รวบแล้วมือทำแท้งส่งศพทารกวัดไผ่เงิน | คมชัดลึก

 (17พ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีพบศพเด็กทารกในที่เก็บศพของวัดไผ่เงินโชตินาราม เขตบางคอแหลม กทม. กว่า 300 ศพ ว่า เมื่อวานนี้ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้รับรายงานเมื่อเช้าวันนี้ว่า ศพทารกที่พบน่าจะเกิดจากการทำแท้ง เพราะทารกบางศพอวัยวะยังไม่ครบและบางส่วนยังเป็นก้อนเลือด และจากการสอบสวนสัปเหร่อได้ข้อมูลที่ค่อนข้างเชื่อได้ว่า มีสถานพยาบาล 2-3 แห่ง ที่เปิดให้บริการทำแท้ง ได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและพนักงานสอบสวน เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย เพราะกรณีดังกล่าว มีความผิดตามกฎหมายอาญา เรื่องการทำแท้ง และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ที่เอาผิดกับคลินิกเถื่อนหรือคลินิกที่ขออนุญาตเปิดถูกกฎหมาย แต่กระทำผิดกฎหมายก็จะถูกลงโทษด้วย ส่วนแพทย์ก็จะมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ที่เป็นตัวบังคับแพทย์ไม่ให้ทำผิดกฎหมาย หากทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน

 นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การดำเนินการหลังจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบคุมเข้มสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ โดยแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศตรวจตรา เข้มงวดไม่ให้เกิดขึ้นในจังหวัด เพราะจากจำนวนศพเด็กที่พบในครั้งนี้ เชื่อว่ายังมีสถานพยาบาลจำนวนมากที่ยังลักลอบกระทำผิด

 นพ.สมชัย พิญโญพรพานิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า การตรวจสอบว่าสถานพยาบาลแห่งใด ทำแท้งเด็ก 348 ศพ นั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผล อย่างไรก็ตามเมื่อได้ข้อมูลชัดเจน ทางสบส.จะเข้าตรวจค้นพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ขณะนี้ได้มอบหมายให้ สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ เข้าไปตรวจสอบคุณภาพการดำเนินการว่า มีสถานพยาบาลแห่งใด กระทำสิ่งผิดกฎหมาย ใช้ยาอันตราย หรือดำเนินการสิ่งใดนอกเหนือจากการได้รับอนุญาต หรือไม่ นอกจากนี้ รมว.สธ. ได้มีคำสั่งให้สถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เข้มงวดในการตรวจสอบสถานพยาบาลในสังกัดเพื่อป้องกันกรณีการลักลอบทำแท้ง เป็นพิเศษ

 นพ.สมชัย กล่าวต่อว่า ทางสบส.มีการตรวจสอบสถานพยาบาล ที่ได้รับในอนุญาตโดยตลอดอย่างน้อยปีละครั้ง และสุ่มตรวจซ้ำในคลินิคที่น่าสงสัย ซึ่งทั่วประเทศมีคลินิกกว่า 10,000 แห่ง เฉพาะในกทม. เกือบ 4,000 แห่ง และเฉพาะในพื้นที่เกิดเหตุกว่า 100 แห่ง อีกทั้งเรื่องการทำแท้งเป็นการสมยอมระหว่างผู้ทำ กับผู้รับบริการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดทั้งคู่แต่เรื่องไม่ค่อยมีใครกล้าให้ข้อมูล สบส.ต้องส่งเข้าไปล่อเพื่อตรวจสอบ แต่ก็เป็นเรื่องยาก ส่วนที่มีข่าวว่าศพเด็กมาจากสถานพยาบาลประมาณ 17 แห่ง ก็มีความเป็นไปได้ อาจจะประมาณ 17-20 แห่ง แต่ต้องรอการตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

 “ ต้นเหตุเพราะปัญหาทางสังคม เดี๋ยวนี้เด็ก 13-14 ก็มีเพศสัมพันธ์แล้ว ลอยกระทง ปีใหม่ วาเลนไทน์ ก็มีข่าวเรื่องนี้ตลอด แต่ถ้าครอบครัวอบอุ่น จะเป็นเกราะป้องกันอย่างดี กับปัญหาสังคม ทั้งเรื่องเพศสัมพันธ์ ยาเสพติดและการพนัน ” อธิบดีสบส. กล่าว

หมอประชุมตร.เตรียมตรวจค้นคลินิกทำแท้งเถื่อน

 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.วัดพระยาไกร นายแพทย์สมชัย ภิณโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข น.พ.ธเรศ กัษนัยรวิวงศ์ ผอ.กองควบคุมโรคศิลป์ พร้อมเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดี กรณีพบศพเด็กทารกจำนวน 348 ศพ ภายในวัดไผ่เงิน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 พ.ย.) พร้อม พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยใช้เวลาประมาณ1 ชม.

 ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม น.พ.สมชัย กล่าวว่า ในวันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มาร่วมประชุม เพื่อหาที่มาที่ไปและความคืบหน้าของคดี สำหรับเหตุการณ์วานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพเด็กทารกที่พบทั้งหมดไปทำการตรวจสอบที่ รพ.จุฬาฯ สำหรับในส่วนของทางกระทรวงเราจะตรวจสอบคลินิก ที่เป็นจุดเสี่ยงทั้งหมด เพื่อดูมาตรฐานและการดำเนินการว่ามีวิธีการอย่างไร ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎของกระทรวงสาธารณะสุขหรือไม่ มีแพทย์ประจำหรือไม่ มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถอยู่หรือไม่และเครื่องมือได้มาตรฐานหรือไม่

 น.พ.สมชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของขั้นตอนดำเนินงานจะแบ่งออกให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูในเรื่องการทำแท้ง ซึ่งเป็นคดีอาญา ส่วนของทางกระทรวงสาธารณุสุข จะดูเรื่องคลินิก หากตรวจสอบพบว่าคลินิกใดไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวงก็จะให้ดำเนินการแก้ไข หากเปิดแบบผิดกฏหมาย หรือเป็นคลินิกเถื่อนก็จะดำเนินการปิดทันที

 ด้าน พ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า สำหรับในส่วนของคดี ซึ่งเป็นคดีที่น่าสนใจของทุกฝ่าย รวมทั้งผู้บังคับบัญชาก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าว เข้าพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดี รวมถึงประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมดำเนินการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ในวัดมาทำการสอบปากคำ มีทั้งเด็กวัด สัปเหร่อ และเจ้าหน้าที่ในวัด ซึ่งได้ทำการสอบปากคำไปแล้วประมาณ 6 ปาก

 พ.ต.อ.เมธี กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้สอบปากคำเพื่อหาที่มาของศพเด็กทารก ว่ามีความเป็นมาอย่างไร จะได้สาวไปถึงตัวผู้กระทำผิด ในส่วนของคำให้การของเจ้าหน้าที่วัดและผู้ต้องสงสัย ก็ยังไม่มีการพาดพิงถึงใคร ทั้งนี้ตำรวจกำลังลงพื้นที่สืบหาข่าว เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลของคลีนิคที่เข้าข่ายต้องสงสัย รวมทั้งทำการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงว่ามีผู้หญิง หรือใครบ้างที่เคยไปทำแท้ง และที่ใดบ้าง เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลอีกครั้งก่อนลงพื้นที่ดำเนินการสำหรับคดีนี้เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงหลายฝ่ายในการนำศพทารถมาไว้ในวัด จะต้องสอบสวนทุกฝ่ายอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

 วิน จยย.ย่านวัดพระยาไกร กล่าวเปิดเผยโดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ประมาณปีเศษ ตนเคยได้รับการว่างจ้างจากหญิงสาวอายุ 30-35 ปี รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่น นับ10 ให้พาไปทำแท้ง  โดยหญิงสาวแต่ละรายจะให้ตนรอหน้าคลินิกภายในซอยดังกล่าว จากนั้นก็จะมีพยาบาลมาพาตัวขึ้นไปที่ชั้น 2 บางรายก็มีรถเก๋งมารับไปส่งที่ย่านท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี เมื่อทำแท้งเสร็จตนก็จะพาหญิงสาวไปส่งที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนหลังทำแท้งเสร็จก็มีสภาพที่ย่ำแย่
 
 ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงิน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย มาทำการสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นได้ให้การโดยอ้างว่า ก่อนหน้านั้นประมาณ 2 เดือน มีผู้หญิงมาหาที่วัด พร้อมกับสอบถามว่ามีที่เก็บของหรือไม่ จากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าว ก็ได้ยื่นข้อเสนอให้นำของอย่างหนึ่งไปเก็บไว้ที่วัด โดยเป็นถุงห่อหุ้มมาอย่างดี และจะให้เงินค่าจ้างในการฝากครั้งละ 200 บาท จากนั้นก็รับปากนำของมาเก็บให้ ทำมาแล้ว 5 ครั้ง โดยไม่ทราบว่าของข้างในเป็นอะไร กระทั่งมาทราบเรื่องว่าของในถุงเป็นศพเด็กทารก

ค้นคลีนิคต้องสงสัย2จุดไม่พบสิ่งผิดปกติ

 เมื่อเวลา 17.30 น.  พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบก.น. 5 และ พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายศาลอาญาพระนครใต้ เข้าตรวจค้นคลีนิคต้องสงสัย 2 จุดย่านสาธุประดิษฐ์  เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

รวบแล้วมือทำแท้งส่งศพทารกวัดไผ่เงิน

 ต่อมาเวลา 19.00 น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รองผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัต มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร นำกำลังฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจค้นตึกแถวเลขที่ 72/148 ถนนเพชรเกษม ระหว่างซอย 81/2-81/3 เนื่องจากนายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงิน ให้การว่า คลินิกดังกล่าวส่งศพเด็กมาให้ทำลายที่วัด ตรวจสอบพบมีคราบเลือดบนที่นอนในห้องที่แบ่งไว้บนชั้น 4 นอกจากนี้ยังพบเตียงขาหยั่ง 1 เตียง ส่วนที่ชั้น 2 พบอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับทำแท้ง จึงควบคุมตัว น.ส.รัญฉกร จันทมนัส อายุ 33 ปี อดีตผู้ช่วยแพทย์คลินิกแห่งหนึ่งซึ่งดูแลสถานที่ดังกล่าว ไปสอบปากคำที่ สน.วัดพระยาไกร

 น.ส.รัญฉกร ให้การว่า อาคารดังกล่าวเคยเปิดเป็นคลินิกและปิดกิจการไป แต่ตนมารับแท้งเพราะรู้จักเครือข่ายของแพทย์ในระหว่างที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ ก่อนหน้านี้ตนจะติดต่อและไปรับหญิงสาวที่ตั้งท้องแล้วอยากทำแท้งจากพื้นที่ต่างๆ เช่น ย่านรังสิต คลองตัน จตุจักร และปริมณฑล เนื่องจากบางรายท้องแก่ บางรายมีโรคประจำตัว และที่อื่นไม่รับทำ ประกอบกับมีราคาแพง
แฉดารามาทำหลายราย

 น.ส.รัญฉกร ให้การอีกว่า ได้ลักลอบทำแท้งมาแล้ว 3 ปี คนที่มาทำแท้งส่วนใหญ่เป็นเด็กสาว และวัยรุ่นอายุประมาณ 13-20 ปี คนที่อายุมากสุดที่มาทำแท้งอายุ 38 ปี นอกจากนี้เคยมีดาราดังมาทำแท้งด้วยหลายราย ส่วนล่าสุดที่ทำไปคือ วันที่ 11 พฤศจิกายน ได้ทำแท้งหญิงสาวอายุครรภ์ 7 เดือนครึ่ง นอกจากนี้ยังตระเวนรับศพเด็กจากคลินิกต่างๆ ที่รับทำแท้งมาทิ้งด้วย โดยจะได้ค่าจ้างศพละ 500 บาท แบ่งให้นายสุเทพ 200 บาท ในการส่งศพทารกจะใช้เวลาตำรวจไม่ตั้งด่าน ขี่รถจักรยานยนต์นำไปส่งที่วัดไผ่เงิน แต่บางครั้งก็เรียกนายสุเทพมารับไปเอง

 น.ส.รัญฉกร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีคนมาทำแท้งแต่ไม่สำเร็จ 8 ราย ซึ่งทางแม่เด็กไม่แยแส ตนจึงรับเลี้ยงเด็กไว้ทั้ง 8 คน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่นำภาพถ่ายศพเด็กที่ระบุอายุครรภ์ 7 เดือนครึ่งให้ น.ส.รัญฉกรดู ซึ่ง น.ส.รัญฉกรยืนยันว่าเป็นเด็กที่รับทำแท้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว น.ส.รัญฉกร ไปดำเนินคดี