
ร.ร.-ครูผนึกพ่อแม่-เชิดชูเด็กดีกลยุทธ์ล้อมคอก "นักเรียน...นักเลง"
"นักเรียนนักเลง" ยังคงเป็นปัญหาโลกแตกในสังคมไทย!! ล่าสุดฤดูกาลแห่งการไล่ล่าประหัตประหารคู่อริเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง แต่สิ้นสุดลงที่คราบเลือดและรอยน้ำตาของเหยื่อและผู้สูญเสีย แม้แต่เด็ก 9 ขวบก็ต้องมาถูกลูกหลงสังเวยชีวิต ที่น่าห่วงพฤติกรรมเช่นนี้ยังระบาดไปสู่
วิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์ ผอ.โรงเรียนโยธินบูรณะ และ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า กรณีนักเรียนนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำลายกันน่าเป็นห่วงว่ากลายเป็น ”ลัทธิเอาอย่าง” ขึ้น แม้เด็กจะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็ยังเลียนแบบกัน ดังนั้น "ระบบดูแลนักเรียนจึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของโรงเรียน" ซึ่งในส่วนของโรงเรียนโยธินบูรณะวางระบบให้ครูประจำชั้น เครือข่ายผู้ปกครอง กลุ่มบริหารกิจการนักเรียนและกลุ่มโรงเรียนที่อยู่ในโซนเดียวกันช่วยกันดูแลนักเรียน
ผอ.วิทธยา แจกแจงว่า การดูแลนักเรียนนั้นเริ่มแรกในวันมอบตัว จะทำบันทึกประวัตินักเรียนทุกคนทุกระดับชั้น จัดตั้งเครือข่ายผู้ปกครองอยู่ทุกระดับชั้นและมีกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนคอยดูแลประสานงานกับผู้ปกครองและตำรวจ ซึ่งโรงเรียนจัดคาบโฮมรูมให้ครูได้พูดคุยกับนักเรียน หากพบว่าเด็กมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น สูบหรี่ หนีเรียน ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ก็จะเชิญผู้ปกครองเด็กมาพูดคุยเพื่อขอให้ดูแลเอาใจใส่นักเรียนมากขึ้น และให้ครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ขณะเดียวกันครูและเครือข่ายผู้ปกครองแต่ละระดับชั้นก็จะมาพูดคุยกันเพื่อสรุปถึงปัญหาของนักเรียนแต่ละระดับชั้นเพื่อเสนอไปยังกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนจัดกิจกรรม เช่น เยี่ยมบ้านนักเรียน และจะมีการประชุมกันระหว่างกลุ่มโรงเรียนเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันด้วย
"โรงเรียนได้ให้ครูอาจารย์ร่วมกับผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่นักเรียนอย่างใกล้ชิด มีการตรวจค้นอาวุธ สิ่งที่น่าเป็นห่วงเวลานี้คือ เด็กที่ออกจากโรงเรียนไปแล้วมาชักนำรุ่นน้องไปในทางที่ไม่ดี ตรงจุดนี้โรงเรียนต้องดูแลใกล้ชิด ทางโรงเรียนให้ครูตรวจบัตรนักเรียนว่าเป็นนักเรียนหรือไม่และเข้ามาทำอะไรในโรงเรียน หากเด็กคนไหนมีปัญหา เช่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาท โรงเรียนจะไม่ไล่เด็กออกจากโรงเรียน แต่จะให้ครูและผู้ปกครองช่วยกันปรับพฤติกรรมเด็ก แต่ถ้าเด็กพฤติกรรมไม่ดีขึ้น ก็จะหารือกับผู้ปกครองในการหาที่เรียนใหม่ให้แก่เด็กซึ่งบรรยากาศใหม่ๆ จะช่วยให้เด็กดีขึ้นได้ หากเป็นปัญหาระหว่างโรงเรียน โรงเรียนก็จะมาพูดคุยกัน ช่วยกันแก้ปัญหา” ผอ.วิทธยาอธิบาย
ดร.เกษม สดงาม ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี บอกว่า โรงเรียนมีระบบดูแลนักเรียน โดยให้ครูทุกคนร่วมกับผู้ปกครองคอยดูแลช่วยเหลือนักเรียน เน้นปลูกฝังความมีระเบียบวินัย สมัครสมานสามัคคี รู้จักเสียสละและมีจิตสาธารณะโดยให้ครูและนักเรียนทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในรูปแบบของคณะสีซึ่งแบ่งออกเป็น 5 คณะ และมีการประเมินผลโดยศูนย์พัฒนาคุณภาพผู้เรียน
"โรงเรียนได้ขอให้ครูและผู้ปกครองช่วยกันปลูกฝังความมีระเบียบวินัยให้แก่เด็กเพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการทำให้เด็กมีความประพฤติที่ดี มีจิตอาสา และมีโครงการเพชรพิกุลเพื่อจูงใจ สร้างกำลังใจให้เด็กหันมาทำความดีโดยเด็กที่มีความประพฤติดี เมื่อเด็กทำความดีก็จะได้รับยกย่องเชิดชูโดยได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติและโรงเรียนยังเน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของเด็กด้วย” ดร.เกษมแจกแจง
นายรื่น หมื่นโกตะ รอง ผอ.กลุ่มงานบุคคล โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) บอกถึงแนวทางการดูแลนักเรียนของโรงเรียนว่า โรงเรียนมีแนวทางการดูแลนักเรียน 5 ขั้นตอน เริ่ม 1.จากการให้ครูดูแลเอาใจใส่นักเรียนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล 2.แยกเด็กออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ ประเภทแรกกลุ่มเสี่ยงซึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น มาสาย ก่อเหตุทะเลาะวิวาท และกลุ่มดี เช่น เล่นกีฬาเก่ง 3.การส่งตัว หากพบว่าเด็กมีปัญหาเช่นมาสาย ก่อเหตุทะเลาะวิวาทก็จะให้เด็กพูดคุยกับครูและนักจิตวิทยา รวมทั้งเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยกัน 4.การส่งเสริมและพัฒนาซึ่งจะพัฒนาเด็กกลุ่มดี เช่น เล่นกีฬาเก่ง ก็จะสนับสนุนให้เล่นกีฬาเก่งยิ่งขึ้น และ 5.ส่งต่อโดยส่งตัวนักเรียนที่มีปัญหาให้แก่หน่วยงานอื่นๆ เพื่อช่วยปรับพฤติกรรมเด็ก
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์แก้ปัญหา ”นักเรียนนักเลง” ซึ่งเชื่อว่าสามารถนำไปใช้ได้ ทั้งในกลุ่มนักเรียนมัธยมและนักศึกษาอาชีวะ แม้ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะแก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เริ่มต้นลองถูกลองผิดวันนี้ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ดังคำว่า ”คนที่ไม่เคยทำผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย” แล้วปล่อยให้ชีวิตของผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องมาเซ่นสังเวย ”วีรกรรมของนักเรียนนักเลง”
0 ธรรมรัช กิจฉลอง 0 รายงาน