ไลฟ์สไตล์

จากผู้นำชุมชนสู่ธุรกิจ-การเมือง 
วันนี้หยุดที่ "เปี่ยมสุข ทุกข์ไม่มี”

จากผู้นำชุมชนสู่ธุรกิจ-การเมือง วันนี้หยุดที่ "เปี่ยมสุข ทุกข์ไม่มี”

26 ส.ค. 2553

วงจรชีวิตคน บางฉากไม่ต่างกับละครน้ำเน่าบนจอแก้ว มีขึ้น มีลง คละเคล้าสลับกันไป บางคนเกิดมาในท้องทุ่งที่แสนยากจน บั้นปลายชีวิตกลายเป็นเศรษฐี บางคนเกิดมามั่งมีบนกองเงินกองทอง สุดท้ายจะหาผ้าดีๆ มาห่อกายแทบจะไม่มี ขณะที่บางคนเสมอต้นเสมอปลายจนแล้วจนเลย แต่อีกบา

     อาวุธ ย้อนอดีตว่า เมื่อครั้งดำเนินชีวิตขาขึ้น เขาเริ่มสู่ตำแหน่งการงานด้านสังคม ได้รับการยกย่องให้เป็นประธานชุมชนย่อยบ้านหนองผักก้าม ใน อ.เมืองเลย กระทั่งได้รับความไว้วางใจจากชาวเทศบาลเมืองเลยเลือกเขาเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเลย 2 สมัย จนได้รับตำแหน่งเทศมนตรีเมืองเลย, เป็นสมาชิกสโมสรโรตารี่, กรรมการ บริษัท อมรวัฒนาเลย จำกัด, ประชาสัมพันธ์สมาคมพ่อค้า จนเขามั่นใจว่าเสียงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อเขา จึงขยับตัวขึ้นเวทีการเมืองระดับชาติ ด้วยการลงมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จ.เลย ถึง 2 สมัย คือในปี 2548 และ 2550 แต่ไปไม่ถึงดวงดาว เขาจึงรู้ถึงสัจธรรมอย่างแท้จริงว่า เส้นทางการเมืองระดับชาติไม่ง่ายอย่างที่คิด

 กระนั้น อาวุธ ไม่ย่อท้อ พยายามเพิ่มดีกรีให้ตัวเอง ด้วยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจนจบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์และบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และปริญญาโทรัฐศาสตร์การปกครอง จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง จ.เลย และระหว่างที่กำลังศึกษา เขาชวนภรรยา ปักหลักเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เพื่อเป็นการพยุงฐานะของครอบครัวให้อยู่รอดต่อไป ถึงวันนี้ร้านเปิดมาได้แล้วกว่า 1 ปี

  "ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับเศรษฐกิจไม่ดี มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองค่อนข้างรุนแรง ผมคิดว่าน่าจะปักหลักทำมาหากินเงียบๆ เพื่อครอบครัวอยู่ได้น่าจะดีกว่า จึงหันมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอย่างเต็มตัว มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด เนื้อเปื่อย-ลูกชิ้น มีเส้นเล็ก หมี่ขาว เส้นใหญ่ บะหมี่ วุ้นเส้น เกาเหลา ขายชามละ 30 บาท พิเศษ 40 บาท นอกจากนี้ยังมีข้าวขาหมู และเครื่องดื่มไว้คอยบริการอีกด้วย" อาวุธ กล่าว

 ช่วงเวลากว่า 1 ปีที่เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว อาวุธบอกว่า มีลูกค้ามาอุดหนุนในระดับที่น่าพอใจและอยู่ได้ อย่างวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ ลูกค้าเฉลี่ยวันละ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ทั้งนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีลูกค้าเฉลี่ยวันละ 300 คน เนื่องจากมีทั้งลูกค้าประจำและขาจรที่เข้ามาติดต่อ หรือทำธุระในตัวเมืองเลยก็จะมาอุดหนุนตลอดทั้งวัน ทำให้มีรายได้วันละ 6,000-7,500 บาท หักต้นทุนแล้วก็สามารถอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน

 ก็นับเป็นนักสู้ชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่ดีอีกคนหนึ่ง แม้ครั้งหนึ่งของชีวิตไปสู่จุดที่สูง เคยมีหน้ามีตาในสังคม เมื่อยุคนั้นหมดไปก็พร้อมสู่จุดสามัญหากินด้วยความสุจริตเหมือนเดิม

"บุญชู ศรีไตรภพ"