ไลฟ์สไตล์

ยกฟ้อง“อดีตผอ.รพ.-หมอ”คดีขโมยไต

ยกฟ้อง“อดีตผอ.รพ.-หมอ”คดีขโมยไต

23 ก.ย. 2553

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง “ อดีต ผอ.รพ. - แพทย์ รพ.วชิรปราการ ” ผ่าตัดคนไข้ขโมยไต พยานโจทก์ ไร้น้ำหนัก เอาผิด ฐานฆ่า - ปลอมเอกสารบริจาคอวัยวะ คนไข้ผ่าตัดเอาตับ - ไต ปลูกถ่ายคนอื่น

(23ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 และนางหนูแดง และนายเจริญ ดีโยธา มารดา - บิดาของ น.ส.ลัดดา ดีโยธา คนไข้ที่ถูกผ่าเอาไตและตับออกไป ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.พ.สิโรจน์ กาญจนปัญจพล อดีตผู้อำนวยการ โรงพยาบาล วชิรปราการ จ.สมุทรปราการ , น.พ.วีระเดช เลิศดำรงลักษณ์ , นายนันทวิทย์ ธงไชย อดีตผู้จัดการ รพ.วชิรปราการ และ นพ.วิวัฒน์ ถิระพานิช เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม

 โดยคดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องระบุว่า จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันปลอมเอกสารหนังสืออุทิศอวัยวะของ น.ส.ลัดดา ดีโยธา และนางนงค์ พรมมา ต่อมาจำเลยที่ 1 - 2 และจำเลยที่ 4 ได้ร่วมกันผ่าตัดเอาไตและตับของคนไข้ทั้งสองออกไปขณะที่คนไข้ยังไม่ถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปปลูกถ่ายอวัยวะให้ผู้ป่วยรายอื่น เป็นเหตุให้คนไข้ทั้งสองถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2540 หลังเกิดเหตุ ญาติของคนไข้ที่เสียชีวิตได้เข้าร้องเรียนต่อกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับผู้ เกี่ยวข้องดังกล่าว

 ขณะที่ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 ก.พ.48 เห็นว่าแม้หนังสืออุทิศอวัยวะ จะมีการเติมข้อความด้วยลายมือว่า “ ตับ ” ลงในเอกสาร แต่พยานโจทก์ไม่ได้ยืนยันในรายละเอียดว่าเหมือนกับลายมือของจำเลยที่ 1 จึงมีข้ออันควรสงสัยว่าจำเลยที่ 1 จะเป็นผู้เขียนข้อความดังกล่าวลงในหนังสืออุทิศอวัยวะของคนไข้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลยที่ 1 ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม ส่วนในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานนำสืบให้เห็นได้ว่า มีการใช้ยาหรือมีการทำโดยประการใด ๆของพวกจำเลย ทำให้คนไข้ทั้งสองแกนสมองตายโดยเจตนา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า คนไข้ทั้งสองถึงแก่ความตายแล้ว ก่อนที่จะมีการผ่าตัดนำอวัยวะ (ไตและตับ) ออกไป จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง แต่ให้ขัง นพ.สิโรจน์ จำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์

 ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามความผิด ขณะที่จำเลยที่ 1 ได้ประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์
 ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวน ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่มีความผิด ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษานั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องด้วย พิพากษายืน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว น.พ.สิโรจน์ และพวก มีสีหน้าสดชื่น ขณะเดินทางกลับไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