ไลฟ์สไตล์

นำร่องศูนย์บ่มเพาะบ้านโพนสูง
ชุบชีวิต"ชาวนา"ในพื้นที่ดินเค็ม

นำร่องศูนย์บ่มเพาะบ้านโพนสูง ชุบชีวิต"ชาวนา"ในพื้นที่ดินเค็ม

09 ธ.ค. 2553

ในอดีตการทำนาเกลือสินเธาว์ เป็นอาชีพที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้แก่ชาวบ้านในต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยเกลือสินเธาว์คุณภาพสูง แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ประกอบกับราคาเกลือสินเธาว์ที่ไม่ดีเหมือนเมื่อก่

  วิจิตร ราชจำปี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 3 ตำบลโพนสูง ในฐานะประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวบ้านโพนสูง ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการก่อตั้งศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรเพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ดินเค็มบ้านโพนสูง โดยการสนับสนุนของมูลนิธิซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) และเครือข่ายพันธมิตรยอมรับว่าเมื่อก่อนชาวบ้านในพื้นที่แห่งนี้จะมีอาชีพทำนาเกลือเป็นหลัก ก่อนจะปรับเปลี่ยนมาปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และข้าวในเวลาต่อมา เนื่องจากเป็นพืชเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้การส่งเสริม แต่ผลผลิตที่ได้กลับไม่ดีนัก อันเป็นผลมาจากปัญหาดินเค็ม

 "ผมเองมีพื้นที่อยู่ 20 ไร่เศษ เมื่อก่อนเป็นนาเกลือทั้งหมด ประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมาก็เปลี่ยนมาทำนา แต่ผลผลิตไม่ค่อยดี บางพื้นที่ก็ปลูกไม่ได้ เพราะปัญหาดินเค็ม กระทั่งปี 2550 เกษตรอำเภอบ้านดุง มีโครงการฟื้นฟูดินเค็ม โดยส่งเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำแล้วก็เลิกไป พอปีถัดมามูลนิธิซิเมนต์ไทยก็เข้ามาสานโครงการต่อจนถึงปัจจุบัน" วิจิตรย้อนอดีตให้ฟังก่อนจะมาเป็นศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรในพื้นที่ดินเค็มอย่างสมบูรณ์แบบในวันนี้

 สำหรับศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ ซึ่งได้รับบริจาคจากชาวบ้านในพื้นที่ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการพื้นที่ดินเค็มแบบครบวงจรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง โดยเนื้อหาหลักสูตรจะเน้นทั้งภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริง พร้อมกับจัดทำแปลงทดลองนาข้าวในพื้นที่ดินเค็มสำหรับให้เกษตรกรที่เข้าฝึกอบรมได้เรียนรู้อย่างละเอียด ซึ่งการอบรมแต่ละรุ่นจะใช้เวลา 3 วัน 2 คืน โดยมีวิทยากรมาให้ความรู้อย่างหลากหลาย ทั้งนักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.เฉลิมพล เกิดมณี ผู้เชี่ยวชาญด้านดิมเค็มจาก สวทช.

 "เนื้อหาหลักสูตรการสอนก็จะเริ่มตั้งแต่การปรับปรุงดินโดยใช้ฟางข้าว เศษหญ้าใบไม้ที่ย่อยสลายได้ง่าย แกลบหรืออินทรีย์วัตถุอื่นๆ ใส่ลงไปในพื้นที่ดิมเค็ม มีการสอนการทำบัญชีครัวเรือน สอนการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ แล้วก็มีโรงสีข้าวชุมชนบริการสีข้าวฟรีให้แก่ชาวบ้านด้วย ส่วนการบริหารจัดการศูนย์ชาวบ้านจะบริหารกันเองในรูปแบบของคณะกรรมการ ซึ่งได้รับคัดเลือกมาจากชาวบ้านอีกที" รศ.ดร.เฉลิมพล เกิดมณี กล่าวเสริม

 ด้าน ดร.เสนาะ อูนากูล กรรมการเครือซิเมนต์ไทยและประธานมูลนิธิซิเมนต์ไทย กล่าวในโอกาสเปิดศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรเพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ดินเค็มบ้านโพนสูงว่า เอสซีจีให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน จึงสนับสนุนศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติดำเนินโครงการ "นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อการฟื้นฟูดินเค็ม" ด้วยตระหนักถึงปัญหาดินเค็มในพื้นที่ภาคอีสานที่ปรากฏคราบเกลือมากกว่า 17 ล้านไร่ หรือประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่และเป็นสาเหตุความยากจนของเกษตรกร ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายในการสรางต้นแบบการพัฒนาระบบเกษตรบนพื้นที่ดินเค็มเพื่อให้เกิดการขยายผลอย่างยั่งยืนต่อไป

"สุรัตน์ อัตตะ"