ไลฟ์สไตล์

การเดินทางมิตรภาพและกระดาษแห่งความคิดถึง

การเดินทางมิตรภาพและกระดาษแห่งความคิดถึง

19 ก.ย. 2553

“ได้รับโปสการ์ดแล้วนะ ชอบมาก ขอบคุณครับ” ทุกทีที่ฉันได้รับข้อความสั้นๆ ผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมลเกี่ยวกับโปสการ์ดที่ฉันส่งไปถึงเพื่อนๆ และหลายคนที่คิดถึงนั้น ทำให้ฉันรู้สึกดีใจมากๆ อย่างบอกไม่ถูก

 ปัจจุบันการสื่อสารในยุคโลกาภิวัตน์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สังคมมีการแข็งขันสูง ทำให้การสื่อสารต้องรวดเร็ว กระชับ และฉับไวมากที่สุด ซึ่งต่างจากการสื่อสารในยุคสมัยก่อนที่ต้องใช้เวลาและการรอคอย เป็นต้นว่าการเขียนจดหมาย ส่งโทรเลข หรือแม้แต่การเขียนไปรษณียบัตร หรือที่เราๆ เรียกกันจนคุ้นชินว่า “โปสการ์ด” ก็ตาม

 แม้โลกจะเปลี่ยนผ่านและหมุนไปอย่างรวดเร็วเท่าใดก็ตามที อีกฟากหนึ่งของหลายๆ ชีวิตยังคงให้ความสำคัญกับการเขียนจดหมายและส่งโปสการ์ดถึงกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย  หากแต่เมื่อเทียบกับสมัยก่อนก็อาจจะน้อยลงบ้าง

        ทว่าเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การเขียนด้วยลายมือยังเต็มไปด้วยเสน่ห์มากเลยทีเดียว

       ...สำหรับฉันแล้วการเขียนจดหมายด้วยลายมือแทบไม่เกิดขึ้นเลยในกิจวัตรประจำวัน หากแต่การเขียนโปสการ์ดถึงกันและกันฉันยังคงปฏิบัติอยู่เป็นประจำเรื่อยมา เพราะนอกจากเขียนถึงคนที่เราคิดถึงเพื่อบอกเล่าเรื่องเล่าต่างๆ ที่ได้พบเจอ ฉันยังส่งหาตัวเองเพื่อบันทึกความทรงจำระหว่างการเดินทางเก็บไว้อ่านในยามที่ “คิดถึง” ที่นั้นๆ               

  เพื่อนคนหนึ่งได้ให้คำจำกัดความของโปสการ์ดกับฉันไว้ดังนี้ว่า
หนึ่ง  เปิดเผย ไม่มีปกปิด ตรงไปตรงมาเพราะใครอ่านก็ได้  
สอง  เป็นศิลปะของการย่อความลงในพื้นที่เล็กๆ ที่มีอยู่
สาม  มีเรื่องเล่าจากภาพ นอกจากเรื่องเล่าจากถ้อยคำ     
 สี่  เป็นลายมือซึ่งสมัยนี้หาดูยาก
ห้า  เก็บได้นานและหยิบมาอ่านได้ทุกเมื่อ

         สำหรับฉันเองก็ไม่ได้คิดต่างไปจากนี้เลย

         ยิ่งไปกว่านั้น “โปสการ์ด” ยังกลายเป็น “บทบันทึกประวัติศาสตร์ในชีวิตของฉัน” ด้วย 

       ครั้งหนึ่งฉันได้มีโอกาสเดินทางไปรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา แต่ระหว่างทางต้องลงต่อเครื่องที่รัฐซานฟรานซิสโกก่อน  เวลานั้นฉันรู้สึกเสียดายมากที่ไม่สามารถออกจากสนามบินไปบันทึกภาพของเมืองนั้นได้ ทำให้ฉันพลาดการลั่นชัตเตอร์ภาพ “สะพานโกลเด้นเกท” ที่ยิ่งใหญ่ ในเวลานั้น “โปสการ์ด” ที่จำหน่ายในร้านหนังสือของสนามบินซานฟรานฯ เป็นตัวช่วยของฉันในการบันทึกภาพความทรงจำในการเดินทาง เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันบอกตัวเองได้ว่าฉันมาเยือน “ซานฟรานซิสโก” แล้ว 

          นี่กระมังที่ทำให้ฉันรัก “โปสการ์ด” เป็นอย่างมาก

          และคงไม่ผิดถ้าจะเรียกมันว่า “กระดาษแห่งความคิดถึง” เพราะทำให้ฉันคิดถึงที่นั่นทุกครั้งเวลาที่หยิบขึ้นมาดู
   
       ด้วยความที่เป็นคนชอบโปสการ์ดและมีโอกาสถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงเริ่มคิดว่า “ทำไมเราไม่ลองทำโปสการ์ดเองบ้าง” นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำ “โปสการ์ดทำมือ” จากภาพของตัวเอง  บ่อยครั้งในยามที่คิดถึงใครหรือต้องการสื่อสารกับใครสักคน ฉันมักจะส่ง “โปสการ์ดทำมือ” ออกไปเพื่อเล่าเรื่องราวในชีวิต สิ่งละอันพันละน้อยให้คนเหล่านั้นได้รับทราบ
 
          และทุกครั้งที่ฉันเขียนกระดาษใบเล็กๆ แผ่นนั้นๆ ฉันสัมผัสถึง “มิตรภาพ” ที่งอกงามมากขึ้นทุกๆ ครั้งเช่นกัน

“โปสการ์ดทำมือ” ทำได้ง่ายๆ  คุณเองก็สามารถทำโปสการ์ดได้ อุปกรณ์ก็เตรียมหรือซื้อหาได้ทั่วไปในท้องตลาด อันได้แก่ ภาพถ่ายหรือภาพวาด ขนาด 4x6 นิ้ว (ตกแต่งตามชอบใจ), กระดาษ A4 ทั่วไปสีใดก็ได้, กระดาษ A4 ขนาด 120 แกรม, สเปรย์กาว, คัตเตอร์, ไม้บรรทัด, ที่รองตัดหรือเครื่องตัดกระดาษก็ได้ ขั้นตอนการทำก็ง่ายๆ ตามภาพที่ 1-10 ค่ะ เท่านี้คุณก็จะได้โปสการ์ดจากภาพถ่ายของตัวคุณเองโดยฝีมือการสร้างสรรค์ของคุณเองค่ะ

ทุกครั้งที่เดินทางไปในที่ต่างๆ ฉันยังซื้อโปสการ์ดที่ขายเรียงรายตามร้านต่างๆ เสมอ แม้กระนั้นก็ตามก็ไม่เคยลืมพกพาโปสการ์ดทำมือของตัวเองติดตัวไปด้วยเพราะหลายแห่งที่ไปบางแห่งไม่มีโปสการ์ดขายเลย ในช่วงเวลาที่ต้องการบันทึกประสบการณ์ที่พบเจอผ่านโปสการ์ด “โปสการ์ดทำมือของฉัน” ช่วยให้ฉันได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ส่งผ่านไปยังเพื่อนและยังได้บันทึกความทรงจำในช่วงเวลานั้นเสมอๆ
  คุณเองก็สามารถส่งความคิดถึงผ่าน “โปสการ์ด” ได้เช่นกัน...ลองทำดูสิค่ะ...แล้วคุณจะรู้ว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจไม่น้อยเลยทีเดียว

        ด้วยรักและคิดถึง
       

www.oknation.net/blog/Bhirisa