“THE SAND” คอนโดมิเนียมที่“สมดุล”ริมหาด“บางแสน” | คมชัดลึก

 อย่างเช่น ดร.โจเซฟ สติกลิตซ์ ที่มีดีกรีระดับรางวัลโนเบล ก็ยังต้องกลับมาทบทวนถึงปรัชญาของ “ทุนนิยม” แบบเดิมๆ และนำปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระองค์นำมาประยุกต์ใช้ จะว่ากันไปแล้วพระองค์ได้พระราชทานแนวคิดแห่ง “ความพอเพียง” นี้มาตั้งแต่ปี 2517 ก็เป็นเวลาล่วงเลยมา 36 ปีแล้วครับ ถ้าพสกนิกรของพระองค์พร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเราก็จะมีความเจริญอย่าง “มั่นคง มั่งคั่ง” และเป็นรูปแบบของ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” กว่าที่เป็นอยู่ครับ

 จะว่ากันไปให้ถึงแก่นแล้ว “ความพอเพียง” นั้นมีหลายมิติและก็ไม่ได้หมายความว่าจะดำรงชีวิตอยู่อย่างยากจนข้นแค้นไร้ซึ่งศักดิ์ศรี แต่ตรงกันข้ามกลับเป็นการใช้ชีวิตอย่าง “สมดุล” ที่ถึงพร้อมด้วย “ประโยชน์และความสุข” โดยไม่เบียดเบียนทั้งตัวเองและคนรอบข้างครับ ดังนั้นในสัปดาห์นี้ผมขอนำเสนอรูปแบบที่พักอาศัยอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า “คอนโดมิเนียม” ที่จัดได้ว่าเป็น “คอนโดมิเนียม” ที่ “สมดุล” ของโครงการ “THE  SAND” ที่หาด “วอนนภา” ชายทะเล “บางแสน” ห่างจากวงเวียน “บางแสน” เพียงไม่กี่นาที ถือได้ว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมติดหาดอีกโครงการหนึ่งที่ผมและคณะทำงานได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มถมดินปรับพื้นที่เสียเลยทีเดียวครับ เหตุผลที่ผมกล้าบอกว่า “THE SAND” คอนโดมิเนียม เป็นโครงการแบบ “สมดุล" เพราะเป็นโครงการที่ถึงพร้อมทั้ง “ประโยชน์และความสุข” โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง ที่ถือได้ว่าเป็นทำเลทองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบริเวณหาด “วอนนภา” ชายทะเล “บางแสน” ที่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ (จะว่าไปแล้วที่ “บางแสน” ก็มีไม่กี่หาดหรอกครับที่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นหาดหินหรือเป็นหาดเลน ถือว่าเป็นชายหาดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ “บางแสน” นอกจากอยู่ติดชายหาดแล้ว ในด้านการออกแบบ ทั้งรูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมภายนอกและการตกแต่งภายในก็ถือได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่ สวยที่สุดในหาด “วอนนภา” เป็นหนึ่งไม่มีสองรองใครในย่านนั้นครับ อีกทั้งยังตั้งราคาขายต่อหน่วยก็ไม่สูงจนเกินไปจนเกินเอื้อม ก็เป็นโครงการที่โดนใจทั้งคนที่พักอาศัยอยู่ในและนอก “บางแสน” นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยบูรพา ใช้เวลาเดินทางเพียง 4-5 นาทีก็ถึงประตูใหญ่ทางเข้ามหาวิทยาลัย อีกทั้งก็ยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทาง 45-50 นาทีก็ถึง จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งเพราะหากไม่อยู่เองก็สามารถปล่อยให้เช่า อย่างไรเสียก็ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ามากกว่าฝากเงินกินดอกเบี้ยในธนาคาร นอกจากนั้นในด้านขนาดของอาคารที่ไม่สูงเกิน 18 เมตร หรือ 6 ชั้น มีจำนวนห้องไม่มากทำให้ขนาดของโครงการไม่ได้มีขนาดใหญ่จนเกินไป จนดูแลไม่ทั่วถึง จะเห็นว่ามี “ความสมดุล"  ถึงพร้อมในทุกๆ มิติ ซึ่งแท้จริงแล้ว “ความสมดุล” นั้นคือ “ความพอเพียง” นั่นเองครับ

