ไลฟ์สไตล์

มือเปื้อนดิน เท้าเปื้อนโคลน หน้าเปื้อนยิ้ม

มือเปื้อนดิน เท้าเปื้อนโคลน หน้าเปื้อนยิ้ม

05 ก.ย. 2553

“หมอจะทำไปเพื่ออะไร ทำแล้วหมอได้อะไร ทำไมหมอไม่เอาเวลาไปวิ่งเต้นตำแหน่งหน้าที่การงานของหมอให้สูงขึ้น คนดีมีความสามารถอย่างหมอน่าจะไปได้ไวนะ”

 หากวันนั้นคุณหมอสามารถ ประสิทธิ์ผล หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี เกิดคล้อยตามคำทักท้วงของเพื่อนๆ ที่พากันรุมคัดค้าน ก็คงไม่มี ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี หรือที่เรียกกันติดปากว่า “บ้าน ช.ช้างชรา” ในวันนี้

 คุณหมอบอกว่า ตัวเองไม่มีคำตอบสำหรับคำถามข้างต้น แต่ถ้าถามว่า

 “ผมทำแล้วช้างได้อะไร ประเทศไทยได้อะไร สองคำถามนี้ผมมีคำตอบครับ อย่างน้อยก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยช้างไทยของเราได้ครับ” ด้วยความมุ่งมั่น ทำให้หมอพยายามรวบรวมเงินทอง บางส่วนหยิบยืมจากทางบ้านบ้าง เพื่อนฝูงบ้าง ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรีได้เป็นผลสำเร็จ

 ฉันไม่ปรารถนาจะเรียกร้องวิงวอนให้ผู้อ่าน “รักช้าง” หรือ “เมตตาสงสารช้าง” ให้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ล้วนหลงรักและพร้อมจะช่วยเหลือช้างตามกำลังและจังหวะที่เอื้ออำนวยอยู่แล้ว แต่ฉันอยากให้เรามาช่วยกันเป็นกำลังใจให้คนทำดี คิดดี อย่างคุณหมอ ให้มีกองเสบียงเพียงพอเพื่อนำพา “บ้านช.ช้างชรา” ให้เป็นบ้านแห่งความสุขของช้างแก่ที่เคยเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย ช้างเหล่านี้ถูกใช้งานหนักจนกลายเป็นช้างพิการ ตาบอด หูแหว่ง บางตัวผ่ายผอมจนเห็นซี่โครงบาน 

 ดังนั้น ในวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา พวกเราเหล่าบล็อกเกอร์โอเคเนชั่น (www.oknation.net) และสมาชิกของโอเคเนเจอร์ จึงได้รวมตัวเดินทางมุ่งสู่ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี บ้านช.ช้างชรา”  เป้าหมายคือ การขนกองเสบียง ข้าวเหนียว และเงินบริจาคสมทบทุนจากพี่น้องบล็อกเกอร์นำไปมอบให้บ้านช.ช้างชรา และรวมพลังกันปลูกพืชอาหารช้าง จำพวกหญ้าบาน่า ต้นกล้วย ต้นข้าวโพด ต้นสับปะรด ต้นฟักทอง ในบริเวณแปลงดินที่ทางศูนย์ตระเตรียมไว้ให้

 พวกเราทั้งเด็กๆ และผู้ใหญ่วัยใกล้ๆ ป้าช.ช้าง ต่างคว้าจอบเสียม และเมล็ดพันธุ์พืช ช่วยกันขุด ช่วยกันปลูก ช่วยกันหยอด ช่วยกันกลบ ลุยงานกันอย่างสนุกสนานเฮฮา ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุจนเหงื่อไหลไคลย้อยไปตามๆ กัน

แต่ละคนมือเปื้อนดิน 
เท้าเปื้อนโคลน
แต่ใบหน้าทุกคน...ล้วนเปื้อนยิ้ม

ต้นไม้เหล่านี้จะค่อยๆ เติบโตเป็นเสบียงอาหารให้ช้างชราอย่างยั้งยืนยาวนานเลยทีเดียว

