
ศรัทธาไปหาทุน
ข่าวเรื่องพระปราโมทย์ เป็นประเด็นขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องญาติโยม "บ้านอารีย์" ออกแถลงการณ์เลิกสนับสนุนการทำงานศาสนาของพระปราโมทย์
ด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของทิฐิ และความศรัทธาปสาทะ ซึ่งก็เป็นเรื่องถูกต้องถ้าพบว่าพระไม่ถูกต้อง แล้วญาติโยมถอนตัวออกจากการสนับสนุน มิใช่ว่าจะต้องหนุนกันไปจนไม่ลืมหูลืมตาแบบศรัทธางมงาย
อีกนัยหนึ่งก็น่าจะเป็นข้อควรพิจารณาด้วยว่า ศรัทธาที่หลั่งไหลไปพร้อมกับเงินทองท่วมท้นนั้น แท้จริงแล้วเป็นโทษแก่พระผู้ที่ได้รับกระแสศรัทธาในกาลต่อมาอยู่เสมอ ดังข้อความในพระไตรปิฎกว่า "ลาภ สักการะ และเสียงสรรเสริญเยินยอ เป็นอันตรายอันแสบเผ็ด"
พระที่ได้รับความศรัทธาจากญาติโยมมักจะเสียพระในภายหลัง เพราะโยมที่ศรัทธาพระมักจะนำสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ไปถวายท่านด้วย โดยเฉพาะเงินจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะค่านิยมแบบโลกีย์ที่มองเห็นเงินเป็นแก้วสารพัดนึก พระที่ไม่แข็งแกร่งพอก็จะรับเงินเหล่านั้นไว้โดยลืม คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่าแท้จริงแล้ว "เงินเป็นอสรพิษของพระ"
ญาติโยมผู้ศรัทธาพระรูปใดก็ตาม อย่าได้นำเงินไปถวายพระรูปนั้นเสีย จนทำให้ท่านสำลักเงินและพลอยเสียพระไปในที่สุด อย่าคิดแบบมักง่ายเลยว่าเงินจะใช้ไปเพื่อสนับสนุนพุทธศาสนาเสมอไป เพราะเงินจำนวนไม่น้อย กลับไปสนับสนุนกิเลสที่นอนเนื่องเป็นอนุสัยอาสวะอุปาทานให้เคลื่อนกายย้ายจุดออกมาเป็นตัณหา เงินจำนวนมากจึงทำเรื่องไม่เป็นเรื่องมามากต่อมากแล้ว กลายเป็นว่า ญาติโยมที่เอาใจพระนั่นแหละเป็นผู้ทำลายพระ พูดให้เพราะและพูดให้ชัดก็คือ ญาติโยมที่ชอบทำตัวเป็นแม่ยกพระเอกลิเกนั่นแหละเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาด้วยเจตนาที่แสนดี
พระผู้จะรักษาความเป็นพระไว้ได้นั้นจำเป็นต้องสมาทานชีวิตแห่งความยากจนอย่างแท้จริง หลักการวินิจฉัยพระว่าจะดีอยู่ได้หรือไม่ก็คือท่าน ยังรักษาความยากจนอยู่ได้หรือหาไม่ ถ้าท่านเปลี่ยนจากความจนไปสู่ ความรวยก็ซวยได้แล้ว เสียความเป็นพระแน่นอน ขนาดนักบวชคริสต์ก็ยังมีศีลหลักสามข้อดังนี้ ๑.ความบริสุทธิ์ ๒.ความยากจน ๓.ความนบนอบ
รวมความว่าการนำเงินไปถวายพระนั่นแหละคือการทำลายพระ ญาติโยมควรเป็นโยมปวารณา พระท่านขาดเหลือสิ่งใดก็บอกโยมปวารณาให้จัดหามาถวาย โดยที่พระไม่ต้องเก็บรักษาเงินสดหรือฝากบัญชีธนาคารไว้ เพื่อรักษาพระวินัยที่ว่า "ภิกษุรับเองก็ดี ใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดี ซึ่งทองและเงิน หรือยินดีในทองและเงินที่เขาเก็บไว้เพื่อตน ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์"
ท่านจันทร์
www.prajan.com