
รพ.มธ.ใช้ผิวข้อเข่าเทียมช่วยผู้ป่วย
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จัดถ่ายทอดสอนนวัตกรรมใหม่ในการผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จากห้องผ่าตัด โดย ผศ.นพ.ณัฐพล ธรรมโชติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด
สาขาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า อาการของโรคข้อเข่าเสื่อมเกิดได้จากภาวะชราภาพ เป็นโรครูมาตอยด์/โรคเกาต์ การเกิดอุบัติเหตุและน้ำหนักตัวมาก โดยคนเอเชียมีอาการข้อเข่าเสื่อมมากกว่าคนในภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ มีการใช้ข้อเข่ามาก ส่วนใหญ่เกิดในคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตร เนื่องจากสูญเสียแคลเซียมค่อนข้างมาก ทั้งนี้ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยเริ่มน้อยลง เป็น 45-50 ปี ผู้ที่เป็นจะมีอาการของโรค 4-5 ปี ก่อนที่โรคจะพัฒนาจนถึงขั้นต้องผ่าตัด และพบมากขึ้นในกลุ่มที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ผศ.นพ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า วิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม มีหลายวิธีขึ้นกับพยาธิสภาพและอาการของผู้ป่วย เช่น การรักษาด้วยวิธีการส่องกล้อง จัดกระดูก เปลี่ยนผิวข้อเข่าบางส่วน เปลี่ยนผิวข้อเข่าทั้งหมด รวมทั้งการนำเทคโนโลยี ผิวข้อเข่าเทียมรุ่น CR 150 ตอนนี้มีใช้ในโรงพยาบาลในไทย 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวัชระ และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็ได้เลือกใช้รุ่น CR 150 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เนื่องจากเป็นการรักษาเอ็นไว้ได้มากกว่าการผ่าตัด อีกทั้งยังเหมาะแก่ผู้ที่ขาโก่งเนื่องจากข้อเข่าเสื่อม
“หากมีอาการเริ่มต้น เช่น รู้สึกปวดตื้อๆ เจ็บแปลบๆ ควรรีบมาพบแพทย์ อย่าคิดว่าเป็นโรคข้อเสื่อมเป็นโรคคนแก่ ปวดก็กินยาเองหรือไม่ยอมเดิน หยุดเคลื่อนไหวเพราะอาการเจ็บปวด ผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อมอาจกลายเป็นผู้มีน้ำหนักเกินเพราะขาดกิจกรรมการเคลื่อนไหว หรือกล้ามเนื้อฝ่อตัวลง และที่เลวร้ายที่สุดคือการกินยาแก้ปวดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจส่งผลถึงอวัยวะอื่นๆ จนกลายเป็นโรคเรื้อรังอื่นๆ จนไม่สามารถรักษาได้” ผศ.นพ.ณัฐพล กล่าว