำเร็จ
"กัลปพฤกษ์" เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงราว 10-15 เมตร อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE ลำต้นตรงเปลือกต้นสีน้ำตาล ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ขึ้นเรียงสลับตามกิ่ง มีใบย่อยราว 5-15 คู่ เวลาออกดอก เป็นช่อตามซอกใบยาว 5-15 ซม. ดอกบานสีชมพู และค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกราว 3-4 ซม. จะออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ส่วน ผล เป็นฝักกลมสีดำ ยาว 25-60 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม.เมื่อแก่ไม่แตก ด้านในมีเมล็ดจำนวนมาก
เชื่อว่า กัลปพฤกษ์ เป็นต้นไม้ของเทพเจ้า หากบ้านใดปลูกจะช่วยทำให้เกิดความประสบผลสำเร็จในชีวิต เพราะต้นกัลปพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์แห่งความชัยชนะ และความอิสระ ควรปลูกในวันเสาร์เช่นกัน ปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
3.ปลูก"ทองหลางด่าง"ร่ำรวยมีทอง
"ทองหลางด่าง" เป็นต้นไม้สมัยพุทธกาล จัดอยู่ในจำพวกไม้มงคล คนสมัยก่อนนิยมปลูก เพราะเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นทองหลางด่างไว้ประจำบ้าน จะทำให้เจ้าของมีความร่ำรวย มีทองมากมาย นักเล่นต้นไม้เชื่อว่า หากนำใบทองหลางไปใช้ในพิธีกรรมของศาสนาพุทธหรือพรามณ์ เช่น พิธีปลูกบ้าน วางศิลาฤกษ์ พิธีแต่งงาน จะทำให้เกิดสิริมงคลยิ่งขึ้น
หากจะให้มีมงคลยิ่ง ผู้ปลูกควรเป็นผู้เกิดในปีมะแม และปลูกในวันเสาร์ ทางทิศเหนือ เป็นต้นไม้ชอบดินร่วนซุย ต้องแดดจัด เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ อยู่ในวงศ์ "LEGUMINOSAE" ลำต้นมีสีเทาออกเหลืองอ่อนๆ แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ออกไปรอบๆ ต้น ตามลำต้นและกิ่งมีหนามแหลมคมคล้ายกับต้นงิ้ว
ใบ เป็นใบรวม ออกเป็นช่อ ช่อละราว 3 ใบ รูปทรงจะออกสามเหลี่ยมคล้ายใบโพธิ์ โคนใบมน ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียวสด สลับสีเหลืองลากผ่านตามเส้นแขนงของใบไปทั่ว ออกดอกเป็นช่อ ตามข้อต้นหรือโคนใบ ราวช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ช่อของดอกจะยาว 8-12 ซม. สีแดงสด เมื่อออกดอกลำต้นจะทิ้งใบหมด เห็นแล้วสวยอีกแบบหนึ่ง
4."ไผ่สีสุก"เหมาะคนปีมะแม
"ไผ่สีสุก" นอกจากจะมีประโยชน์ในการช่วยบังลม และนำหน่อไม้มาทำเป็นอาหารแล้ว ยังมีความเชื่อว่า ถ้าปลูกไผ่สีสุกไว้ภายในบริเวณบ้าน จะทำให้คนภายในบ้านมีความซื่อตรง ดุจลำต้นของไผ่ และยังให้เจ้าของบ้าน มีความเป็นอยู่ที่ดี มั่งมีศรีสุขด้วย การปลูกควรคนในบ้านที่เกิดปีมะแม ก็จะยิ่งเป็นมงคล เพราะเป็นไม้มงคลประจำปีมะแมง เวลาปลูกควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออก
ไผ่สีสุก ขึ้นเป็นกอลำต้นตรงสูงยาว 10-18 เมตร อยู่ในวงศ์ Gramineae มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8-15 ซม. ผิวเรียบเป็นมัน ข้อไม่พอง แต่กิ่งก้านสาขาเป็นฉากกับลำต้น ใบ เป็นรวมแต่ละใบมีใบย่อย 5-6 ใบ ใกล้ปลายกิ่ง รูปเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม แผ่นใบกว้าง 1-2 ซม. ยาว 10-20 ซม. ใต้ใบมีสีเขียวอมเหลือง ก้านใบสั้น ขอบใบสาก
