
เลี้ยงไข่ต้ม8วันทดสอบความพร้อมเป็น"พ่อ"กลุยทธ์สอนเด็กไม่ชิงสุกก่อนห่าม
นักเรียนชั้นม.5 ของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยทุกคนต้องเลี้ยงไข่ต้มติดตัวตลอดเวลา 8 วันเต็มไม่ว่ามันจะแตกหรือเน่าส่งกลิ่นรัญจวนออกมาแค่ไหนก็ห้ามทอดทิ้งไข่น้อยๆ ของตัวเอง นำมาซึ่งความเบื่อหน่าย สุดแสนรำคาญให้หนุ่มๆ ทั้งหลาย
แต่นี่คือ วิธีสื่อให้พวกเขาเข้าใจภาระของคนที่เป็นพ่อ เข้าใจความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นในชีวิตถ้าต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นพ่อแต่เด็ก จากการชิงสุกก่อนห่าม เมื่อเด็กได้เห็นแจ้งแล้วทำให้เขามีสติยั้งคิด ชะลอการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรได้
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสอนเพศศึกษานักเรียนชั้นม.5 ของ "อาจารย์นคร สันธิโยธิน" เจ้าของห้องกุหลาบขาวที่โด่งดังเมื่อ10 ปีก่อนผู้บุกเบิกการสอนให้นักเรียนรู้จักวิธีใช้ถุงยางและการป้องกันตัวอื่นๆ ชื่อทางการของกิจกรรมดังกล่าว คือ ไข่ต้มกับผมเอง"
กติกาของ"ไข่ต้มกับผมเอง"จะให้เด็กทุกคนนำไข่ต้ม1 ฟองมาให้อาจารย์นคร เซ็นชื่อลงบนเปลือกไข่ จากนั้น ทุกคนจะต้องเลี้ยงดูไข่อย่างดี พกติดตัวไปด้วยทุกที่เป็นเวลา 8 วันไม่ว่าไข่จะอยู่ในสภาพใดเมื่อครบกำหนดแล้วจึงค่อยพาไข่ต้มใบเดิมที่มีลายเซ็นมาส่งคืน แต่เพื่อความขลังและป้องกันการทุจริต อาจารย์นคร เติมน้ำจิ้มโดยเพิ่มคำพูดข่มขวัญ ขอให้คนที่โกงสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แค่นี้ทุกคนก็เสียว พกไข่ติดตัวตลอดเวลาจริงๆ ไม่กล้าเสี่ยงเล่นนอกกติกา
แน่นอนการพกไข่ติดตัวตลอดเวลาไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะย่างเข้าวันที่ 5 ไข่ของหนุ่มๆก็จะเริ่มเน่าส่งกลิ่นโชยออกมารบกวนคนรอบข้าง อาจารย์นครเล่าว่านักเรียนรายหนึ่งพกไข่ต้มที่เริ่มเน่าส่งกลิ่นโชยไว้ในเป้ขึ้นรถประจำทาง ต้องถูกคุณยายซึ่งทนเหม็นไม่ไหวสอบถามถึงที่มาของกลิ่นเหม็นที่อยู่ในเป้ ก่อนจะถูกคนทั้งรถหัวเราะขำที่เจ้าตัวต้องอดทนดูแลไข่เน่าตามคำสั่งครู
ขณะที่นักเรียนอีกรายเล่าให้ฟังว่า ต้องอธิบายกับเจ้าหน้าที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งอยู่นานกว่าจะยอมให้นำไข่ต้มเข้าไปในห้องเรียน เพราะที่นั่นมีกฎห้ามนำอาหารเข้าไป เด็กต้องอธิบายว่า เป็นคำสั่งของอาจารย์ที่โรงเรียน เจ้าหน้าที่ถึงยอมให้แต่ก็ฝากคำพูดไล่หลังว่า "อาจารย์นครท่าจะบ้า"
ตัวอย่างเล็กน้อยนี้คือ ส่วนหนึ่งของความยากลำบากในการเป็นพ่อแม่คนที่ อาจารย์นคร อยากสื่อให้เด็กเข้าใจ อาจารย์นครอธิบายว่ากิจกรรมนี้ต้องการใช้ไข่ต้มสื่อให้เด็กเข้าใจภาระแสนสาหัสในการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ ซึ่งตั้งแต่ลูกลืมตามาดูโลกก็จะไม่มีวันหยุดทำหน้าที่ได้แม้แต่วินาทีเดียว เหมือนกับการที่นักเรียนต้องพกไข่ไว้ใกล้ตัวในทุกๆ สถานที่ตลอด 8 วันเต็ม
