ไลฟ์สไตล์

เส้นทางอาชีพ-สำมะโนประชากรกับคุณมาดี

เส้นทางอาชีพ-สำมะโนประชากรกับคุณมาดี

07 ก.ย. 2553

ช่วงนี้ (1-30 ก.ย.53) จะสังเกตเห็น "คุณมาดี" ออกเดินเคาะประตูบ้านในทุกพื้นที่ ในทุกจังหวัดของประเทศไทย เพื่อสอบข้อมูลพื้นฐานการอยู่อาศัย(จริง)ของสมาชิกในครัวเรือนและสภาพชีวิตความเป็นอยู่โดยทั่วไป หากใครเห็นก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเขามาดีไม่ใช่มาร้ายและโปรดให้

 คุณมาดีเป็นใคร คุณมาดีเป็นตัวแทนของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่มาเก็บข้อมูลรายละเอียดในแต่ละครัวเรือน ตามโครงการการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะ ครั้งที่ 11 ซึ่งมีกำหนดจัดทำพร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศในระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน 2553 และเป็นครั้งประวัติศาสตร์ในโอกาสครบ 100 ปีในการจัดทำสำมะโนประชากร ซึ่งมีการจัดทำครั้งแรกเมื่อปี 2453 หรือในรัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5

 ผมมีโอกาสร่วมสังเกตการณ์การจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะพ.ศ.2553 ที่ จ.นครราชสีมา โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทำให้ได้เข้าใจและทราบถึงวัตถุประสงค์ถึงการทำสำมะโนประชากรและเคหะในครั้งนี้ โคราชนั้นเป็นจังหวัดใหญ่ มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ และเป็นอันดับ 1 ในภาคอีสาน ทำให้ประชากรที่นี่มีความหลากหลายและการเข้าถึงค่อนข้างยาก ทางสำนักงานสถิติฯ จึงยกให้เป็นจังหวัดนำร่องต้นแบบในการทำสำมะโนฯ ครั้งนี้

  จากข้อมูลตามทะเบียนราษฎร์ระบุว่า ในปี 2552 จ.นครราชสีมา มีประชากรทั้งสิ้น 2.57 ล้านคน อำเภอที่มีประชากรมากที่สุดคือ อ.เมืองนครราชสีมา น้อยที่สุด อ.บ้านเหลื่อม แต่หารู้ไม่ว่าตัวเลขจริงๆ นั้นมีเท่าไหร่กันแน่ แม้แต่ผู้ว่าฯ โคราช "ประจักษ์ สุวรรณภักดี" เองก็ไม่สามารถยืนยันได้ โดยเฉพาะประชากรแฝง และผู้ที่ไม่มีงานทำหรือผู้ว่างงาน ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่กันแน่

  ในขณะที่ จีราวรรณ บุญเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ย้ำว่าการจัดสำมะโนประชากรและเคหะครั้งนี้เป็นการจัดทำฐานข้อมูลที่สำคัญของประเทศที่แสดงโครงสร้างและการกระจายตัวของประชากร ณ ที่อยู่จริงในวันสำมะโนประชากร (1 ก.ย.53) ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลชุดนี้ในการกำหนดนโยบายและวางแผนบริหารจัดการจัดสรรทรัพยากรและจัดหาสวัสดิการโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับจำนวนและความต้องการในพื้นที่

  นอกจากนี้ยังเป็นคลังข้อมูลสำหรับรัฐบาลเพื่อจะได้นำสถิติข้อมูลที่สมบูรณ์ไปกำหนดนโยบาย วางแผนและดำเนินการ ภายใต้เป้าหมายความอยู่ดีกินดีของประชาชนคนไทยทุกคน และยังเป็นการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม นำพาประเทศชาติไปสู่ความยั่งยืนต่อไป โดยช่องทางการให้ข้อมูลครั้งนี้จะมี 4 ช่องทางได้แก่ การให้สัมภาษณ์ การตอบข้อมูลส่งกลับ การตอบทางโทรศัพท์คอลเซ็นเตอร์ 1111 กด 6 และการตอบทางอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ www.nso.go.th ซึ่งข้อมูลที่ให้นั้นจะเป็นข้อมูลเฉพาะบุคคล เป็นความลับไม่มีการเปิดเผยอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับคุณมาดีครับ !

 สุรัตน์ อัตตะ
[email protected]