5. "กันเกรา" เชื่อป้องกันภัย
"กันเกรา" ถือเป็นไม้มงคลนามอีกชนิดหนึ่ง ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานกล้าไม้มงคลประจำจังหวัดนครพนม ซึ่งเชื่อกันว่า ถ้าปลูกต้นกันเกราจะเป็นมงคลแก่ตัวผู้ปลูกและบริวารภายในบ้าน โดยจะช่วยคุ้มภยันตราย ควรปลูกทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และปลูกในวันเสาร์ จะส่งผลให้ดียิ่ง
เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ "POTALIACEAE" สูงราว 15-20 เมตร ลำต้นตรง ใบ ออกตามกิ่งเป็นคู่ๆ รูปทรงรี ยาว 8-12 ซม. กว้าง 2-4 ซม. ใบจะบางแต่เหนียว ปลายใบแหลมสีเขียวเข้ม โคนก้านมีใบหุ้มกระชับ
ดอก ออกเป็นช่อขึ้นตามง่ามใบและปลายกิ่ง มีดอกย่อยด้วยแต่เล็กมากเชื่อมติดกัน เมื่อดอกบานจะมีสีขาว และค่อยเป็นสีเหลือง กลิ่นหอมเย็น ปลายแยกเป็น 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 5 อัน เมื่อดอกร่วงมี ผล ขนาดเล็กรูปทรงกลม ออกเป็นพวง ผลสีแดงมีเนื้ออ่อน เป็นที่โปรดปรานของนกตระกูลปรอด
6."ทรงบาดาล"จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่
"ทรงบาดาล" จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางตระกูลถั่ว สูงราว 4-8 เมตร รูปทรงพุ่ม อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ เป็นใบรวมออกเป็นแผงบนก้านใบด้านเดียวกันเป็นคู่ๆ ใบย่อยรูปทรงรี ส่วนดอกมีสีเหลืองออกตามซอกใบและปลายกิ่งเวลาบานมี 5 กลีบสีเหลือง ขณะที่ผลออกเป็นฝักแบนๆ คล้ายส้มป่อย กว้าง 1 ซม. ยาว 10-15 ซม.
คนโบราณเชื่อว่า ปลูกแล้วเจ้าของบ้านจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ กว้างขวาง เป็นที่นับหน้าถือตาและเป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป เพราะคำว่า ทรงบาดาล คือผู้เป็นใหญ่แห่งนาคพิภพในชั้นบาดาลนั่นเอง นิยมในพิธีก่อฤกษ์หรือวางศิลาฤกษ์ ส่วนการปลูกควรปลูกวันเสาร์ทางด้านทิศตะวันตก
7. "สัก" เสริมบารมี-คนยกย่อง
"สัก" ไม่เพียงแต่จะเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีราคาสูงอย่างเดียว แต่คนโบราณเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่เจ้าของบ้าน และผู้อยู่อาศัยอีกด้วย คือ จะช่วยเพิ่มความมีสง่าราศี มีตำแหน่ง และเป็นที่เคารพยกย่องจากบุคคลทั่วไป เวลาปลูกปลูกทิศเหนือ ปลูกในวันเสาร์
เป็นไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่ อยู่ในวงศ์ VERBENACEAE ลำต้นชะลูดสูงถึง 30 เมตร เปลือกสีเทา มีรอยแตกเป็นร่องเล็กๆ ออกเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ตามกิ่ง กว้างและยาวราว 25-30 ซม. โคนมน ปลายใบแหลม ผิวใบขนสากสีเขียวเข้ม ออกดอก เป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบและปลายกิ่งบานสีขาวนวล ส่วน ผล ทรงกลม พอแก่เปลือกแห้ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 ซม.
