สบส.เร่งตรวจคลินิกรอบกทม.-ปริมณฑล | คมชัดลึก

(19พ.ย.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี   ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพบศพทารกจำนวนนับพันศพในวัดถึงสองแห่งว่า ตนได้ทราบถึงข่าวการทำแท้งเด็กทารกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมตนได้พยายามขับเคลื่อนเรื่องนี้มา และยกระดับของปัญหาขึ้นมาเพื่อที่จะให้หลายๆฝ่ายเข้าไปดูแล ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ก็มีความพยายามในการดำเนินการ ส่วนเรื่องปัญหาการทำแท้งนั้น กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)และทางแพทยสภาก็มีแนวปฏิบัติอยู่แล้วซึ่งเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

 “ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าปัญหานี้รุนแรง แล้วก็เป็นเรื่องที่พวกเราต้องช่วยกันแก้ไข ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องทำงานโดยมีมาตรการเพิ่มเติมในการที่จะทำให้ไม่เกิดปัญหาเช่นนี้มากขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

 เมื่อถามว่ารัฐบาลจะมีการทบทวนและหยิบกฎหมายทำแท้งมาพิจารณาใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า   “ ไม่หรอกครับ ได้คุยกันในรัฐบาลมาตลอดว่าขณะนี้เราคิดว่ากฎหมายที่เป็นอยู่มีความเหมาะสมและมีความยืดหยุ่นพอ เพราะว่าทางแพทยสภาและกระทรวงสาธารณสุขก็ได้วางแนวทางไว้แล้ว

สบส.เร่งตรวจคลินิกรอบกทม.-ปริมณฑล

 นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจากการประชุมเพื่อวางแผนร่วมกันกับ ผู้กำกับ สน.วัดพระยาไกร แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม เข้าตรวจค้นคลินิกต้องสงสัยเมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) และ นิติกรชำนาญการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานพยาบาลต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับการทำแท้งเถื่อน 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร โดยแห่งแรกเข้าตรวจค้นสุทัศน์คลินิกเวชกรรม เลขที่ 224 / 5 - 6 และแห่งที่สองเข้าตรวจค้นสถานพยาบาลชื่อจำเนียรคลินิก ตั้งอยู่เลขที่ 18 / 7 ซ.สาธุประดิษฐ์ 4 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ซึ่งผลการตรวจค้นทั้ง 2 แห่งไม่พบเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่น่าเกี่ยวข้องกับการทำแท้งแต่อย่างใด

 อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร สอบปากคำสัปเหร่อทั้ง 2 คน ล่าสุดยอมรับสารภาพว่า ช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา ได้รับจ้างคลินิกวางแผนครอบครัวในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 3 แห่ง สน.ยานนาวา อีก 2 แห่ง ให้เดินทางไปรับศพทารกมาทำลายหลักฐาน บางครั้งก็มีเจ้าหน้าที่คลินิกนำมามอบให้ที่วัด แต่เนื่องจากเมรุของวัดเกิดชำรุดมาได้ประมาณกว่า 2 เดือน เลยไม่มีที่เผาทำลายซากทารกต้องเก็บรวบรวมไว้ในช่องเก็บศพหมายเลขที่ 17 เพื่อรอเผาทำลายซากทารก เป็นต้นเหตุให้สามารถขยายผลการจับกุมตัว น.ส.รัญฉกร จันทมนัส อายุ 33 ปี เป็นผู้ลงมือทำแท้งและหิ้วซากทารกไปจ้างสัปเหร่อวัดไผ่เงินให้เผาทำลายหลักฐาน

 ทั้งนี้ เมื่อเย็นวันที่17 พฤศจิกายน 2553 นิติกรชำนาญการจากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลหนองแขม เพื่อนำกำลังเข้าตรวจค้นหาหลักฐานภายในตึกแถว 4 ชั้นครึ่ง มีป้ายติดว่า มวลชนการแพทย์ตั้งอยู่เลขที่ 27/148 ถ.เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม กทม. จึงเข้าตรวจค้นพบที่นอนเปื้อนคราบเลือด อุปกรณ์การทำแท้งและเครื่องมือแพทย์จำนวนมาก รวมถึงถุงพลาสติกชนิดเดียวกับที่บรรจุซากทารกที่นำไปทิ้งในวัดไผ่เงิน

 นอกจากนี้ มอบหมายให้ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ส่งเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบ หากพบสถานพยาบาลหรือคลินิกใดที่เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และแพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม เปิดรับรักษาหรือทำแท้งจะดำเนินคดีทางกฎหมาย จะ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสั่งปิดสถานพยาบาล ซึ่งในเบื้องต้นจะตรวจสอบรอบพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คาดว่าจะสามารถเข้าจับกุมได้เร็วๆ นี้