แรงส์...แต่ปลอดภัย วิถีท้าทายของ "ลูกตาล" | คมชัดลึก

 ทว่าเห็นหนุ่มลูกตาลถูกใจซูเปอร์ไบด์ขนาดนี้ น้อยคนที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตบนวิถีโลดโผนเท่านั้น ด้วยครอบครัว "ตั้งตรงจิตร" ของ คุณพ่ออัมพร และ คุณแม่ยุพาณี นั้นมีลูกชายเพียงคนเดียวในจำนวนลูกๆ สามคน แถมยังเป็นคนกลางอีกต่างหาก ทำให้ต้องเอาใจใส่ยิ่งกว่าไข่ในหิน ซึ่งไม่ว่าพ่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้จะทำอะไรต้องให้อยู่ในสายตาเสมอ  และนั่นก็เป็นเหตุผลคำโตที่น้าน...นาน ถึงจะอนุญาตให้พ่อลูกชายใช้ชีวิตโลดโผนหรือไม่!!

 วันนี้กฎเหล็กหลายข้อผ่อนคลายลงเยอะ เริ่มตั้งแต่หนุ่มตาลจบวิศวกรรมโยธา จากรั้วจุฬาฯ และบินไปหอบเอ็มบีเอ ด้านการเงิน จากสหรัฐอเมริกากลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัวเกี่ยวกับยาสมุนไพร อย่าง ยาเขียวตราใบโพธิ์ ยาดมสมุนไพรตราเฌอเอม ซึ่งดูเผินๆ ภาระหน้าที่เหมือนจะไม่เข้าคู่กับสิ่งที่ร่ำเรียนมาแม้แต่น้อย นั่นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับวิกฤติฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 จึงต้องเบนเข็มไปมาให้วุ่น ล่าสุดกับการดูแลกิจการของตัวเองเต็มตัว "เฌอ รีสอร์ท (CHER RESORT)" โรงแรมแนวๆ แต่หรูหราสไตล์คอนเท็มโพลารี่ ริมหาดชะอำ เพชรบุรีที่เขาลงทุนลงแรงทั้งออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่ง และบริหารเองกับมือ

 ดั้งนั้น ผู้บริหารหนุ่มวัย 35 ปีรายนี้ ต้องขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างชะอำกับกรุงเทพฯ เป็นว่าเล่น และอาศัยโอกาสนี้เองได้ทำอะไรอย่างที่ใจอยาก อย่างการถอยเจ้าบีเอ็มดับเบิลยูคันโตรุ่น  K 1200 R ราคา 9 แสนปลายๆ ไว้เป็นพาหนะคู่กาย สับเปลี่ยนกับรถยนต์คันหรูที่ใช้งานมานาน แต่ประทานโทษเพิ่งกล้าที่จะเป็นเด็กแวนให้ทางบ้านเห็นมาเมื่อ 2 ปีก่อนมานี่เอง...อิอิ

 "ที่บ้านห้ามขี่มอเตอรไซค์ครับ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แต่ผมชอบมานานแล้วล่ะ เริ่มจากการสะสมมอเตอร์ไซค์เก่าๆ คันแรกเป็นของคุณปู่ยี่ห้อ Horex ปี 1945 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้ผมว่าเหลือคันเดียวในประเทศไทยด้วยมั้ง ผมเห็นจอดเสียทิ้งไว้ก็เลยเอามาปัดฝุ่นซ่อมจนวิ่งได้ ตอนนี้มีรุ่นเก่าๆ อยู่ 4 คัน ล่าสุดเพิ่งได้ ฮาเลย์ เดวิตสัน รุ่น สตรีท ไกลด์ ปี 1909 มา รวมกับบีเอ็มดับเบิลยูคันนี้ก็ 6 คันครับ" หนุ่มตาล เล่าพร้อมชี้ชวนให้ดูเจ้าคันโตที่ควบมาอวด

 วันที่เรานัดพบเพื่อพุดคุยเกี่ยวกับของรักของหวงขับขี่ได้ เป็นวันที่เจ้าของยาดมสมุนไพรควบรีสอร์ทหรู กำลังจะเดินทางไปดูกิจการที่ชะอำพอดี พอดับเครื่องจอดและก้าวเท้าลง ก็บอกด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีว่ารถซูเปอร์ไบด์แบบนี้ เหมาะกับคนอายุ 30 ปีขึ้นไปมากกว่าเด็กๆ จะขับขี่ เพราะด้วยสรีระของรถ และน้ำหนักที่ค่อนข้างมากราว 200 กว่ากิโลกรัม คนที่รูปร่างสูงใหญ่และเรียนรู้เรื่องการขับขี่มาก่อนจะได้เปรียบในการบังคับ ซึ่งถึงแม้ตัวเองจะใช้มาแล้วถึง 2 ปี แต่ทุกวันนี้ก็ยอมรับว่ายังไม่มั่นใจ

 โดยมีโอกาสได้ใช้งานคันโปรดเฉลี่ยเดือนละครั้งสองครั้ง ส่วนใหญ่ขับไปเที่ยวไกลๆ กับก๊วนเพื่อนสมัยเรียนมัธยมเซนคาเบรียล และขับไปดูงานรีสอร์ทที่ชะอำ แต่ละครั้งก่อนออกรถสิ่งสำคัญอันดับแรกต้องหมั่นตรวจเช็กเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบต่างๆ ซึ่งรถเครื่องยนต์รอบสูงๆ แบบนี้มีปัญหาจุกจิกกวนใจค่อนข้างมาก

 ดูจะเป็นหนุ่มที่ให้ความสำคัญเวลาขับขี่เอามากๆ ด้วยอีกเหตุผลที่มองข้ามไม่ได้นั่นคือ เขามองว่านักขับขี่ของบ้านเรายังไม่มีระเบียบวินัยเท่าที่ควร และยังประมาท ข้อนี้นอกจากจะนำมาซึ่งความหายนะส่วนตัวแล้ว ยังทำให้เพื่อนร่วมมทางต้องโชคร้ายไปด้วย จึงอยากเป็นหนึ่งคนที่เน้นการขับขี่ปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา ถึงแม้จะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ยังดีกว่าวางเฉย

 "อุปกรณ์ที่ผมไม่ลืมเวลาขับขี่รถใหญ่ๆ แบบนี้ คือหมวกกันน็อก เสื้อเกราะ อุปกรณ์ป้องกันศอก-เข่า- หลัง-คอ ถุงมือหนังอย่างดี และที่ขาดไม่ได้อย่างยิ่งคือ "สติ" และไม่ดื่มเวลาขับ ซึ่งปกติผมเป็นคนไม่ดื่มอยู่แล้ว ผมว่ารถยุโรปถึงแม้จะดูแข่งแรง แน่นปึ๊กกว่ารถญี่ปุ่น แต่ถึงยังไงความปลอดภัยต้องเต็มที่เสมอ และต้องไม่ประมาท" สาวกความเร็ว เตือนสติสิงห์นักบิดทั้งหลาย

 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าทายาทโรงเรียนพาณิชย์ระดับตำนาน และเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง จะหลงใหลได้ปลื้มสุดๆ กับเจ้าสองล้อคันบิ๊ก แว่วว่าตราบใดที่ยังมีแรงบิด หนุ่มคนนี้ก็ยังจะสรรหาสองล้อติดเครื่องระดับตำนานมาไว้ครอบครอง และควบเล่นเวลานึกสนุก ซำ...เหมอ ทีเดียวเชียว...

เรื่อง/ชาญยุทธ ปะวะขัง
รูป/สุกล เกิดในมงคล