ไลฟ์สไตล์

"นายจ้าง" ไม่มีสิทธิ์ทำประกันสังคม

"นายจ้าง" ไม่มีสิทธิ์ทำประกันสังคม

11 พ.ย. 2553

ผมทำประกันสังคมตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2545 เพราะเห็นโฆษณาทางทีวีว่า แม้จะประกอบกิจการคนเดียว ขายก๋วยเตี๋ยวรถเข็น ก็สามารถทำได้

ผมเปิดมินิมาร์ท เริ่มต้นมีลูกน้องคนเดียว ทำประกันสังคม 2 คน ตัวผมกับลูกน้อง โดยจ่ายเงินสมทบไม่เคยขาด จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จ่ายเงินสมทบไปแล้วทั้งหมด 94 งวด เฉพาะผมคนเดียวเป็นเงินประมาณ 89,300 บาท
 ต่อมาวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2553 ผมไม่สบาย ไปรักษาที่โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่มีสิทธิ์รักษาแล้ว สงสัยว่า ผมไม่ได้จ่ายเงินสมทบ ผมอายมาก รอจนถึงวันจันทร์จึงโทรศัพท์สอบถามไปที่สำนักงานประกันสังคม
 เจ้าหน้าที่ประกันสังคมตอบว่า ผมถูกตัดสิทธิ์ เพราะเป็นนายจ้าง ทำประกันสังคมไม่ได้ ผมถามว่า ทำไมไม่แจ้งกันก่อน ความจริงผมทำงาน 2 ที่ คือเป็นลูกจ้างอีกบริษัทหนึ่งอยู่ด้วย ถ้ารู้ก่อน ผมจะได้แก้ไข โดยย้ายชื่อไปทำกันสังคมกับอีกบริษัทหนึ่ง เจ้าหน้าที่ประกันสังคม บอกว่าให้ผมไปรับเงินส่วนที่เหลือคืน ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเช็คจำนวนเงิน 53,600 บาท
 ผมคำนวณแล้ว ประกันสังคมหักไป 40% แล้วทำไมต้องตัดสิทธิ์อย่างอื่นผมด้วย เพราะผมทำประกันสังต่อ แต่ทางประกันสังคมนับหนึ่งใหม่ โดยไม่รวม 8 ปี ที่ผมเคยทำประกันสังคมมา ไม่ยุติธรรมเลย ถ้าประกันสังคมเห็นว่า นิติกรรมที่ผมทำกับประกันสังคมเป็นโมฆะตั้งแต่แรก ต้องคืนเงินที่ผมส่งๆ ไปทั้งหมด แต่เมื่อคืนไม่หมด ก็น่าจะคงสิทธิ์อย่างอื่นของผมไว้ โดยเฉพาะสิทธิ์การนับจำนวนปีของผู้ทำประกันตน เพราะผมทำประกันโดยบริสุทธิใจ หลักฐานต่างๆ ก็ชัดเจน ถ้าผิดก็น่าจะบอกกล่าวเสียก่อนเนิ่นๆ ผมจะได้แก้ไขทัน ไม่ใช่อยู่ๆ ก็มาตัดสิทธิ์โดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เสียความรู้สึกมาก
สำเริง
ตอบ
 น.ส.ดวงพร พรพิทักษ์พันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 11 ชี้แจงว่า คุณสำเริงเป็นเจ้าของกิจการตามกฎหมาย ไม่สามารถขึ้นทะเบียนประกันสังคมได้ ส่งเงินสมทบมา 8 ปี ก็เสมือนไม่ได้ส่ง เพราะไม่เข้าเงื่อนไข พ.ร.บ.ประกันสังคม 
 ในช่วงเวลาที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมตั้งแต่ปี 2545-2553 รวมระยะเวลา 8 ปี ทางประกันสังคมยังไม่พบว่า คุณสำเริงเป็นนายจ้าง จึงยังได้รับความคุ้มครองจากสวัสดิการของสำนักงานประกันสังคมตามปกติ แต่มาทราบภายหลัง เนื่องจากมีการตรวจสอบพบ จึงได้ทำหนังสือแจ้งให้คุณสำเริงทราบว่า การเป็นผู้ประกันตนของคุณสำเริงเป็นโมฆะ เนื่องจากมีฐานะเป็น "นายจ้าง"
 หากเจ้าของกิจการไม่เห็นชอบในคำวินิจฉัย สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน และแจ้งให้คุณสำเริงไปติดต่อรับเช็คในส่วนของเงินชราภาพที่ส่งสมทบเข้าไปจำนวน 5 หมื่นกว่าบาทคืน ยกเว้นส่วนที่หักไว้กรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และเสียชีวิต จะไม่ได้คืน เนื่องจากตั้งแต่ปี 2545-2553 สำนักงานประกันสังคม ได้ให้การคุ้มครองผู้ประกันตนมาโดยตลอด โดยจ่ายเงินเหมาจ่ายค่ารักษารายหัวให้แก่โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ์ทุกปี
 ผอ.ดวงพร บอกว่า คุณสำเริงรับเช็คไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา
 ด้านศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสัมคม รับทราบเรื่องร้องเรียนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอท่านเลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม เซ็นอนุมัติคำชี้แจง...
ลุงแจ่ม