"โคราจูกุ"พื้นที่แห่งจินตนาการสร้างสรรค์...เยาวชนโคราช | คมชัดลึก

  มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น ประดิษฐ์กระเป๋าผ้า เสื้อทำมือ ปั้นดินเหนียว แสดงดนตรี ถ่ายรูป มีการสานใบลาน ทำผ้าบาติก เต้นบีบอย กีตาร์โฟล์คซอง การเล่นละคร ขายขนมจากน้องๆ วงออเคสตรา วาดรูปเหมือน ลีลาศ เป็นต้น

 กลุ่มเครือข่ายเพื่อสังคมโคราช ที่มี ภารดี เกียรติภิญโญชัย หรือ พี่เหน่ง ผู้ประสานงาน รวมตัวกันมา 2-3 ปีแล้ว แรกๆ ทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้ใหญ่ ช่วงหลังเริ่มเข้าไปเจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กๆ เนื่องจากในจังหวัดนครราชสีมา มีโรงเรียนเยอะที่สุดในประเทศไทย ด้วยการหาพื้นที่ให้เด็กๆ ได้แสดงออก เพื่อค้นหาตัวเอง และนำสิ่งที่ได้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้ โดยกลุ่มอาสาสมัครจะเตรียมงานกันทุกวันศุกร์ ชักชวนน้องๆ มาฝึกซ้อมฝีมือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อุ่นเครื่องก่อนร่วมกิจกรรมในวันรุ่งขึ้น

 งานอาสาสมัครช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็กๆ ปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีจิตอาสา ถือเป็นงานที่สร้างคนให้มีคุณภาพผ่านการกระทำได้อย่างลึกซึ้ง อย่างเช่น ทัฬหธร วรรณวุฒิกุล หรือ ท็อป วัย 24 ปี นักศึกษาปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ผันตัวเองจากผู้ร่วมกิจกรรมโคราจูกุ มาเป็นอาสาสมัครเต็มตัว ด้วยการเป็นเว็บมาสเตอร์ และคอยประสานงานกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้มาร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ ท็อป ยังนำความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับเครื่องบินมาสอนน้องๆ ด้วยรูปแบบง่ายๆ

 "งานบางอย่างผลตอบแทนไม่ใช่ตัวเงินนะ แต่เป็นความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับกลับตอบแทนมา และผมมีความสุขนะ ที่ได้สอนน้องๆ ให้ได้รู้ในสิ่งที่เขาไม่รู้ จริงๆ แล้วสังคมไทยยังมีคนที่ช่วยเหลือสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนอีกมาก" ท็อปกล่าว

     ที่สำคัญการมีพื้นที่ดีๆ เป็นเวทีให้เด็กได้แสดงออก จะช่วยลดปัญหาของเยาวชนได้อีกด้วย กฤษณะ ปรีช์นิธิ วัย 21 ปี แชมป์บีบอยของภาคอีสาน และเพื่อนกลุ่มชมรมบีบอยโคราช มองว่าเป็นโอกาสดีที่เยาวชนจะหันมาทำกิจกรรมกันมากขึ้น เพราะพื้นที่ตรงนี้ทำให้มีโอกาสสอนน้องๆ ที่สนใจการเต้นบีบอย ซึ่งการทำกิจกรรมจะช่วยลดปัญหาของเยาวชนได้ เมื่อมีกิจกรรมให้ทำ พวกเขาก็ไม่ไปยุ่งกับยาเสพติด ตลอดจนเรื่องเพศ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ เพราะเยาวชนทุกคนมีพลังอยู่ในตัวเอง หากมีพื้นที่ได้แสดงออกแถมยังมีเพื่อนเพิ่มขึ้น จะทำให้พวกเขากล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกที่ควร และไม่สร้างปัญหาให้แก่สังคม

 อีกทั้งกิจกรรมเหล่านี้ช่วยเสริมการเรียนรู้เพิ่มเติมจากในห้องเรียนสี่เหลี่ยมที่พวกเขาคุ้นเคย จันทรัสมิ์  จันทรทิพรักษ์ หรือ พี่นุ๊ก สถาปนิกอิสระอาสามาร่วมสอนศิลปะ เล่าว่า เคยสอนน้องๆ วาดรูป ผลปรากฏว่าเด็กเล็กๆ จะวาดรูปคล่อง แทบไม่ถามอะไรเลย เพราะจินตนาการเขายังไม่ถูกจำกัด

 แต่มีน้องคนหนึ่งน่าจะอยู่ ป.3 ถามว่า โจทย์คืออะไร ไม่มีโจทย์ให้เหรอ หรือบางคนก็นั่งนิ่งไปนานโดยไม่วาดอะไร เขาบอกว่าคิดไม่ออก ไม่รู้จะวาดอะไร ซึ่งเรื่องเล็กๆ แบบนี้สะท้อนให้เห็นว่า เด็กไม่เคยถูกสอนให้คิดเหมือนจินตนาการหล่นหายไป

 นอกจากนี้ "โคราจูกุ" ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ว่าที่บัณฑิตจากคณะวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มลสุดา ลิวไธสง หรือ น้องกิ๊ฟ วัย 22 ปี ได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ อย่างการทำสมุดโน้ตทำมือลายเก๋ๆ ก็ลองไปขอความรู้เขามา และคิดอยากลองทำขายเองดูบ้าง ส่วนการเพ้นท์เสื้อก็สนใจอยากลองทำดู อยากลองเล่นกีตาร์โฟล์คซองด้วย

 ตอนนี้เด็กๆ มีโครงการ "โคราจูกุ" แล้ว ไม่แน่นักว่าเหล่าอาสาสมัครเหล่านี้ อาจจะขยายกิจกรรมดีๆ แบบนี้ให้กว้างขวางออกไปอีก อนาคตอาจจะมีโครงการสำหรับผู้ใหญ่ เป็น "ชราจูกุ" ก็ได้ (ฮา) สนใจข่าวสารหรือร่วมเป็นอาสาสมัคร "โคราจูกุ" ได้ที่ http://www.facebook.com/KORAJUKU หรือ http://korajuku.webs.com
           
        0 พัฐอร  พิจารณ์โสภณ 0