
หัวใจไทย-ภาษาไทยอย่างนี้ก็มีด้วย
ว่าไปแล้วการที่จะรักษาภาษาไทยนั้น ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ความถูกต้องของหลักภาษาหรือการใช้ภาษาแต่เพียงประการเดียว เพราะถ้าจะให้แก้ไขปัญหาทางภาษาให้ทั่วถึง ควรจะตามแก้ไปจนถึงเรื่องของลายมือด้วย
ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินคำกลอนของท่านสุนทรภู่ที่ว่า “ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน” กันอยู่บ้าง หากเราดูแต่เพียงวรรคแรก อาจเข้าใจว่าลายมือนั้นคือ เส้นลายมือ มิใช่ตัวหนังสือที่เขียน ก็จะทำให้เข้าใจผิดเลยไปว่า “เส้นลายมือ จะกำหนดความรุ่งเรืองของเจ้าของลายมือ” เหมือนกับว่าลายมือเป็นการทำนายอนาคตไป ซึ่งไม่ใช่ความหมายของบทกลอนที่ยกขึ้นมานั้น
“ลายมือ” ของลูกผู้ชายในที่นี้ คือ ตัวหนังสือที่เขียนขึ้น ทั้งนี้เพราะสมัยก่อนผู้ชายมักจะนิยมเข้ารับราชการ ใครก็ตามที่คิดจะรับราชการจะต้องรู้หนังสือ เขียนหนังสือได้ ซึ่งสาเหตุสำคัญก็น่าจะมาจากการที่สมัยก่อนไม่มีการพิมพ์ มีแต่การเขียน ซึ่งเราคงรู้ว่าเป้าหมายการเขียนก็เพื่อให้คนอื่นอ่าน จึงต้องเขียนดี เขียนสวย เขียนให้ถูกต้อง เขียนให้น่าอ่าน ใครจะเขียนได้อย่างที่ว่านี้ ก็ต้องฝึกฝนจนได้คุณสมบัติเหล่านี้มาเป็นของตน คนในสมัยก่อน จึงมีการฝึกคัดเขียนลายมือกันอย่างจริงจัง จนเขียนตัวหนังสือได้ถูกต้องสวยงาม
หากเราได้ศึกษาภาษาไทยกันให้ลึกซึ้ง เราจะรับรู้ได้ถึงความน่ารักของภาษาและตัวอักษรไทย อีกทั้งรู้เลยว่าภาษาไทยนั้นมีที่มาที่ไปอย่างเป็นเหตุเป็นผล ดังนั้น จึงน่าคิดว่า ถ้าผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนภาษาไทยสามารถทำให้คนไทยเห็นแง่งามของภาษาโดยเฉพาะตัวอักษรไทยได้ เชื่อว่าเราก็คงช่วยกันรักษาไว้ ไม่ทำลายโดยการทำให้ตัวหนังสือไทยน่าเกลียด จนถึงน่ารังเกียจที่จะอ่าน และที่สำคัญต้องอย่าลืมว่า ตัวหนังสือไทยเป็นสมบัติของชาติ เมื่อรักชาติต้องรักสมบัติของชาติด้วย
วันก่อนได้อ่านงานเขียนของ ผศ.พิศศรี กมลเวชช แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่เย้าแหย่เรื่องการอ่านออกเสียงของคนในปัจจุบัน รู้สึกว่าน่ารักดี จึงขอยกมาให้ท่านได้อ่านด้วย
ผศ.พิศศรี เล่าว่า พยัญชนะไทยที่อ่านได้เป็น 2 เสียงมีอยู่ตัวเดียวคือ ฑ ซึ่งออกเสียงเหมือน ด เช่น บัณฑิต มณฑป (อ่านแบบคำเดิมในภาษาบาลี) ซึ่งท่านผู้รู้ให้สังเกตว่า ฑ ที่ออกเป็นเสียง ด มักเป็นคำตาย และออกเสียงเหมือน ท เช่น มณฑล มณโฑ (คนละเรื่องกับ ทร = ซ และคนละเรื่องกับการอ่านคำบาลีในบทสวด) นอกนั้นทุกตัวมีเสียงประจำตัวเสียงเดียว
แต่ที่น่าสนใจคือ ทำไมคนจึงชอบออกเสียงเดือน “กรกฎาคม” เป็น “เดือน กะ-ดั๊ก-กะ-ดา-คม ทั้งๆ ที่ตัว “ร” ในคำว่า “กรกฎาคม” หรือในคำใดๆ ในโลกก็ออกได้เสียงเดียว ตรงกับเสียงตัว R ในภาษาอังกฤษ ไม่มีคำใดมีสิทธิ์พิเศษออกเสียง ร เป็น ด ได้ เอ...แล้วท่านออกเสียงเดือนนี้ว่าอย่างไรกันนะ
นายรัฐศาสตร์ [email protected]