เมื่อครบ8 วันอาจารย์นครจะชวนเด็กๆนำประสบการณ์การดูแลไข่ 192 ชั่วโมงมาแลกเปลี่ยนกันพร้อมเฉลยให้เข้าใจความหมายของการให้เลี้ยงไข่ต้ม จากนั้นก็จะให้นักเรียนสำรวจตัวเองว่า พร้อมที่จะเป็นพ่อคนแล้วหรือยังในเวลานี้
กิจกรรมนี้ทำมาแล้ว3 รุ่นนักเรียน ม.5 รุ่นหนึ่งมี605 คนมีคนตอบว่า ตัวเองพร้อมเป็นพ่อแค่ 3 คนอีก 602 คนบอกอย่างพร้อมเพรียงว่า ไม่พร้อม"
อาจารย์นครเล่าต่อว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะเด็กๆ รู้สึกว่า มันเป็นภาระ ทำอะไรก็ไม่สะดวก เป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่เป็นอิสระ ต้องหอบหิ้วไข่ไปทุกๆ ที่ ต้องคอยตอบคำถามของผู้คน โดยเฉพาะสาวๆ ในโรงเรียนกวดวิชา เราก็จะดึงประสบการณ์ตรงนี้มาสอนให้เขาคิดตามว่า ถ้าเขาเป็นพ่อคนเมื่อไหร่ ก็ต้องคอยตอบคำถามผู้คน ต้องคอยดูแลลูกทุกที่ทุกเวลาซึ่งยากกว่าการดูแลไข่หลายเท่า และไม่ว่าลูกจะเลวอย่างไรเหมือนไข่ที่เน่า ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเขา เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่พร้อมสำหรับภาระอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ก็ยังไม่ควรชิงสุกก่อนห่าม
อาจารย์นคร บอกด้วยว่า กิจกรรมดังกล่าวประสบความสำเร็จพอสมควร สามารถสร้างทัศนคติทางเพศที่ถูกต้องให้แก่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัมพันธภาพทางเพศ พฤติกรรมทางเพศ ทักษะชีวิต ซึ่งจะช่วยชะลอการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของเด็กได้
พงษพิศิษฐ์กลิ่นสุวรรณ หรือ ตั๊ม นักเรียนชั้น ม.6/1 ซึ่งเคยผ่านการเลี้ยงไข่ต้มมาก่อนบอกกับเราว่า คนอื่นอาจคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นช่วงเวลาลำบากสุดที่ต้องดูแลรักษาไข่ต้มไว้อย่างดีตลอด 8 วันเต็มต้องคิดวิธีเก็บรักษาอย่างดีไม่ให้ไข่แตก อย่างตัวเองจะใช้วิธีพันไข่ด้วยสำลีแล้วเก็บไว้ในขวดแก้วปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นออกด้วย
เวลาจะเตะบอลก็ต้องเอาไข่ไปฝากเพื่อนไว้เตะบอลเสร็จก็กลับมาดูแลต่อ เวลาเรียนก็ต้องเก็บไว้ในเก๊ะ กลับบ้านก็ต้องเก็บไว้ข้างเตียงเพราะอาจารย์บอกให้พกติดตัวตลอด มิฉะนั้นจะแช่งให้เอนท์ไม่ติด"
อย่างไรก็ตามตั๊มเข้าใจความหมายที่อาจารย์นคร ต้องการสื่อให้เข้าใจถึงความยากลำบากในการเป็นพ่อคน ซึ่งตัวเขาเองยืนยันว่า คงไม่ไหวแน่ถ้าต้องมีลูกตั้งแต่อายุแค่นี้ คงโตขึ้นให้มีความพร้อม มีความสามารถก่อน จึงจะสามารถดูแลคนคนหนึ่งได้
และตั๊ม ก็เข้าเส้นชัยตามเป้าหมายของอาจารย์นคร เมื่อเขาบอกเราว่า เมื่อเรายังไม่พร้อมสำหรับการเป็นพ่อแม่คน ก็ยังไม่ควรที่จะมีเซ็กส์ในวัยมัธยม อาจคบหาเป็นแฟนกันได้ แต่เรื่องนั้นรอไว้ก่อน เพราะขนาดดูแลไข่ต้มใบเดียวยังแทบแย่เลย
0 สุพินดาณ มหาไชย 0