
ชีวิตเป็นสุขได้ด้วย "เกษตรพอเพียง" อีกก้าวสมาชิกสหกรณ์พิชัยภูเบนทร์
หลังใช้ชีวิตในเมืองหลวงอยู่พักใหญ่ในที่สุดก็ต้องเดินทางกลับบ้านเกิด ด้วยความหวังว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกอีกครั้ง สำหรับ "กัณยวีร์ ไกรกังวาลย์กุล" เกษตรกรแกนนำสหกรณ์นิคมพิชัยภูเบนทร์ จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 4 ต.ไร่อ้อย อ.พิชัย จ.
"เมื่อก่อนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ปีที่แล้ว (2552) กลับมาอยู่บ้านมาดูแลพ่อไม่สบาย พอดีสหกรณ์มีโครงการพัฒนาอาชีพก็เลยสมัครเข้าร่วมเมื่อปี 2553 จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จากนิคมสหกรณ์พิชัยมาคอยให้คำแนะนำและจัดอบรมวิธีทำเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ และการทำเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง จากนั้นก็พาไปดูงานตามที่ต่างๆ แล้วก็มอบปัจจัยการผลิตมาให้ทดลองทำดู" กัณยวีร์เผย
บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ในบริเวณบ้านพักอาศัยถูกแปลงสภาพให้เป็นสวนเกษตรผสมผสานตามโครงการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินการ ซึ่งได้แก่การปลูกมะนาวในวงบ่อ การปลูกพืชผักสวนครัว การปลูกไม้ผล การทำน้ำหมักชีวภาพ หรือปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำ สูตรบำรุงและสูตรฆ่าแมลง โดยปัจจัยการผลิตต่างๆ เช่น เมล็ดพันธุ์และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เบื้องต้นสหกรณ์จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 บาทสำหรับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการแต่ละรายเพื่อเป็นการนำร่อง ส่วนปัจจัยการผลิตในรอบต่อไปสมาชิกจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง
ยอมรับว่าหลังเข้าร่วมโครงการ ทำให้มีรายได้จากการขายผลผลิตทุกวัน เฉลี่ยวันละ 200-300 บาท จากเมื่อก่อนที่รายได้จากการขายข้าวเปลือกปีละ 1-2 ครั้ง เนื่องจากครอบครัวมีอาชีพหลักคือทำนา หากปีไหนฝนฟ้าไม่ดี ก็ทำนาได้ปีละครั้งเท่านั้น เนื่องจากต้องพึ่งพาน้ำฝนอย่างเดียว นอกจากนี้ยังสามารถลดรายจ่ายลงได้มาก โดยอาศัยพืชผักที่เราปลูกและปลาที่เลี้ยงไว้เป็นอาหารในแต่ละวัน
"เริ่มจากปลูกมะนาวในวงบ่อ 25 ต้น ปลาดุก 300 ตัว กบ 200 ตัว นอกจากนี้ยังมีพืชผักสมุนไพรอีกหลายชนิด ทั้งปลาดุกและกบที่เลี้ยงไว้ได้ขายแล้ว โดยปลาดุกจะขายกิโลละ 50 บาท ส่วนกบกิโลละ 100 บาท กิโลหนึ่งก็ประมาณ 5-6 ตัว มีคนมาซื้อทุกวัน มีรายได้เฉลี่ยวันละ 200-300 บาท หรือเดือนละประมาณ 3,000-4,000 บาท ก็ถือเป็นเงินเก็บเพราะค่าใช้จ่ายแต่ละวันเกือบจะไม่มี" เกษตรกรแกนนำคนเดิมระบุ
ด้าน อัชฌา สุวรรณนิตย์ ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์พิชัย กล่าวเสริมว่า สหกรณ์นิคมพิชัยภูเบนทร์ เป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่อยู่ในความดูแลของนิคมสหกรณ์พิชัยที่มีการส่งเสริมอาชีพการเกษตรแบบครบวงจรตามโครงการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่สมาชิกสหกรณ์ในนิคม โดยในปีงบประมาณ 2553 ดำเนินไปทั้งสิ้น 200 กว่าราย จากจำนวนดังกล่าวสหกรณ์ได้คัดเลือกเกษตรกรแกนนำจำนวน 13 รายเพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินงานและเป็นแกนนำในการส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ในเครือข่ายต่อไป
"นิคมสหกรณ์พิชัยรับผิดชอบดูแล 2 สหกรณ์ คือ สหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนาและสหกรณ์นิคมพิชัยภูเบนทร์ แต่ที่พิชัยภูเบนทร์จะพิเศษกว่าสหกรณ์อื่นๆ ก็คือเป็นสหกรณ์นำร่องโครงการโฉนดชุมชนตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ จึงมีความจำเป็น ทั้งในเรื่องการพัฒนาอาชีพ การสร้างรายได้ ลดรายจ่ายโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับสมาชิก จึงต้องดำเนินการแบบเข้มข้น ลำพังเจ้าหน้าที่คงไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัยเกษตรกรแกนนำที่เป็นคนรุ่นใหม่มาช่วย คุณกัณยวีร์ก็เป็นอีกคนที่มาช่วยตรงนี้" ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์พิชัยกล่าวทิ้งท้ายอย่างภูมิใจ
" สุรัตน์ อัตตะ"