
โก้ มิสเตอร์แซกแมน
ถ้าจะกล่าวถึงนักเป่าแซกโซโฟนของเมืองไทยในปัจจุบันแล้ว ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง แม้กระทั่ง อา ป้า น้า ปู่ ก็จะต้องพูดเป็นสียงเดียวกันว่า โก้ มิสเตอร์แซกแมน อย่างแน่นอน เพราะด้วยลีลาการเป่าของเขาสำเนียงหรือลีลา ฟังแล้วคนสมัยก่อนจะบอกว่า เหลือกำลังลาก
ถ้าในยุคนี้ก็บอกว่า ขั้นเทพ ซึ่งตรงนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ผมแต่งเรื่องเองแล้วนำมาเขียน ซึ่งนักฟังเพลงจะต้องคิดเหมือนกันกับผมทุกคน แต่ก็มีเสียงฤๅเสียงเล่าอ้างว่า ตอนนี้มีเด็กรุ่นใหม่อยู่หนึ่งคนเป็นนักเป่าแซกโซโฟนรุ่นน้องของคุณโก้ ซึ่งนักเป่าแซกหลายคนเคยพูดกับผมว่า คนนี้เก่งกว่าพี่โก้อย่างแน่นอน แต่สำหรับผม ซึ่งไม่เคยเห็นมือแซกนายนี้เป่าแม้แต่ครั้งเดียว ก็บอกว่า เฮ้ยไอ้น้องใครเก่งกว่ากันผมไม่รู้ แต่รู้ว่าความป๊อปปูล่าร์ในเมืองไทยแล้วมันคงไม่มีใครมาเทียบรัศมีของ มิสเตอร์แซกแมน อย่างแน่นอน และความป๊อปปูล่าร์มันเป็นเรื่องที่สำคัญและมันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนทั่วไปยอมรับในความป๊อปปูล่าร์ของคนคนนั้น ซึ่งมันก็หมายความว่า มันคงไม่ใช่จะเก่งอย่างเดียวหรือมีดีอย่างเดียว มันคงต้องมีสิ่งอื่นมาประกอบด้วยมันถึงจะทำให้บุคคลนั้นๆ มีความป๊อปปูล่าร์อยู่ในตัว และผมก็ยังบอกต่อไปอีกว่า ดูนักฟุตบอลสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้าจะพูดถึงฝีเท้าสุดยอดของโลกก็ต้องยกให้ ซีเนอดีน ซีดาน แต่ว่าความป๊อปปูล่าร์มันกลับกลายเป็น เดวิด เบ็คแฮม ในปัจจุบันสุดยอดตอนนี้ก็ต้อง ลีโอเนส เมสซี แต่จะดูอย่างไรมันก็ป๊อปปูล่าร์สู้ คริสเตียโน โรนัลโด้ ไม่ได้อยู่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้สรุปได้ว่ามันเกี่ยวข้องกับคำว่า จุดขาย และผลงานที่สะสมกันมานาน เพราะฉะนั้นมือแซกโซโฟนในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่อให้เป่าแล้วตีลังกากลับหลังใล่เกลียวไปด้วย หรือเป่าแล้วสามารถเรียกงูได้เป็นร้อยตัว ก็คงยังลำบากที่จะเทียบชั้น กับ คุณโก้ มิสเตอร์แซกแมน เพราะเนื่องจากว่า ฝีมือ ผลงานของมิสเตอร์แซกแมนนั้น สะสมมานานนับสิบปี ไม่ว่าจะเริ่มประกวดแล้วได้รางวัลชนะเลิศ ในวัยเด็ก หลายสิบรายการ พอเขาก้าวขึ้นมาระดับอาชีพ ก็เริ่มจากการเป่าให้แก่วงบอยไทย ตามด้วย วงอินฟีนีตี้ วงทีโบนและอีกหลายๆ วง ในยุคเกือบๆ 20 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นมิสเตอร์แซกแมน ก็มาตั้งวงของตัวเองที่ชื่อว่า โอเอซิส และอีกไม่นานก็ตั้งวงขึ้นมาใหม่อีกมีชื่อว่า ฟังก์ แมชชีน ซึ่งไม่ได้เป็นวงรวมดารา แต่เป็นวงรวมเทวดา เช่น คุณจักรวาร มือคีย์บอร์ด และคุณดั๊ก สุทธิพงศ์ มือกลอง ซึ่งในปัจจุบันเรียกว่ามือหนึ่งของเมืองไทย และต่างคนต่างออกไปมีผลงานของตนเอง ซึ่ง 3 คนนี้ถ้าในอดีตเขาไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน ในปัจจุบันก็คงจะต้องเป็นวงในฝันของหลายๆ คน รวมทั้งตัวผมด้วยอย่างแน่นอน