บ่ายคล้อย เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้ทักทายกับป้าสมบูรณ์ ป้าคำมูล และป้ามาลี ในบริเวณริมแม่น้ำอันร่มรื่น  เราต่างเฝ้ามองบรรดาป้าๆ เล่นน้ำอย่างมีความสุข พอป้าขึ้นจากน้ำก็ประแป้งตัวเองด้วยการใช้งวงตวัดทรายใส่ตัวเอง  ทุกคนพากันเข้าไปทักทายถ่ายรูปกับป้าๆ อย่างใกล้ชิดดุจญาติสนิท ฉันลูบคลำผิวอันหยาบหนาของป้าสมบูรณ์ กับใบหูอันแหว่งวิ่นอย่างเศร้าใจเมื่อจินตนาการถึงอดีตของป้า

“ฉันรู้ว่าป้าคงเหนื่อยเหลือเกิน ที่ต้องเดินเรร่อนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาว แล้วยังโดนเจ้าของขายต่อให้เจ้านายคนใหม่พาไปชักลากซุงในป่าลึก จนหูไปเกี่ยวกิ่งไม้และหนามจนขาดเป็นริ้วๆ พอป้าหมดแรงจะทำงานต่อไป เขาก็ขายต่อเหมือนป้าเป็นสิ่งของไม่มีชีวิตจิตใจ ป้าต้องกลับมาเดินเร่ร่อนขอทานในเมืองอีกครั้งหนึ่ง จากวันเป็นเดือน จากหลายเดือนเป็นหลายปี อดมื้อกินมื้อ ซูบผอมจนน่าสงสาร โชคดีที่มีคุณลุงใจดีทนไม่ได้ จึงเอ่ยปากขอซื้อป้าแล้วนำมาบริจาคให้บ้านช.ช้างชรา วันนี้ในวัย 55 ปี ดวงตาของป้าดูมีความสุข และกินจุจนตัวอ้วนกลมน่ารัก แถมชอบหยอกล้อกับป้ามาลีเพื่อนซี้ที่มาเจอกันที่บ้านอบอุ่นหลังนี้”

  พวกเราโบกมืออำลาป้าๆ หลังจากช่วยกันป้อนอาหารให้ป้าอย่างอิ่มหนำสำราญทั้งคนทั้งช้าง ฉันเดินตามบันทึกภาพสุดท้ายที่ขบวนแถวของป้าจะเดินหายไปในป่าไกลลิบๆ  ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรมที่บ้านช.ช้างชราตลอดวันนี้

 จากนั้นเราเคลื่อนขบวนไปนอนพักที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ และเดินชมเส้นทางธรรมชาติในวันรุ่งขึ้น จนไปปิดท้ายรับประทานอาหารกลางวันแบบปลอดสารพิษที่บ้านกลางทุ่ง Organic Home ในอ.ท่าม่วง ของบล็อกเกอร์เรือนข้าหลวง ซึ่งที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวในแบบโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตเดินคู่ไปกับธรรมชาติตามวิถีชุมชนพอเพียงอย่างเรียบง่าย  เมื่อธรรมชาติกับคำว่า...ชีวิต...มาบรรจบกันอย่างลงตัว....

ฉันฉุกคิดว่าชีวิตคนเราก็แค่นี้ แค่กินอิ่มหลับสบาย แต่เรากลับหยุดใจตัวเองไม่ได้ ยังคงต้องการอะไรอีกมากมายเหลือคณาอย่างไม่มีคำตอบว่า จะเต็มอิ่มตรงจุดใด  บางครั้งความต้องการเลยเถิดจนไปเบียดเบียนให้เพื่อนร่วมโลกเดือดร้อน เฉกเช่นป้าสมบูรณ์และป้ามาลีก็เป็นเหยื่อที่ไม่สามารถตอบโต้หรือปกป้องสิทธิเสรีภาพต่อการกระทำทารุณกรรมกับตัวเองได้ 

เรามีทนายช่วยเหลือเด็กที่ถูกทารุณ  เรามีมูลนิธิช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทุบตี แต่สำหรับช้างเขามีใคร???   ลองแวะไปที่บ้านช.ช้างชรา ณ ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี แล้วคุณจะได้คำตอบว่า ใคร??? คือคนนั้น 


       ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี : บ้าน ช.ช้างชรา  
       หมู่ 4 บ้านหนองหอย
       ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี    
                                                     หมายเลขโทรศัพท์ : 08-1632-2258, 08-1285-6439  
       http://www.elephantsworld.org

www.oknation.net/blog/babymind