
แฉเหยื่อค้ามนุษย์อายุน้อยสุดเด็กหญิงไทย-พม่า11ขวบส่งค้ากาม
เผยเหยื่อค้ามนุษย์อายุน้อยสุดเด็กหญิงไทย-พม่า 11 ขวบส่งค้ากาม พบมาก 4 จังหวัดหัวเมือง ส่วนแรงงานประมงถูกหลอกลงเรือต่อเนื่อง เหตุภาวะขาดแรงงานประมงกว่า 1 หมื่นอัตรา ตำรวจชี้คนร้ายหันค้ามนุษย์มากกว่าค้ายา ค้าอาวุธ เพราะค่าตอบแทนสูง-เสี่ยงน้อย อิสสระบินลงน
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2552 ที่โรงแรมเอเชีย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา จัดสัมมนา “แนวทางการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์แรงงานภาคประมง” มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนใน 29 จังหวัด ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสัมมนา โดยนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดว่า นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.) ได้แต่งตั้งอนุกรรมการฯ ที่มีรองนายกฯ เป็นประธานเพื่อพิจารณาศึกษาหาแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ โดยเฉพาะค้ามนุษย์รูปแบบแรงงานเรือประมง ซึ่งมีกองบังคับการตำรวจน้ำ กองทัพเรือ กรมประมง สมาคมประมง ร่วมเป็นอนุกรรมการ เนื่องจากไทยมีเรือประมงมากที่สุดในเอเชียตอนล่างมีการลักลอบสร้างหลักฐานปลอมนำแรงงานลงเรือหาปลา โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทั้งไทย เขมร พม่า
“แรงงานกลุ่มนี้เป็นทั้งเหยื่อและเป็นผู้ก่ออาชญากรรมเอง ล่าสุดแรงงานพม่า3คน ฆ่านักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อขโมยเรือยาง ส่วนที่เป็นเหยื่อในเรือประมงหลังถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาสจะถูกโยนทิ้งทะเลไปก็มีจำนวนมาก เฉพาะในกรุงเทพฯ พบเป็นแสนคนที่มีปัญหาค้ามนุษย์ ซึ่งในวันที่ 24 เม.ย.นี้ผมจะเป็นตัวแทนรัฐบาลไทยไปร่วมลงนามกับรัฐบาลพม่าเพื่อร่วมมือแก้ปัญหาค้ามนุษย์ทุกเรื่อง รวมทั้งปัญหากลุ่มโรฮิงญาที่ไทยถูกมองว่าไปทารุณคนกลุ่มนี้ทั้งที่เราเป็นผู้ช่วยเหลือจากการถูกทารุณมาจากที่อื่น” นายอิสสระ กล่าว
นางสุวจี กู๊ด ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือไอแอลโอ(ILO) กล่าวรายงานสถานการณ์การบังคับใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดว่า ไอแอลโอช่วยเหลือแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ใน ปี 2551- 2552 จำนวน 649 ราย ร้อยละ 48 เป็นเหยื่อค้ามนุษย์จากแรงงานประมง ซึ่ง 3-4 ปี ที่ผ่านมาพบว่ามีการนำแรงงานเด็กแฝงทำงานนอกระบบในชุมชน กลุ่มผิดกฎหมายทั้งค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ค้าสิ่งเสพติด เด็กที่ถูกค้ามนุษย์อายุน้อยสุดประมาณ 11 ปี เป็นเด็กหญิงไทยและต่างชาติพม่า เขมร โดยนำไปเป็นแรงงานในบ้าน ใช้วิธีกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ทำงานหนักไม่ได้กินอาหารไม่ได้รับค่าจ้าง
