ไลฟ์สไตล์

ออกแรงเรียกเหงื่อ เพื่อความฟิต!! “หนูสิ” สิริรัตน เรืองศรี

ออกแรงเรียกเหงื่อ เพื่อความฟิต!! “หนูสิ” สิริรัตน เรืองศรี

28 ส.ค. 2553

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง...ทว่าแต่งในที่นี้ หาใช่เฉพาะการแต่งองค์ทรงเครื่องเท่านั้น แต่เป็นการแต่งเติมสุขภาพเสริมบุคลิกให้งามสง่า ตั้งแต่ข้างในจนเปล่งประกายสู่ภายนอก ตามแบบฉบับของคนสวยที่สุดของเวที ”มิสไทยแลนด์เวิลด์” หมาดๆ อย่าง “หนูสิ” สิริรัตน เรื

 บนชั้น 26 ภายในโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอด เซ็นทรัลเวิลด์ กลายเป็นจุดนัดพบของสาวร่างบอบบาง ย่านบางนา กับสาวสวยร่างโย่งเจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด เพื่อปฏิบัติการกระแชะถามถึงหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ซึ่ง “หนูสิ” วัย 22 ปี ไม่รอช้ารีบอวดเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยให้เธอมีพลังเต็มที่กับด่านกิจกรรมสารพัดชนิดที่ผ่านมา นั่นคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ!!

 “ตอนเด็กๆ หนูสิเป็นเด็กชอบกิน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องหากิจกรรมให้ทำ ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากเล่นกีฬาตามประสาเด็กสาว ทั้งว่ายน้ำ เล่นวอลเลย์บอล เล่นแบดมินตัน ฯลฯ คิดว่าจากจุดนั้นก็ค่อยๆ ซึมซับการออกกำลังกายเรื่อยมา ครั้งหนึ่งนึกอยากเรียนชกมวย แต่คุณแม่ไม่อนุญาต เพราะเห็นว่าเป็นกีฬาที่มีครู ไม่ควรเรียนเล่นๆ จึงหันมาสนใจฟิตเนส โดยเฉพาะตอนอายุ 19-20 ปี จะเล่นเป็นประจำ” สาวงามระดับชาติ เล่าย้อนถึงที่มาของการเป็นหญิงสวยสุขภาพดี

 จากความเชื่อที่ว่าพื้นฐานสุขภาพที่แข็งแรง เป็นเหมือนสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะทำอะไร..ปัจจุบันจึงกลายเป็นนางงามที่รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ใน 1 สัปดาห์ “หนูสิ” จะแบ่งเวลาให้ชีวิตในฟิตเนสอย่างน้อย 3 วัน วันละประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และถ้าเลือกได้ก็จะเน้นออกกำลังกายตอนเช้า เพราะเป็นช่วงที่ท้องว่าง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ขณะที่ช่วงเย็นเจ้าตัวจะเน้นการออกกำลังกายเบาๆ เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและความเมื่อยล้าเท่านั้น

 ติดใจอะไรในฟิตเนส ทั้งที่มีกีฬาอีกนานาชนิด???.. เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด ก็ขยายความพร้อมกับการวอร์มอัพร่างกายเหยียดแข้งเหยียดขาราวกับว่าไร้กระดูก เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นตอนการรีดเหงื่อต่อไปว่า ในฟิตเนส มีสูตรสำเร็จ "ฟิตแอนด์เฟิร์ม!!" เพราะนอกจากเครื่องเล่นนานาชนิดแล้วยังสามารถเล่น “โยคะ” เป็นการออกกำลังกายโดยการเกร็งกล้ามเนื้อมัดในช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น

 จากนั้นก็เป็นการเผาผลาญไขมันและความคล่องด้วยการออกแรงฟาดแขนฟาดขากับ “บอดี้คอมแบต” ก่อนจะปิดด้วยโปรแกรมการนั่งยกเวทสบายๆ เป็นการผ่อนคลายหลังจากออกแรงและกระชับกล้ามเนื้อไปในคราวเดียวกัน ว่าแล้วสาวก้านยาวจึงหยิบนวมมาสวมแล้วเตะต่อยซ้ายขวาด้วยลีลาไม่ต่างจากมืออาชีพ

 ว่าแต่กิจกรรมเรียกเหงื่อที่ช่วยให้หุ่นสวยและแข็งแกร่งแล้ว เธอคนนี้ได้รับสิ่งใดเป็นพิเศษอีกหรือไม่?? โดยไม่รอให้ถามซ้ำ สาวดีกรีความงามระดับชาติ และว่าที่นักกฎหมายรีบแจง อันดับแรกคือ ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งเพราะร่างกายได้ขับของเสียผ่านทางต่อมเหงื่อ ต่อมาก็คือ ด้านจิตใจทำให้เป็นคนร่าเริงอารมณ์ดีส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากหลั่งฮอร์โมนบางชนิด นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ และช่วยทำให้มีสมาธิอีกด้วย

 เท่าที่ฟังมายังไม่เห็นว่าจะข้อเสีย จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า มีบ้างหรือไม่ผลอันไม่พึงประสงค์จากการออกกำลังกาย??? สาวกนักฟิตร่างกายถึงกับปล่อยเสียงหัวเราะพร้อมกับค่อยๆ เอื้อนเอ่ยคำเฉลยปนเขินเล็กๆ ว่า...

 “มีสิคะ ที่หนักสุดก็ตอนเต้นแอโรบิก เพราะมัวแต่เพลินกับเพลงไปหน่อยก็ก้าวขาผิดจังหวะทำให้ข้อเท้าพลิก ส่วนอีกกรณีรู้เท่าไม่ถึงการณ์หักโหมออกแรงหนักไปก็ทำให้มีอาการบาดเจ็บ ซึ่งหากอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนน่าจะดีกว่าสำหรับอุปกรณ์บางชนิด” หนูสิแบ่งปันประสบการณ์ด้านร้ายด้วยเม็ดเหงื่อเต็มใบหน้า

 เล่นแบบเอาจริงเอาจัง (เหมือนสาวบ้าพลัง) หวังจะยึดเป็นอาชีพหรือไม่ “หนูสิ” ในมาดนักกีฬากำลังอยู่ในท่า “เก้าอี้ลม 90 องศา” รีบปฏิเสธยิ้มๆ ตามประสาสาวอารมณ์ดีว่า...เพียงแค่รู้สึกว่าถ้าไม่ได้ออกกำลังพลังงานมันเหลือๆ ก่อนจะฝากความปรารถนาดีมาถึงผู้อ่านอีกซะด้วยว่า..."การทำให้สุขภาพแข็งแรงนั้น จะทำให้พร้อมใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ”

 หากผู้อ่านจะปันเอาวิธีการออกกำลังกายสไตล์ “หนูสิ” ไปใช้ ขอบอกว่ารับรองไม่ได้เรื่องตำแหน่งนางงาม แต่ถ้าเป็นด้านสุขภาพนี่การันตีเต็มที่เชียวคร่า...

เรื่อง : กอบแก้ว แผนสท้าน
ภาพ : อนันต์ จันทรสูตร