ไลฟ์สไตล์

 "เสื่อกระจูด"ฝีมือชาวบ้านทอน 
ชูลวดลายดั้งเดิมครองใจตลาด

"เสื่อกระจูด"ฝีมือชาวบ้านทอน ชูลวดลายดั้งเดิมครองใจตลาด

08 ก.ย. 2553

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์จักสานหลายชนิดได้ก้าวไปอยู่ในทำเนียบสินค้าขายดี จึงไม่น่าแปลกใจหากของดีประจำถิ่นประเภทเสื่อ, ชะลอม, ตะกร้า และอื่นๆอีกมากมาย จะพาเหรดออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก แต่หากเอ่ยถึงสินค้าเด่น ชุมชนดังที่นำเอาวัตถุดิบมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องจ

  พัชรินทร์ บินเจ๊ะมิง ประธานกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามาน ยอมรับว่า นาทีนี้ต้องพยายามสรรหาไอเดียและรูปแบบการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับตลาดอยู่เสมอ และด้วยน้ำพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานความช่วยเหลือให้เข้ารับการอบรมในโครงการศูนย์ศิลปาชีพ จึงส่งผลให้สามารถยกระดับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐานนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา

 เธอเล่าว่า ได้ก่อตั้งกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามานมาตั้งแต่ปี 2543 ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 35 คนที่ร่วมคิดร่วมทำกันมาตั้งแต่แรกหลังจากที่ใช้เวลาว่างจากการรับจ้างทำประมงมารวมกลุ่มกันทำงานฝีมือจากต้นกระจูดเพื่อการจำหน่าย โดยอาศัยความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลาน จากนั้นจึงเริ่มทดลองนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับดีมากจึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ช่วยให้สมาชิกมีกำลังใจมุ่งมั่นในการพัฒนางานฝีมือมากขึ้น พร้อมกับการหารูปแบบใหม่ๆ มาเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์

 “น้ำพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ส่งเจ้าหน้าที่มาฝึกอบรมเพิ่มความรู้ในการออกแบบการผลิตภัณฑ์ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบ้านทอนเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นด้วยเอกลักษณ์ด้านความงามและความประณีต”
 
 พัชรินทร์ กล่าวต่อว่า เดิมทีผลิตแค่เสื่อกระจูดขาย แต่พอนานๆ ไปตลาดเริ่มอิ่มตัว ประกอบกับสินค้าในลักษณะเดียวกันจากชุมชนอื่นออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ต้องฉีกหนีความจำเจ โดยการทำเป็นสินค้าตัวใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น กระเป๋าถือ กล่องทิชชู ที่รองจานและอื่นๆ แต่ก็ต้องแข่งขันกับคู่แข่งทางการตลาด ซึ่งมีหลายกลุ่มและหลายพื้นที่หันมาหารายได้จากต้นกระจูดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกิดการแข่งขันทางด้านการตลาดค่อนข้างสูงมาก ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์จักสานบ้านทอนไม่สามารถดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากสภาพปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงาน 

 "ลวดลายจะเน้นลวดลายเป็นเอกลักษณะเฉพาะถิ่นดั้งเดิมของพื้นที่เท่านั้น  ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งของเรา ทำให้งานของเรามีคุณภาพและได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังคงแนวทางนี้มาตลอด ปัจจุบันสินค้าที่ผลิตจากกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามานส่งไปจำหน่ายที่ศูนย์ศิลปาชีพ สวนจิตรลดา ก่อนเป็นลำดับแรก ส่วนตลาดรองลงมา คือการออกบูธตามกิจกรรมสินค้าโอท็อปของรัฐที่จัดขึ้นทั่วประเทศ ทำให้สมาชิกมีรายได้เฉลี่ย 3,000 บาทต่อเดือน" พัชรินทร์ กล่าว พร้อมระบุว่า...

 จุดเด่นของผลิตภัณฑ์กระจูดบ้านทอนอามานแห่งนี้ คือ เส้นกระจูดละเอียดเล็ก แต่มีความคงทน เมื่อใช้ไปนานๆ จะมีความแวววาว และที่สำคัญลวดลายของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นลายโบราณของท้องถิ่นซึ่งไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์กระจูดจากพื้นที่อื่นๆ

 การปรับตัวของผลิตภัณฑ์จักสานจากกระจูดบ้านทอน สะท้อนให้เห็นถึงภาพความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและสามารถยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤติความรุนแรงจนนำไปสู่การยกระดับสินค้าเพื่อสร้างรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นได้อย่างน่าประทับใจ  

"สุพิชฌาย์ รัตนะ"