
มทส.ผลิตเครื่องกำจัดลูกน้ำเครื่องแรกของไทย
มทส.ผลิตเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงเครื่องแรกของไทย ตัดวงจรการขยายพันธุ์ เตรียมผลิตแจกจ่าย อปท.หยุดยั้งการระบาดของโรคไข้เลือดออก
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมารายงานว่า หลังจากที่เกิดการระบาดของโรคไข้เลือดออกในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างรุนแรง เฉพาะใน 4 จังหวัด ซึ่งอยู่ในสาธารณสุข เขต 14 ซึ่งประกอบด้วย นครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ และสุรินทร์ พบอัตราผู้ป่วยจากโรคไข้เลือดออกสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 จนถึงวันที่ 4 ก.ย.2553 แล้วจำนวนทั้งสิ้น 9,188 ราย เสียชีวิต 11 ราย ในระยะนี้
หลังจากหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมทำให้มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างดี รวมถึงภาวะโลกร้อนในปัจจุบันก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคแพร่ขยายพันธุ์ได้มากขึ้น ทำให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหามาตรการควบคุม และป้องกันการระบาดของโรคอย่างเร่งด่วน
ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยสาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ได้ทำการวิจัยโดยใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค มาเป็นเครื่องมือกำจัดลูกน้ำยุงได้สำเร็จแห่งแรกของไทย โดยใช้ชื่อว่า “เครื่องกำจัดลูกน้ำยุงโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม” และมีคุณสมบัติใช้กำจัดลูกน้ำยุงได้ผลเต็มประสิทธิภาพ 100 % ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากกองทุนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 3 แสนบาท
โดยเริ่มต้นทำการวิจัยและประดิษฐ์อุปกรณ์กำจัดลูกน้ำยุงด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิคตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2553 ที่ผ่าน จนประสบความสำเร็จในเดือนสิงหาคม 2553 และในวันนี้ ( 15 ก.ย.2553 ) ทางคณะผู้วิจัยนำโดย ผศ.ดร.ชาญชัย ทองโสภา หัวหน้าทีมวิจัย ได้มอบให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งอยู่ในพื้นที่สาธารณสุข เขต 14 ซึ่งประกอบด้วย นครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ได้นำไปเผยแพร่และรณรงค์กำจัดลูกน้ำยังในพื้นที่เบื้องต้นจำนวน 4 เครื่อง
ขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดย ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้สั่งการให้ทีมวิจัย เร่งผลิตเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงจำนวน 300 เครื่องเพื่อแจกจ่ายให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้เป็นจังหวัดนำร่องใช้อุปกรณ์กำจัดลูกน้ำยุงลายให้ได้ภายในปี 2553 นี้ จากนั้นทางมหาวิทยาลัยจะเดินหน้าผลิตเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงเพิ่มมากขึ้นเพื่อออกแจกจ่ายให้ครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสานต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดอัตราการระบาดของโรคไข้เลือดออกที่สร้างความสูญเสียต่อสุภาพชีวิตของประชาชน
ผศ.ดร.ชาญชัย ทองโสภา อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หัวหน้าทีมวิจัยผู้คิดค้นเครื่องกำจัดลูกน้ำยุง ด้วยคลื่นอัลตร้าโชนิค เปิดเผยว่า การวิจัยครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เล็งเห็นถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นจากยุงซึ่งเป็นพาหะนำโรคติดต่อหลายชนิด โดยเฉพาะในปี 2552 ที่ผ่านมาเกิดการระบายอย่างหนักของโรคชิคุนกุนยา รวมถึงโรคไข้เลือดออก , ไข้มาเลเรีย
