
ศิลป์แห่งแผ่นดิน-พระธาตุภูทาด อุดมไชย
ผมพาลูกชายไปเยี่ยมยาม หลวงพระบาง เมื่อ วันที่ 9-16 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยข้ามแดนที่ด่านเชียงของ สู่เมืองห้วยซาย แขวงบ่อแก้ว นั่งเรือช้าไปลงเมืองปากแบ่ง ค้างหนึ่งคืน รุ่งเช้านั่งรถตู้ไปเมืองไซ อุดมไซ ระยะทางจากปากแพ่ง 145 กิโลเมตร
เมืองไซ เป็นเมือง “หัวใจของภาคเหนือ” ที่เมืองนี้สามารถต่อรถไปเมืองต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะไปหลวงพระบาง บ่อแก้ว หลวงน้ำทา หัวพัน กระทั่งไปเชียงรุ่ง คุนหมิง
เมืองเล็กๆ บนที่ราบกลางหุบเขา ร้านรวงในตัวเมืองส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีน และเวียตนาม ที่มีกิจการค้า “ตลาดลือไซ” เป็นศูนย์กลาง ตั้งอยู่ในอาคารใหญ่ริมน้ำก้อ (KOR)
ที่พักของเราอยู่ตีนภูทาด ใกล้ชิดแทบเบื้องบาทเพราะติดอยู่ติดบันไดทางขึ้นเลยทีเดียว เจ้าของเป็นคนจีน คนที่คอยดูแลบริการเราเป็นหญิงวัยกลางคนน้ำใจดี
พระธาตุองค์ใหญ่สีขาวสูงตระหง่านอยู่บนเนินกำแพงแก้ว ซุ้มประตู 4 ทิศ ฐานกลีบบัวทาสีทอง เช่นเดียวกับส่วนยอด
ภูเตี้ย แต่ก็สูงพอจะพัฒนาทัศนียภาพได้รอบด้าน เมืองไซมีถนนสายหลักสายเดียว ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีขนส่งโดยสารตลาดลือไซ ธนาคารต่างประเทศ โรงแรมใหญ่ๆ สองสามแห่ง
เรามีเวลาครึ่งวันแรกกับครึ่งวันหลัง เดินเที่ยวตัวเมือง และเช่ารถไปเที่ยวตามหมู่บ้านแถบชานเมือง เดินเล่นตามลำห้วย พูดคุยกับพ่อเฒ่าแม่เฒ่า ได้ชิม “ไคหมก” ที่แม่เฒ่ากำลัง “หมกไค” อยู่พอดี ไค คือตะไคร่น้ำซึ่งขึ้นในช่วงปลายฝน ที่เป็นช่วงน้ำใส ก่อนจะทำไคหมกต้องนำมายีเส้นไคให้ “สยาย” จน “สลวย”
ดูเผินๆ เหมือนเมืองไซนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่เราก็ประทับใจในรายละเอียดเล็กๆ เช่น น้ำใจไมตรีของคนขับตุ๊กๆ (สี่ล้อ) เมตตาของคูบา ตุ๊เจ้า รอยยิ้มของชาวบ้าน เด็กๆ นักเรียนนุ่งซิ่นสีดำ ใส่เสื้อสีขาว หน้าตามอมแมมที่เข้ามารุมล้อม
มื้อกลางวันมี “เฝอ” ที่ไม่แตกต่างจากเวียดนาม และมีกาแฟลาวที่ใครๆ ก็ติดอกติดใจไม่นับเบียร์ลาวที่มี “รสชาติ” นุ่มละมุน ที่ไม่นับเพราะผมไม่ดื่ม (แสลง)
ใครๆ ก็รักลาวกันทั้งนั้น คนลาวน้ำใจดี มีรอยยิ้มให้ทุกคนเสมอ
แม้เมืองอุดมไชยไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว เป็นเพียงเมืองผ่านสู่เมืองอื่น แต่ที่นี่ก็มีลำน้ำ มีถ้ำ มีป่าให้เดินเท้า มีหมู่บ้านลาวสูง มีที่ราบลุ่ม ไร่สาลี และนาข้าว มีวัดวาอารามเก่าๆ เช่น วัด “สันติพาบสีไซยาราม” บนเนินซ่อนเร้นอยู่ในหมู่ไม้รายล้อมด้วยกลุ่มบ้านเรือน
ก่อนกลับ เราแวะไปไหว้พระธาตุ “ภูทาด” อีกครั้ง รถตู้โกโรโกโส ออกจาก “คิวลด” ท่ารถ เวลา 11.30 น. เลยกำหนดเวลา 9.00 น. ไปโข แต่เราก็ยินดีที่มีเวลาให้นั่งรถชมเมืองไซอีกหน่อย
เรามุ่งสู่ “หนองเขียว” หรือเมืองงอยใหม่ เมืองงาม ริมน้ำอู ที่มีสะพานยาวใหญ่โตอลังการทอดข้าม มีภูผาสูงตระหง่านเขื่องค้ำอยู่สองฟากฝั่ง