นางสุวจี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ มีการนำเด็กไปทำงานในร้านอาหาร บาร์ คาราโอเกะ ให้เด็กทำงานในครัวไปจนถึงงานเสิร์ฟอาหารและถูกนำไปค้าประเวณี พบมากตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด อาทิ เชียงราย สมุทรสาคร สงขลา และปัตตานี ซึ่งน่าสนใจว่าพื้นที่มุสลิมอย่างปัตตานีกลับมีร้านบาร์เหล้าและนำเด็กไปแฝง ค้าบริการ อีกทั้ง พบว่านิยมนำเด็กไทยอายุ 14-15 ปี ไปเป็นเด็กเชียร์เบียร์ ไม่ทราบว่าทำเป็นอาชีพหรืองานพิเศษ โดยหน่วยงานควบคุมดูแลไม่เคยเข้าไปตรวจสอบแต่อย่างใด
นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ขณะนี้มีเหยื่อค้ามนุษย์จากเรือประมงกว่า 70 ราย ได้รับการช่วยเหลือ ส่วนอีก 145 ราย กำลังคัดแยกเหยื่อ ซึ่งการล่อลวงเหยื่อค้ามนุษย์ยังมีต่อเนื่องเท่าที่มีข้อมูลพบมีนายหน้าค้ามนุษย์ไม่ต่ำกว่า 30 ราย โดยเฉพาะค้ามนุษย์แรงงานประมงเนื่องจากภาวะขาดแคลนแรงงานประมง 10,000 อัตรา ตามที่สภาอุตสาหกรรมฯแจ้งไว้ ไม่เพียงผู้ใหญ่เท่านั้นแต่ยังมีการนำเด็กผู้ชายอายุ 15-17 ปี ไปใช้แรงงานในเรือ วิธีการที่ใช้หลอกลวง อาทิ พูดหว่านล้อม หลอกให้ดื่มน้ำใส่ยานอนหลับ เข้ามาชวนพูดคุยและพ่นบุหรี่ใส่หน้าให้สลบ พาไปเลี้ยงกินเที่ยวหญิงบริการจนเป็นหนี้เป็นสินแล้วถูกบังคับลงเรือ
พ.ต.ท.โชคชัย งามวงศ์ รองผกก.3บก.ปดส. กล่าวว่า จากการตรวจค้นบ้านที่เป็นแหล่งกักขังเหยื่อค้ามนุษย์แรงงานประมง พบเอกสารบันทึกข้อมูลเดือนก.ค.2551 ว่าแต่ละวันบ้านนี้จะได้รับเหยื่อเข้ามาวันละ 2-3 ราย โดยจะจ่ายเงินค่าหัวเหยื่อรายละ 2,000 บาท จากนั้นจะส่งต่อเหยื่อไปรายละ 4,000 บาท โดยมีรายได้รวม150,000 บาท ขณะที่เดือนต.ค.2551 ได้ 200,000 บาท จำนวนเงินมหาศาลกับการเสี่ยงถูกจับนิดหน่อยทำให้จูงใจคนหันมาค้ามนุษย์มากขึ้น เพราะเสี่ยงน้อยกว่าการค้ายาหรือค้าอาวุธที่มีของกลางชัดเจน
พ.ต.ท.โชคชัย กล่าวอีกว่า แหล่งค้ามนุษย์โดยเฉพาะสนามหลวงมีการล่อลวงเฉลี่ยวันละ 2-3 ราย และหัวลำโพงรู้ตัวคนกระทำแล้วว่ามีใครบ้าง กำลังอนุมัติออกหมายจับ อยากขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหานี้ เพราะเหยื่อน่าสงสาร ล่าสุดช่วยเหลือเหยื่อรายหนึ่งได้เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2552 ขณะกำลังจะถูกบังคับลงเรือประมงสภาพเมาไม่รู้เรื่อง โดยเหยื่อถูกล่อลวงมาค้ามนุษย์ตั้งแต่ปี 2541 ปีหนึ่งจะถูกบังคับให้ลงเรือ 3-4 ครั้ง เวลาที่เหลือจะถูกขังในเรือกลางทะเล ขณะนี้ส่งกลับจ.อุบลราชธานีไปอยู่กับญาติเรียบร้อยแล้ว