จึงได้มีการคิดค้นวิธีที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดของโลก โดยเน้นไปที่การกำจัดลูกน้ำยุง ซึ่งถือเป็นการตัดวงจรไม่ให้มีการแพร่พันธุ์ของพาหะนำโรค และคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เนื่องจากการทำลายลูกน้ำยุงที่อยู่อาศัยในแหล่งน้ำ ที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทุกด้าน
ดังนั้นหากการกำจัดลูกน้ำด้วยสารเคมีหรือวิธีอื่นๆ อย่างเช่นทรายอะเบท ซึ่งเป็นทรายเคลือบฟอสเฟสจะก่อให้เกิดมลภาวะต่อแหล่งน้ำ รวมถึงการพ่นสารเคมี เช่น ดีดีที กำจัดตัวเต็มวัย ก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสารเคมีตกค้างต่อสิ่งแวดล้อม ทางทีมวิจัยจึงได้ทดลองนำเอาคลื่นความถี่สูงอัลตร้าโซนิค ที่มีคุณสมบัติในการสร้างคลื่นใต้น้ำทำให้เกิดแรงกระแทกที่รุนแรงมากพอจะทำให้ลูกน้ำยุงที่มีขนาดเล็กได้รับผลกระทบและตายได้ในทันที ตัดวงจรการเจริญเติบโตของยุง แต่ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งจากการทดลองมากว่า 5 เดือน จึงได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกำลังความถี่ที่เหมาะสมในการกำจัดลูกน้ำโดยเฉพาะ ได้ผลการกำจัดเต็มประสิทธิภาพ 100 %
สำหรับส่วนประกอบของเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงนั้น จะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 4 ส่วนหลัก คือ 1. ต้นกำเนิดพลังงาน ที่จะใช้เป็นแบตเตอร์รี่ขนาด 12 โวลท์ 2.ชุดแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นกระไฟฟ้าสลับขนาด 220 โวลท์ 3.วงจรกำเนิดคลื่นความถี่สูงย่านอัลตร้าโซนิค และ 4. หัวพรีโซ่อิเลคทรอนิกส์ ที่จะใช้เป็นตัวปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงอัลตร้าโซนิคออกไปกำจัดลูกน้ำ โดยหลักการทำงานก็จะเริ่มจากแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับผ่านวงจรเรียงกระแสไฟฟ้ากำลังสูงให้ได้แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่ประมาณ 15 แอมป์
เพื่อใช้เป็นแหล่งจ่ายที่ภาควงจรสวิทช์และวงจรขยายกำลังภายในวงจรกำเนิดคลื่นความถี่สูงย่านอัลตร้าโซนิค ที่จะมีความสามารถในการปรับสัญญาณจนได้คลื่นอัลตร้าโซนิคขนาด 40 กิโลเฮิร์ท ปล่อยออกผ่านทางหัวพรีโซ่อิเลคทรอนิกส์ และจะมีรัศมีการทำลายลูกน้ำยุงรอบหัวปล่อยคลื่น 1 ฟุต เหมาะสำหรับการใช้กำจัดลูกน้ำยุงภายในสถานที่เก็บน้ำในบ้านเรือน อย่างเช่นโอ่งน้ำ เป็นต้น และหากจะนำไปใช้กำจัดในแหล่งนี้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถที่จะแกว่งหัวปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิคไปรอบๆแหล่งน้ำ ซึ่งหากลูกน้ำยุงได้รับแรงกระแทกจากความถี่คลื่นอัลตร้าโซนิคก็จะตายภายใน 1 วินาที และสามารถใช้อุปกรณ์นี้ติดต่อกันได้นานถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ชาร์ทแบตเตอรี่เติมไฟใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนราคาต้นทุนการผลิตอุปกรณ์เครื่องกำจัดลูกน้ำยุงชนิดนี้นั้น ใช้ต้นทุนประมาณเครื่องละ 4,000 บาท ซึ่งขณะนี้ได้รับความสนใจจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขเป็นอย่างมาก และทางมหาวิทยาลัยกำลังเร่งผลิตเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำไปใช้กำจัดลูกน้ำยุง ตัดวงจรการแพร่ระบาดของยุง เพื่อป้องกันการระบาดของโรคต่างๆที่มียุงเป็นพาหะนำโรค โรคไข้เลือดออกที่เกิดการระบาดอย่างหนัก