
ริดสีดวงทวารหนัก (2)
อาการ การยื่นออกมาของริดสีดวงทวารหนัก อาจทำให้ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก หรือก่อให้เกิดความกังวลแก่ผู้ป่วย นอกจากนี้ การที่เยื่อบุทวารหนักผลิตน้ำเมือกออกมาโดยธรรมชาติ เพื่อเป็นน้ำหล่อลื่นนั้น
เมื่อเยื่อบุยื่นออกมาภายนอกก็ยังคงมีมูกเมือกไหลออกมาเหมือนเดิม ทำให้ผู้ป่วยทวารหนักเปียกแฉะ บางครั้งเกิดอาการคัน หรือระคายเคืองบริเวณทวารหนัก
อาการเจ็บปวดส่วนใหญ่มักเกิดจากริดสีดวงทวารหนักชนิดภายนอก เมื่อเส้นเลือดดำใต้เยื่อบุเกิดการฉีกขาด และมีเลือดออกแข็งตัวเป็นลิ่มเลือด (blood clot) อยู่ภายใต้ผิวหนัง จนเกิดเป็นก้อนดำๆ ใต้ผิวหนังปากทวารหนักและนูนออกมา ก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก เพราะบริเวณปากทวารหนักจะมีเส้นประสาทเลี้ยงจำนวนมาก
ส่วนริดสีดวงทวารหนักชนิดภายใน มักไม่ค่อยมีอาการเจ็บปวด แต่จะเกิดความเจ็บปวดก็ต่อเมื่อหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนัก แล้วดันกลับเข้าไปไม่ได้ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จนเกิดเลือดดำคั่งและบวมอย่างมาก ยิ่งบวมก้อนใหญ่ขึ้นก็ยิ่งดันกลับไม่ได้ ก็เกิดเลือดดำคั่งมากขึ้น จนเลือดแดงไม่สามารถไหลเวียนมาเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนี้ได้ ผู้ป่วยเจ็บปวดอย่างมาก
สรุปแล้ว อาการของริดสีดวงทวารหนัก มีดังนี้
1.เลือดสดๆ ออกมาตามหลังอุจจาระ
2.ก้อนยื่นออกมาจากทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระ
3.คันรอบๆ ปากทวารหนัก
4.เจ็บปวดบริเวณทวารหนัก โดยเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ
5.คลำเจอก้อนที่บริเวณทวารหนัก
ปัจจัยที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก
ที่พบได้บ่อย พอสรุปได้ดังนี้
1.ภาวะท้องผูกเรื้อรัง
2.ท้องเสียถ่ายอุจจาระบ่อยๆ
3.อุปนิสัยเบ่งอุจจาระอย่างมาก เพื่อพยายามขับอุจจาระก้อนสุดท้ายให้ออกไป
4.อุปนิสัยใช้เวลานั่งถ่ายอุจจาระนาน เช่น อ่านหนังสือขณะถ่ายอุจจาระ
5.ชอบใช้ยาสวนอุจจาระ หรือยาระบายพร่ำเพรื่อเป็นประจำ เกินความจำเป็น
6.หญิงตั้งครรภ์ทำให้ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก และเลือดดำในอุ้งเชิงกรานไหลกลับสู่ตับไม่สะดวก เนื่องจากความดันภายในช่องท้องเพิ่มขึ้น
7.ภาวะโรคตับแข็ง ทำให้เลือดดำไหลเข้าตับไม่ได้ ทำให้เส้นเลือดำบริเวณทวารหนักโป่งพอง
8.อายุสูงวัยขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยานลง จนทำให้เบาะรอง (cushion) เลื่อนลงจนยื่นออกมาจากทวารหนัก
9.โดยไม่ทราบสาเหตุ พบว่าบุคคลที่มีประวัติในครอบครัวเป็นริดสีดวงทวารหนักจะมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าปกติ
ริดสีดวงทวารหนักจะกลายเป็นมะเร็งหรือไม่
ไม่อย่างแน่นอน ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ระหว่างริดสีดวงทวารหนักและมะเร็ง แต่ทั้ง 2 โรคมักพบในผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังเช่นเดียวกัน และมักมีอาการเลือดออกมาทางทวารหนักเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดความสับสนได้
เลือดออกทางทวารหนักอาจเกิดจากมะเร็งนั้น จะแตกต่างจากเลือดสดๆ สีแดงที่ออกมาภายหลังถ่ายอุจจาระจากริดสีดวงทวารหนัก เพราะจะเป็นเลือดสีแดงคล้ำปนมากับก้อนอุจจาระเนื่อจากตำแหน่งที่พบมะเร็งบ่อยนั้นคือ บริเวณลำไส้ตรงไม่ใช่บริเวณทวารหนักจริงๆ มะเร็งทวารหนักเพราะมักลุกลามลงมาด้านล่าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อปัจจัยส่งเสริมการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ก็คือ ภาวะท้องผูกเรื้อรัง ดังนั้นในผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวารหนักที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป จัดอยู่ในบุคคลที่มีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็ควรได้รับการตรวจลำไส้ใหญ่อย่างละเอียดตลอดความยาว โดยไม่ควรนิ่งนอนใจว่าผู้ป่วยจะมีแต่โรคริดสีดวงทวารหนักเพียงโรคเดียว
คลินิกศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร.1719