ไลฟ์สไตล์

รมช.ศธ.ชงทางแก้ปัญหาเด็กวิทย์- คณิตฯอ่อน 27 มี.ค.นี้

รมช.ศธ.ชงทางแก้ปัญหาเด็กวิทย์- คณิตฯอ่อน 27 มี.ค.นี้

25 มี.ค. 2552

“รมช.ศธ.” ฝากครูรุ่นใหม่สร้างเด็กดี เก่ง มีคุณธรรม อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ย้ำอย่าสอนแต่วิชาที่ตนเองจบ ให้สอดแทรกการใช้ภาษไทยอย่างถูกต้องด้วย และรู้จักใช้อินเตอร์เน็ตให้ถูกทาง โวยขณะนี้คนอาชีพครู เยอะกว่าครูมืออาชีพชงทางแก้ปัญหาเด็กวิทย์- คณิต อ่อนต่อที

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2552  เวลา 13.00 น.ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง(ม.ร.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวมอบนโยบายให้แก่นักศึกษาในการประชุมสัมมนาเพื่อเตรียมการบรรจุนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับปริญญาตรี (หลักสูตร 5 ปี) รุ่นปีการศึกษา 2547 พร้อมกล่าวบรรยายในหัวข้อ “การเป็นครูมืออาชีพรุ่นใหม่ ” ตอนหนึ่งว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณจำนวนมากถึง 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นความตั้งใจของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องการผลิตครู และตามความตั้งใจของศธ.อยากดำเนินการให้ทุนต่อในรุ่นที่ 2 และรุ่นต่อๆ ไป แต่คงต้องรอดูผลการประเมินการทำงานจริงของรุ่นแรกก่อนว่าประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน เพราะต่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการฝึกสอนออกมาดีมาก ก็ต้องดูการทำงานจริงก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

 “ต้องยอมรับว่าการศึกษาทุกระดับตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงมหาวิทยาลัยมีปัญหาเรื่องคุณภาพ ทั้งเรื่องงบประมาณ สื่อการเรียนการสอน แต่ที่สำคัญคือ เรื่องการพัฒนาคุณภาพครู ที่ต้องใส่จิตวิญญาณความเป็นครูเข้าไป ดังนั้น ตอนนี้ต้องมาคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้ผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น และสามารถให้ความรู้ทางวิชาการ การศึกษาที่ดีไม่ได้หมายความว่าให้เด็กที่จบออกไปแล้วเรียนเก่งอย่างเดียว แต่ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขได้” รมช.ศธ.กล่าว

  นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า  เท่าที่ดูผลการประเมินของนักศึกษาจากโครงการนี้ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีความมั่นใจในวิชาชีพครู แต่หลังจากเข้ารับการอบรมแล้วพบว่ามีความมั่นใจและอยากเป็นครูที่ดี เป็นครูมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งอยากให้มีครูมืออาชีพมากๆ เพราะปัจจุบันนี้มีคนประกอบอาชีพครูเยอะ แต่ไม่ค่อยมีครูมืออาชีพ ถึงเวลาแล้วที่ต้องมองว่าการผลิตครูยังติดปัญหา หรือขาดเหลืออะไรบ้าง เท่าที่ดูเนื้อหา หลักสูตร ผลการประเมินเบื้องต้นถือว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่คงต้องติดตามผลการทำงานสักประมาณ 6 -12 เดือน ว่าจะเป็นอย่างไร แล้วค่อยมาดูว่ารุ่น 2 และรุ่น 3 จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

 รมช.ศธ. กล่าวต่อไปว่า อยากให้ครูรุ่นใหม่แนะนำเรื่องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้เด็กสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง หากเด็กนำไปใช้ในหาความรู้ก็จะเกิดประโยชน์มาก แต่ปัจจุบันเด็กยังไม่ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ภาษาอินเตอร์เน็ตยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาษาไทยวิบัติ จึงอยากให้คนไทยซึ่งมีเอกลักษณ์วัฒนธรรม และภาษาเป็นของตัวเองใช้ให้ถูกต้อง ไม่ใช่แค่อ่านออกเขียนได้ แต่ต้องคิด วิเคราะห์เป็นด้วย

 “อยากให้ครูช่วยส่งเสริมการเรียนการสอนในรายวิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ให้พัฒนามากยิ่งขึ้น เนื่องจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของวิชาทั้งหมดอยู่ในขั้นวิกฤต และครูรุ่นใหม่ซึ่งแบ่งเป็นครูวิทย์ประมาณ 600 คน ครูคณิตฯประมาณ 600 คน ครูภาษาไทยประมาณ 200 คน และครูภาษาอังกฤษประมาณ 400 คน ที่เหลือเป็นวิชาอื่นๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะให้ครูรุ่นใหม่ ทั้ง 2,000 กว่าคน และกระจายอยู่ทุกสาขาวิชา เน้นสอนเฉพาะวิชาหลักที่ตัวเองจบมาเท่านั้นแต่อยากให้สอดแทรกเรื่องการใช้ภาษาไทย เพราะทุกวิชาต่างต้องนำภาษาไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงต้องฝึกให้เด็กรักการอ่านมากขึ้นด้วย”รมช.ศธ.กล่าว

 รมช.ศธ. กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการยกระดับคุณภาพการศึกษาในรายวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาไทย ซึ่งคณะทำงานได้หารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหา และจะนำข้อสรุปเสนอให้ที่ประชุมศธ. พิจารณาร่วมกันในวันที่ 27 มี.ค.นี้ โดยเบื้องต้น เสนอให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายไปพร้อมๆกัน อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้ที่ประชุมพิจารณาก่อนว่าจะยกระดับเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติหรือขับเคลื่อนในระดับกระทรวง