 จะว่าไปแล้ว “บางแสน” ก็ถือว่าเป็นย่านชายทะเลสำหรับพักผ่อนสูดโอโซนตากอากาศและรับประทานอาหารทะเลสดๆ ระดับคลาสสิกแห่งหนึ่งของเมืองไทยไม่น้อยหน้าไปกว่า “พัทยา”, “ศรีราชา”, “ชะอำ” หรือ “หัวหิน” แต่ข้อได้เปรียบที่สำคัญ คือด้วยระยะทางเพียง 80 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ มีทางด่วนที่สะดวกสบายถึง 2 เส้นทางหลัก ไม่ว่าจะเป็นทางด่วน “มอเตอร์เวย์” หรือทางด่วน “ยกระดับ” จากบางนาและยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน “สุวรรณภูมิ” อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของธุรกิจการค้าและการบริการที่มีระบบสาธารณูปโภคสาธารณูปการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และจุดแข็งที่สำคัญอีกประการคือ “บางแสน” ถือได้ว่าเป็น “เมืองมหาวิทยาลัย” เพราะเป็นที่ตั้งของ “มหาวิทยาลัยบูรพา” ที่มีทั้งนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ รวมทั้งบุคลากรกว่า 4 หมื่นคน และกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เศรษฐกิจของ “บางแสน” คึกคักครึกครื้นไปทั้งปี ไม่มี “หน้าโลว์” หรือ “หน้าไฮ” เป็นผลให้ “บางแสน” มีความเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลาครับ 

 จากการที่ผมได้เข้าไปคลุกคลีกับเจ้าของโครงการ “THE SAND” คอนโดมิเนียม คือ คุณวิชยา คุณปลื้ม ก็ทำให้ผมรู้จักกับ “บางแสน” มากขึ้น ได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของ “บางแสน” และได้เห็น “น้ำใสใจจริง” ของคน “บางแสน” รวมทั้งได้เห็นอนาคตที่สดใสของ “บางแสน” เพราะความเป็นสถานที่ตากอากาศชายทะเล (ที่มีความปลอดภัยสูงสามารถลงเล่นน้ำทะเลได้) ที่ใกล้ที่สุดจากกรุงเทพฯ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์มีคนจำนวนไม่ใช่น้อยจากทั่วทุกสารทิศไปพักผ่อน สูดโอโซน และไปรับประทานอาหารทะเลสดๆ เลิศรสที่ “บางแสน” นอกจากนั้นเจ้าของโครงการก็เป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีพื้นเพในย่าน “บางแสน” ยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุดไม่ยอมให้เสียชื่อ ผมจึงเชื่อว่า โครงการ “THE SAND” คอนโดมิเนียม จึงเป็นโครงการที่มีคุณภาพคับแก้วอีกโครงการหนึ่งครับ ก็เป็นที่น่าชื่นใจครับ ขนาดยังไม่เปิดโครงการก็มีคนจับจองไปกว่า 40 ยูนิต ก็เบิกบานไปทั้งเจ้าของ ทั้งผู้ซื้อ รวมทั้งตัวผมที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่แรก ซึ่งในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ก็จะได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการครับ

 เริ่มต้นดี คิดดี ทำดี ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ทุกอย่างก็กำลังไปได้ด้วยดี สำหรับแฟนๆ ชาวคนรักบ้านที่สนใจ โครงการ “THE SAND” คอนโดมิเนียม ติดหาด “วอนนภา” ชายทะเล “บางแสน” ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 08-7919-5115 และ 08-02472-999 และในช่วงโปรโมชั่นนี้ก็มีการลด แลก แจก แถม กันมากมายครับ ก็ลองติดต่อถามไถ่กันเอาเองครับ นอกจากนั้นถ้าหากแฟนๆ ท่านใดอยากพบผมตัวเป็นๆ ก็ไปพบกันได้ตอนเย็นๆ ยามแดดร่มลมตกที่สำนักงานโครงการ หรือแฟนๆ ท่านใดมีปัญหาค้างคาใจในเรื่องใดเกี่ยวกับ บ้านไม่บาน, อพาร์ตเมนต์ไม่บาน, โรงแรม + รีสอร์ทไม่บาน หรือ คอนโดมิเนียมไม่บาน ก็เอาประเด็นที่ท่านสงสัยว่า “จะทำดี หรือไม่ทำดี” รวมทั้งเมื่อตัดสินใจทำแล้ว “จะทำอย่างไร (ให้อยู่รอดปลอดภัย) ดี” นำมาถามไถ่แลกเปลี่ยนทัศนคติกันแบบตรงไปตรงมา เพื่อให้ “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง มีชัยร้อยครั้ง” ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดังเช่น โครงการ “THE SAND” คอนโดมิเนียม หาด “วอนนภา” ชายทะเล “บางแสน” ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามตั้งแต่ก้าวแรก นับได้ว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศติดหาดที่มี “ความสมดุล” ทั้ง “ประโยชน์และความสุข” อย่างแท้จริงครับ

 สำหรับสาระน่ารู้ในสัปดาห์นี้คงมีเพียงแค่นี้ครับ แฟนๆ  ชาวคนรักบ้านท่านใดสนใจรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ “อาคารบ้านเรือนไม่บาน” หลายร้อยรูปแบบที่ได้เผยแพร่ออกไป ท่านก็สามารถติดตามข้อมูลย้อนหลังได้ที่เว็บไซต์ยอดฮิตของหมู่เฮาชาวคนรักบ้าน  www.homelovethai.com ครับ