เปิด2จ.ม.อ้างลายมือพระปราโมทย์ถึง"ฐิตินาถ" | คมชัดลึก

จากกรณีพระปราโมทย์ ปาโมชโช เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถูกร้องเรียนว่ามีเหตุสงสัยเกี่ยวกับการยักย้ายถ่ายเทเงินบริจาคซื้อที่ดินสำนักสงฆ์ 100 ล้านบาท เข้าบัญชีนางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยา ซึ่งข้อกล่าวหาหนึ่งที่ น.ส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรืออ้อย  ไฮโซนักเขียนดัง และกลุ่มชาวพุทธรักพุทธศาสนาออกมาร้องถึงพฤติการณ์ของพระปราโมทย์ก็คือการอ้างตัวว่าเป็นพ่อลูกกัน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาหรือนำมาสู่การบริจาคทรัพย์สินให้พระปราโมทย์หรือสวนสันติธรรมจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 23 กันยายน "คม ชัด ลึก" ได้รับหลักฐานสำคัญเป็นจดหมาย 2 ฉบับ ที่อ้างว่าเป็นลายมือพระปราโมทย์เคยเขียนถึง น.ส.ฐิตินาถ โดยฉบับแรกเขียนเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2548 ความว่า นับแต่ได้สดับ อนุบุพพิกถา จากพระพุทธสิริ พ่อ แม่ ลูกอ้อย และน้องๆ ก็ได้เริ่มเดินทางไกล เพื่อแสวงหา "บ้านที่แท้จริง" ด้วยบุญที่ลูกอบรมแล้วด้วยดี มีการอุปถัมภ์ บำรุง พระอภิภู เณรเจ้า เป็นต้นมา รวมกับบุญของพ่อ ที่ได้กระทำแล้วในพระศาสนา จงเป็นกำลังใจให้ลูกติดตามพ่อ ไปถึง "บ้านที่แท้จริง" ได้โดยพลัน ลงท้ายว่า จากพ่อ ปราโมชโช ภิกขุ 

ส่วนจดหมายฉบับที่ 2 เขียนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2549 เนื้อหาระบุว่า แด่อ้อย ลูกสาวคนโต เป็นเครื่องแทนความเมตตาของหลวงพ่อและเป็นเครื่องระลึกถึงการสร้างสวนสันติธรรมจนสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ใจ โดยลงท้ายว่า "พ่อ"

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากจดหมาย 2 ฉบับดังกล่าวแล้ว หนังสือที่มีผู้ร้องเรียนส่งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) 13 ข้อกล่าวหา ก็พบว่า มีข้อกล่าวหาหนึ่งระบุ กรณีแม่นมที่เสียชีวิตไปแล้วของกรรมการวัดคนหนึ่ง พระปราโมทย์ได้ให้อดีตภรรยาไปขอบัตรประชาชนผู้ตายมา อ้างว่าได้ไปสนทนากับผู้ตาย ซึ่งตกไปอยู่ในภพภูมิที่ไม่มี แต่ได้สั่งสอนจนได้ไปอยู่ในที่ดีแล้วอนุญาตให้เอาเงิน 1 ล้านที่แม่นมได้สะสมมาทั้งชีวิตมาทำบุญกับตนได้ กระทั่งกรรมการวัดดังกล่าวนำเงินมาให้และบางส่วนนำไปซื้อของตามที่พระและชีต้องการ เช่น แอร์ ตู้เย็น เครื่องเสียง โซฟาหนัง เก้าอี้นั่งเล่นชมสวน จักรยานออกกำลังกาย กางเกงขาสั้นรัดรูปยี่ห้อบอดี้โกลฟ 
   
 ส่วนกรณีที่นายธนเดช พ่วงพูล ทนายของสวนสันติธรรมออกตอกย้ำว่า กำลังรวบรวมข้อมูลฟ้องกลับผู้ร้องนั้น นายวีรณัฐ โรจนประภา ประธานมูลนิธิบ้านอารีย์ เปิดเผยว่า รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้หวาดวิตกใดๆ ไม่ได้เป็นการท้าทาย เนื่องจากการที่พระปราโมทย์จะให้ทนายนั้นฟ้องร้องกลับ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้
 นายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธรักพุทธศาสนา ระบุว่า หลังจากนี้กลุ่มชาวพุทธรักพุทธศาสนาจะมีมาตรการที่สูงขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีของพระปราโมทย์ให้ได้ ซึ่งในวันเดียวกัน มีตัวแทนไปยื่นเอกสารแสดงการอวดอุตริของพระปราโมทย์ พร้อมรายชื่อพุทธศาสนิกชนเกือบ 100 คนให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และเจ้าคณะชลบุรีพิจารณาแล้ว 

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ความคืบหน้าในการตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์ ที่ทางมูลนิธิบ้านอารีย์มายื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ให้ตรวจสอบ เนื่องจากทางมูลนิธิบ้านอารีย์ระบุว่าพระปราโมทย์มีการเทศน์ในลักษณะที่อวดอุตรินั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขอข้อมูลเพิ่มเติมจากมูลนิธิบ้านอารีย์แล้ว ทั้งนี้ในการตรวจสอบจะต้องนิมนต์พระผู้ใหญ่มาร่วมในการตรวจสอบด้วย เพราะการที่จะดูว่าการเทศน์หรือคำสอน เป็นไปในเชิงอวดอุตริหรือไม่นั้น จะต้องให้พระผู้ใหญ่ที่มีความรู้มาขยายความ และแปลออกมาให้ตรงกับความจริง จะทำให้ได้คำตอบที่ชัดเจนว่าอวดอุตริหรือไม่ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร
 
ทั้งนี้ ทางสวนสันติธรรมได้ส่งแฟกซ์มาในนามผู้แทนสวนสันติธรรม แจ้งกำหนดการ แถลงข้อเท็จจริง กรณีพระปราโมทย์ถูกกล่าวหา ระบุว่า จะมีการแถลงข้อเท็จจริงในเวลา 08.40 น. วันที่ 25 กันยายน ที่สวนสันติธรรม ซึ่งจะแถลงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนเท่านั้น และให้สื่อมวลชนนำบัตรประจำตัวสื่อมวลชนมาลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ที่โรงอาหาร และช่วงเวลา 08.40-09.40 น. จะให้สื่อมวลชนเข้าชมบรรยากาศการแสดงธรรมของพระปราโมทย์ แต่การบันทึกภาพจะต้องตั้งกล้องไว้ในบริเวณที่กำหนดเท่านั้น จากนั้นในเวลา 09.40 น. จะพาสื่อเดินชมบริเวณโดยรอบของสวนสันติธรรม ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวข้อเท็จจริงโดยนายธนเดช พ่วงพูล ทนายความสวนสันติธรรม