8.ปลูก"พะยูง"ช่วยพะยูงให้ดีขึ้น
"พะยูง" เป็นพรรณไม้พระราชทาน เพื่อเป็นไม้มงคลประจำจังหวัดหนองบัวลำภู คนไทยเราเชื่อว่า ถ้าปลูกแล้วจะทำให้พ้นภับพิบัติ และจะมีฐานะที่ขึ้น จะช่วยพยุงให้ทุกอย่างที่ดีขึ้น
เป็นยืนต้นขนาดกลางในวงศ์ LEGUMINOSAE สูงราว 15-20 เมตร เปลือกต้นสีเทา ผิวเรียบ เรือนยอดทรงกลมใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงสลับตามต้น แต่ละใบมีใบย่อย 7-9 ใบ กว้าง 3-4 ซม. ยาว 4-7 ซม. โคนใบย่อยสอบ ปลายใบแหลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ท้องใบสีจาง
ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง เวลาบานสีขาว ส่งกลิ่นหอมอ่อน ส่วน ผล เป็นฝักแบนกว้างราวๆ 1 ซม. ยาว 4-6 ซม. ด้านในเมล็ด 1-4 เมล็ด ฝักออกราวเดือนกรกฎาคม-กันยายน
9."ขนุน" ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน
บางคนปลูก "ขนุน" หวังที่จะกินผล หารู้ไม่ว่า โบราณเชื่อว่าเป็นไม้มงคล หากไว้ปลูกหลังบ้านจะมีผู้อุดหนุนค้ำจุน หรือมีผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคล 8 ทิศด้วย หากให้เป็นมงคลควรปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ยิ่งเจ้าของบ้านเกิปปีวอกจะทำให้มีมงคลยิ่งขึ้น
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 15-20 เมตร ในวงศ์ MORACEAE เปลือกต้นสีเทาน้ำตาล มีรอยแตกและน้ำยางสีขาวข้นไหลประปราย ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปทรงรี กว้าง 5-8 ซม. ยาว 10-15 ซม. โคนใบมนปลายใบทู่
ออกดอกเป็นช่อรวมกันเป็นกลุ่ม ตามกิ่ง มีลักษณะเป็นแท่งยาว 2-5 ซม. เป็นสมบูรณ์เพศ ดอกเพศมีกลิ่นหอมคล้ายส่าเหล้า ส่วนผลรูปทรงกลมและยาวขนาดใหญ่ หนัก 10-60 กก. เปลือกผลเป็นตุ่มๆคล้ายหนาม ด้านในมีเนื้อหุ้มเมล็ดหรือยวงจำนวนมาก
10. ไม้มงคล 8 ทิศ
ทิศเหนือ (อุดร) มี ส้มป่อย เพื่อปลดทุกข์, ส้มซ่า สร้างชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วเมือง, มะเดื่ออุทุมพร ให้เกิดความเจริญ
ทิศตะวันออก (บูรพา) มี ไผ่สีสุก : เกิดความสุขความเจริญ, มะพร้าว : สุขภาพแข็งแรง
ทิศใต้ (ทักษิณ) มีมะม่วง จะทำให้ร่ำรวย, ตะโกนา, ตะโกสวน มีความขยันหมั่นเพียรในการประกอบสัมมาอาชีพ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ)มี มะกรูด เชื่อว่า ทำให้เป็นคนช่างเจรจา, มะนาว ทำให้คนในบ้านอยู่ดีมีสุข, มะพูด เพื่อเอาเคล็ดหวังว่าลูกหลานจะเจรจามีวาจาที่ไพเราะ
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (หรดี) มี พิกุล เพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ, ขนุน จะมีผู้อุดหนุนค้ำจุน, สะเดา ป้องกันภูติผีปีศาจรบกวน
ทิศตะวันตก (ประจิม) มีกุ่มบก, กุ่มน้ำ, เชื่อทำให้ครอบครัวมั่งคั่งอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอบอุ่นในหมู่เครือญาติ, มะขาม เป็นไม้มงคลป้องกันผีร้ายให้มีแต่คนยำเกรง
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มีมะตูม เชื่อให้เกิดกำลังใจในการต่อสู้ ฟันฝ่าอุปสรรคและป้องกันเสนียดจัญไรและขับไล่ภูติผีปีศาจ, ไผ่รวก สามารถเอาตัวรอดจากวิกฤติต่างๆ
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (อาคเนย์) มีสารภี เพื่อป้องกันสิ่งมีพิษ สิ่งเลวร้ายไม่ให้กล้ำกราย, ยอบ้าน-ยอป่า ทำให้ผู้คนยกย่องสรรเสริญ และกระถิน ป้องกันสิ่งเลวร้าย
นอกจากนี้ยังมีไม้ประดับอีกจำพวกว่านหลายอย่าง อาทิ ว่านวาสนา, เงินไหมา-เทมา, นางกวัก,เสน่ห์จันทร์ขาว, เศรษฐีเรือนนอก-เรือนใน และใบเงิน เป็นต้น
นี่เป็นเพียงไม้มงคลนามหลักๆ ที่คนไทยมีความเชื่อมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งความจริงแล้วพรรณไม้มงคลยังมีอีกจำนวนมาก รวมถึงจำพวกว่านด้วย
นายสวีสอง