"สุขภาพดี" มีได้ด้วยตัวเอง | คมชัดลึก

  งานนี้ได้ยังรับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาทรงเปิดงาน พร้อมร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อ "ประสบการณ์...สุขภาพ" โดยมี ม.ร.ว.มาลินี จักรพันธุ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ ห้องเดซองส์ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันก่อน

 รศ.นพ.สมพงษ์ สุวรรณวลัยกร อาจารย์สาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า จากประสบการณ์การรักษาคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน ปัญหาที่พบมากคือผูป่วยมักไม่รู้ว่าเป็น เพราะอาการของโรคจะปรากฏเมื่อเป็นโรคมานานหรือระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงมาก สัญญาณที่บ่งบอกว่าเป็นโรคเบาหวานคือ คอแห้ง หิวน้ำบ่อย หิวบ่อย กินจุ แต่น้ำหนักลดลงเรื่อยๆ อ่อนเพลียไม่มีแรง ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก ซึ่งคนที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้แก่ ผู้สูงอายุ คนอ้วนหรือลงพุง ครอบครัวที่มีประวัติเป็นเบาหวาน เคยเป็นเบาหวานตอนตั้งครรภ์ คนที่ชอบกินของหวานปริมาณมากเป็นประจำ เครียด และไม่ออกกำลังกาย ดังนั้นหากเกิดอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ เพราะถ้าผู้ป่วยได้รับการตรวจรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยชะลอและลดความรุนแรงของโรคได้

 ด้าน พญ.คุณหญิงมัลลิกา วรรณไกรโรจน์ อาจารย์พิเศษหน่วยโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะว่า โรคหัวใจมีหลายชนิดและมีอาการแตกต่างกันออกไป ส่วนโรคหัวใจที่คนไทยเป็นกันมากในปัจจุบันขึ้นคือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาการที่พบบ่อยคือ เจ็บหน้าอกแบบจุกๆ แน่นๆ ตรงกลางยอดอก เหนื่อยง่าย วูบ เป็นลมหมดสติ ใจสั่น ซึ่งผู้ที่มีอาการเหล่านี้จำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อรีบรักษาตั้งแต่กล้ามเนื้อหัวใจยังไม่ตาย

 "สำหรับคนที่ไม่มีอาการใดๆ แต่มีแนวโน้มและปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ได้แก่ คนที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือคนที่สูบบุหรี่ก็ควรไปตรวจร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ เช่นกัน และควรดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายแบบต่อเนื่องและยาวนาน เช่น เดินเร็ว วิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน รวมทั้งรับประทานผักผลไม้ให้มาก ลดบริโภคน้ำตาลและของหวาน ถ้าทำได้ตามคำแนะนำนี้รับรองหัวใจจะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน" พญ.คุณหญิงมัลลิกา กล่าว

 สำหรับพ็อกเก็ตบุ๊ก "สุขภาพดี หมอจุฬา" หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยรายได้จะมอบเป็นการกุศลแก่ "กองทุนสิริกิติ์บรมราชินีนาถ" เพื่อพัฒนาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต่อไป