
"สุขประเสริฐผลิตภัณฑ์หมูแปรรูป อร่อยตำรับชาวบ้าน-ของดีเมืองสิงห์
ความคิดที่อยากมีกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง บวกกับแรงกดดันทั้งเรื่องรายได้ เวลา และความเป็นอิสระด้านการทำงานในสถานะมนุษย์เงินเดือน เป็นแรงผลักให้ สกุณี สุขประเสริฐ หันหลังให้อาชีพพนักงานรถทัวร์เมื่อหลายปีก่อน พร้อมๆ กับเริ่มต้นทำธุรกิจหมูแปรรูปหลากหลายเมนูภ
หากสำรวจความนิยมของผู้บริโภคในการเลือกซื้ออาหารประเภทของฝาก ของกินเล่น หรือกับแกล้ม ผลิตภัณฑ์หมูแปรรูป ถือเป็นอีกเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้แต่ละปีธุรกิจนี้ทำเงินให้แก่ผู้ประกอบการปีละนับล้านๆ บาท และแม้ที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ยอดขายในภาพรวมลดลงไปบ้าง แต่สินค้าชนิดนี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
สำหรับ "สกุณี" เธอย้อนให้ฟังถึงธุรกิจนี้ว่า เริ่มเมื่อ 11 ปีที่แล้ว หลังลาออกจากการเป็นพนักงานรถทัวร์ เพราะแรงกดดันทั้งเรื่องเงิน เวลา และอิสระในการใช้ชีวิต ทำให้มองหาอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเอง อีกทั้งด้วยชอบค้าขายอยู่แล้ว บวกกับญาติฝ่ายสามีทำอาชีพนี้กันมานาน เป็นอาชีพอิสระ แถมรายได้ดีจึงลองทำดู ทั้งที่ตัวเองไม่มีความรู้มาก่อน แต่ด้วยใจที่มุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทำให้สร้างฝันตัวเองได้สำเร็จ และกลายเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์หมูแปรรูป แบรนด์ “สุขประเสริฐ”
“เริ่มจากทำหมูทุบก่อน ด้วยไปศึกษาวิธีการทำจากญาติสามีซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับชาวบ้าน กินได้บ้างไม่ได้บ้าง จึงปรับปรุงไปเรื่อยๆ จนได้รสชาติที่ถูกใจ จากนั้นจึงได้ฝึกทำหมูสวรรค์ หมูหอมกรอบ ฯลฯ ฝากน้องสาวไปขายที่ทำงาน ขายญาติพี่น้อง คนในหมู่บ้าน ติดต่อฝากขายตามร้านค้า ร้านของฝากในจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งห้างสรรพสินค้ามาบุญครองในกรุงเทพฯ ด้วย เมื่อลูกค้าที่ได้ชิมชอบในรสชาติ ก็บอกต่อกันไป ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” สกุณีกล่าวด้วยความภูมิใจถึงความสำเร็จอันเกิดจากความพยายามของเธอ
ระยะเวลาเพียง 2 ปีแรกที่ดำเนินกิจการ สกุณีบอกกระแสตอบรับได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอต้องขยายกิจการด้วยเพิ่มปริมาณการผลิต พร้อมทุ่มเทเวลาให้แก่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐาน กระทั่งผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งนอกจากสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพสินค้าด้วย
“จุดเด่นผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของเราคือมีรสชาติเฉพาะตัว ขณะที่วิธีทำเราก็เน้นสะอาด ถูกหลักอนามัย ปลอดภัย อีกอย่างคือไม่ผสมสารกันบูด หรือสารเคมีใดๆ วัตถุดิบที่ใช้คัดเฉพาะเกรดเอ และจะผลิตตามออเดอร์ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าใหม่สด และก่อนจะส่งสินค้าจะมีการตรวจเช็กอย่างละเอียดอีกครั้ง บนพื้นฐานการทำงานที่จริงใจ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาเปรียบลูกค้า” สกุณีกล่าว