โก้ แซกแมน ในตอนสมัยเด็กเขาก็เลือกที่จะเป่าแซกโซโฟนกับวงโยธวาธิตของ โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี และก็แน่นอนเขาก็ต้องเป็นคนจังหวัดนนทบุรี หลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนพณิชยการพระนครแล้ว มาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้ว จึงออกมาลุยงานดนตรีอย่างเต็มที่ จนกระทั่งมาโด่งดังสุดๆ จากการร้อง เพลงภาวนา หลังจากนั้นก็ออกอัลบั้มออกมาอีกหลายอัลบั้ม ซึ่งบางอัลบั้ม ก็เหาะไปทำถึงประเทศอเมริกา แต่ก็รวบรวมแล้วรวมอัลบั้มทั้งหมด 6 อัลบั้ม นอกจากนี้ โก้ แซกแมนยังขึ้นเวทีคอนเสิร์ตในและต่างๆ ประเทศอย่างมากมาย เคยได้ขึ้นเวทีคู่กับ เอริค เมนเรียลทอล นักแซกโซโฟนเบอร์หนึ่งของโลก รวมถึงเขาได้แจมส์กับอัลบั้มของคนอื่นๆ มากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งอัลบั้มของตัวผมเอง
สำหรับในฉบับนี้ที่ผมเขียนเรื่องของคุณ โก้ มิสเตอร์แซกแมน ก็เนื่องจากว่าในวันที่ 2 และ 3 เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ จะมีคอนเสิร์ตของโก้ มิสเตอร์แซกแมน ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเขาเอง และก็จัดเองเป็นครั้งแรก ซึ่งเขาใช้งบประมาณจัดไม้ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และก็ตั้งใจที่จะทำให้เป็นคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ถึงขนาดยอมทุบกระปุกตัวเอง เอาเงินมาจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ และเชิญนักแซกโซโฟนสาวสวยมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะมาร่วมแจมในงานนี้ รวมถึงมีนักร้องระดับคุณภาพ เจนนิเฟอร์ คิ้ม และตัวผมเองไปร่วมในงานนี้ และไฮไลท์สำคัญของงานนี้ก็คือ ในเพลงสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทุกท่าน นำแซกโซโฟนขึ้นไปเป่าแจมกันบนเวที ชนิดที่เรียกว่า ไม่มีอั้น สนั่นเมืองกรุง
สำหรับตัวผม ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ก็จะมีคอนเสิร์ต ขุนอิน ออฟบีทสยาม ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็จะกลับมาถึงในวันที่ 2 และก็จะมุ่งตรงไปที่ โรงละคร อักษรา คิงพาวเวอร์ เพื่อไปร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ซึ่งผมโดนคุณโก้บังคับให้ เล่นทั้งระนาดเอกและระนาดทุ้ม ในเพลงเดียวกัน ซึ่งก็เป็นครั้งแรกของผมกับโก้ รับรองงานนี้ มันแน่ๆ...แล้วเจอกันนะครับ สวัสดีครับ
"ขุนอิน"



