บัณทิตแพทย์ดีเด่นเน้นตามรอยพระบิดาแพทย์ไทย | คมชัดลึก

  ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานคณะกรรมการคัดเลือก เปิดเผยถึงเกณฑ์การพิจารณาว่าจะคัดเลือกจากผู้สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ จากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ โดยมีผลการเรียนระดับดีมากอย่างสม่ำเสมอตลอดหลักสูตร ควบคู่กับพิจารณาถึงความสามารถพิเศษ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ และมีคุณธรรมจริยธรรม อุทิศตนตามรอยพระราชจริยวัตรของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งรางวัลบัณฑิตแพทย์ดีเด่นประจำปี 2553 ได้แก่ พ.ญ.กนกวรรณ ภิญโญพรพาณิชย์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะที่รางวัลบัณฑิตทันตแพทย์ดีเด่น ได้แก่ ทพ.ญ.วรกัญญา บูรณพัฒนา จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เช่นกัน

 ในส่วนของการจัดนิทรรศการนั้น ศ.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการจัดนิทรรศการ กล่าวว่า นอกจากการเฉลิมพระเกียรติพระราชประวัติของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ และเฉลิมพระเกียรติในพระปรีชาญาณและพระกรณียกิจ อันเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อวงการต่างๆ ให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว ยังจัดให้มีกิจกรรมการบรรยายพิเศษเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการแพทย์โดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และให้บริการด้านสุขภาพและอนามัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ 

  ขณะที่ พญ.กนกวรรณ วัย 23 ปี แพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  กล่าวว่า ส่วนตัวได้น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จฯ พระบรมราชชนก ที่ว่า ไม่ต้องการให้เป็นหมอเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการให้เป็นคนด้วย เป็นคติประจำใจ เพราะการดูแลคนไข้นั้นไม่ ใช่เป็นเพียงการรักษาโรค แต่เป็นการเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วยทั้งทางกายและจิตใจ

 ส่วน ทพ.ญ.วรกัญญา ผู้ที่ได้รับรางวัลบัณฑิตทันตแพทย์ดีเด่น วัย 24 ปี ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า รู้สึกประทับใจพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งพระองค์ท่านเป็นผู้วางรากฐานการศึกษาด้านการแพทย์ของไทย อีกทั้งยังทรงพระราชทานทุนการศึกษาให้นักศึกษาแพทย์ไทยได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิชาแพทย์ยังต่างประเทศ และรู้สึกดีใจที่มีโอกาสสอนหนังสือเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับนักศึกษา อีกทั้งการเป็นอาจารย์ยังทำให้ได้พัฒนาความรู้ตลอดเวลาอีกด้วย 

 สำหรับใครที่ต้องการซึมซับพระจริยวัติอันงดงามของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดารแพทย์ไทย พร้อมทั้งฟังการบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 22-30 กันยายน บริเวณชั้นเอ็ม สยามพารากอน