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หมูแปรรูปภายใต้แบรนด์ "สุขประเสริฐ" มีหลายชนิด หลายราคาให้เลือก อาทิ หมูทุบ กิโลกรัมละ 600 บาท หมูฝอย หมูสวรรค์ และหมูหอมกรอบ กิโลกรัมละ 500 บาท ส่วนผัดเผ็ดหมูทุบ กิโลกรัมละ 400 บาท และก็มีแบบแบ่งขายตามใจลูกค้าก็จะเฉลี่ยราคาตามน้ำหนัก ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือหมูทุบ ตลาดนั้นมีวางจำหน่ายยังร้านของฝากในจังหวัดต่างๆ และห้างเทสโก้ โลตัส ทุกสาขาทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจนทำให้ยอดขายลดลงกว่าครึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แต่กระแสตอบรับของผู้บริโภคที่คำนวณจากยอดผลิตซึ่งไม่น้อยกว่า 2,000 กิโลกรัมต่อเดือน กับรายได้ที่สูงเกือบ 5 แสนบาท ถือว่าสินค้าชนิดนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาด เช่นเดียวกันในภาวะเศรษฐกิจประเทศเช่นนี้ เพื่อแจกเป็นวิทยาทานให้แก่ผู้ที่สนใจทั้งทำเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก สกุณี ยินดีให้ความรู้ โดยติดต่อได้ที่ 42/1 หมู่ 4 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี หรือโทร.08-9801-3767
ทำ"หมูทุบ-หมูสวรรค์"ไม่ยาก!
เริ่มจาก "หมูทุบ" ส่วนผสม เนื้อหมูสะโพกหลัง 5 กิโลกรัม, เกลือป่น 5 ช้อนชา, น้ำปลา 5 ช้อนชา, พริกไทยป่น 5 ช้อนชา และน้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนชา
วิธีทำ เริ่มจากล้างหมูให้สะอาด และแล่ออกตามความยาวให้หนาพอสมควร ผสมเกลือป่น พริกไทย และน้ำตาลปี๊บ คลุกให้เข้ากันทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน แล้วนำไปแผ่บนตะแกรงคลุมด้วยตาข่าย ผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาอบโดยใช้ไฟอ่อนๆ (ระวังอย่าให้แห้งหรือไหม้ เพราะเวลาทุบจะไม่ฟู) เมื่อสุกแล้วจึงนำมาทุบเบาะๆ ในขณะที่ยังร้อนอยู่เพื่อให้เนื้อหมูยุ่ยออกจากกัน ก่อนนำใส่ถุงพลาสติกปิดผนึกให้สนิท เตรียมจำหน่าย
ส่วน "หมูสวรรค์" ส่วนผสมได้แก่ เนื้อหมูสะโพกหลัง 5 กิโลกรัม ,น้ำตาลทราย 7 ขีด, น้ำตาลปึก 3 ขีด, น้ำปลา 2 ขีด, เมล็ดผักชี 1 ช้อนโต๊ะ,ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันพืช 2 กิโลกรัม
วิธีทำ นำเนื้อหมูมาล้างให้สะอาด แล่เป็นชิ้นบางๆ แบ่งยี่หร่าและเมล็ดผักชีออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ส่วนหนึ่งนำไปโขลกให้ละเอียด อีกส่วนบุบให้พอแตกเล็กน้อย จากนั้นนำน้ำตาลทราย น้ำตาลปึก น้ำปลา เมล็ดผักชีและยี่หร่ามาคลุกเคล้ากับเนื้อหมูให้ทั่ว ใส่ภาชนะปิดให้มิดชิดหมักไว้ 5-12 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปวางแผ่บนตะแกรง คลุมด้วยตาข่าย ผึ่งแดดให้แห้ง
นำเนื้อหมูที่แห้งแล้วใส่ภาชนะผึ่งลมไว้สัก 1 คืน (เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อหมูแข็งและเหนียวเมื่อนำไปทอด) ก่อนนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมตามขนาดที่ต้องการและตัดเอามันออก (เพราะเวลาทอดจะทำให้มีกลิ่นเหม็นหืน) แล้วจึงนำไปทอดกับน้ำมันด้วยไฟปานกลางจนสุก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่ถุงพลาสติก ปิดผนึกให้สนิท เพื่อความพร้อมในการจำหน่ายต่อไป
"ธานี กุลแพทย์"